เมื่อตำรวจมาถึงบ้านของหญิงชราคนดังกล่าว (ซึ่งไม่ไกลจากบ้านเลขที่ 513 ถนน Bass มากนัก) เจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้าไป เพื่อจะพูดคุยกับหญิงเคราะห์ร้าย ในตอนนี้หญิงเคราะห์ร้ายคนนั้น มีผ้าคลุมอาบนำ้คลุมตัวอยู่ หลังจากที่เห็นเจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้ามา เธอวิ่งออกมาหาเจ้าหน้าที่พร้อมกับพูดซ้ำไปซ้ำมา “don’t let them take me, please don’t let them take me” จนเจ้าหน้าที่ต้องพากันสงบสติอารมณ์เธอแล้วพาตัวส่งโรงพยาบาล
Cynthia Vigil :The one that got away ในขณะออกมาให้สัมภาษณ์ขอร้องให้คนออกมาให้เบาะแสกเกี่ยวกับผู้สูญหายรายอื่นที่น่าจะเป็นเหยื่อของ David Parker Ray
Cr:Jim Thompson/Journal
Kelly Van Cleve คือเจ้าของรอยสักดังกล่าว เธอติดต่อเจ้าหน้าที่ FBI เพื่อเข้าให้ปากคำ เมื่อ Kelly ได้ยินว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงพยายามตามหาตัวเธอ เธอตกใจเป็นอย่างมาก เพราะ Kelly จำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย แต่เธอมั่นใจว่า เรื่องที่ปรากฎอยู่ในเทปดังกล่าว น่าจะเกิดขึ้นในตอนที่ความทรงจำของเธอนั้น หายไปทั้งหมด 3 วันเต็มๆด้วยกัน
Kelly เล่าให้กับเจ้าหน้าที่ฟังว่า ย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคม ปี 1996 Kelly อาศัยอยู่กับสามีในเมืองที่มีชื่อว่า “Truth or Consequnces” ซึ่งอยู่ห่างจาก Elephant Butte แค่เพียง 7 ไมล์เท่านั้น Kelly พึ่งแต่งงานกับสามีได้แค่เพียง 2 อาทิตย์แต่ก็ทะเลาะกันบ่อย ในคืนวันที่ 24 กรกฎาคม ปี 1996 Kelly ทะเลาะกับสามีหนักมาก จึงออกไปกินเลี้ยง สังสรรค์กับเพื่อนที่บาร์ที่มีชื่อว่า The Blue Water Saloon เมื่อไปถึงได้ซักพัก มีเพื่อนคนนึงเกิดอาการเมาหนัก Kelly ไปส่งเพื่อนคนนั้นที่บ้าน ก่อนจะกลับมาดื่มกินต่อที่บาร์ พอกลับมาถึงที่บาร์ ดันมีเพื่อนเหลืออยู่คนเดียว เพื่อนคนนั้นคือ “Jesse Ray” พอ Kelly เริ่มดื่มเบียร์ไปได้แค่เพียงแก้วเดียวก็มีอาการมึนหัว จะหลับตลอดเวลา เธอแปลกใจว่า ทำไมเบียร์แก้วเดียวถึงทำไห้ตัวเองเมาได้ขนาดนี้ Kelly บอกกับ Jesse ว่าตัวเองนั้นเมามาก ขับรถกลับบ้านไม่ไหว Jesse อาสาพา Kelly ไปนอนค้างบ้าน “พ่อ”ของเธอ ที่อยู่ไม่ไกลนัก ก่อนที่จะพา Kelly เดินออกมาที่ลานจอดรถ ยังไม่ทันที่จะเดินถึงรถ Kelly ก็หมดสติไป
Jesse Ray ในขณะที่ไปขึ้นศาล
Kelly สลึมสลือ รู้ว่าตัวเองนั่งอยู่บนโซฟา มีคนเอาเชือกมามัดตัวเธอบ้าง และเอาปลอกคอมารัดรอบคอเธอบ้าง แต่จำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ Kelly มารู้ตัวอีกที ก็คือตอนที่ตัวเองมาอยู่ที่บ้านแม่สามี และถูกทั้งแม่สามีและสามีด่าทอต่อว่าอย่างหนัก โดยกล่าวหา Kelly ที่หายตัวไปสามวัน และจำอะไรไม่ได้เลยนั้นว่าเธอโกหก และแอบไปมีชู้ แม่สามีบอก Kelly ว่า มี Park Ranger คนนึงไปเจอ Kelly เดินอยู่ริมถนน จึงเอามาส่งบ้าน เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตราย (Park Ranger คนนั้นคือ David นั้นเองค่ะ) และที่ Kelly อ้างว่าจำอะไรไม่ได้ทั้งสามวันเป็นไปไม่ได้ สามีของ Kelly นั้นถึงกับยื่นเรื่องฟ้องหย่า Kelly หลังจากนั้น และ Kelly ถึงกับต้องย้ายไปอยู่ที่รัฐ Colorado ถึงแม้จะย้ายไปแล้ว Kelly ก็ไม่อธิบายได้ว่า ทำไมหลังจากนั้น ตัวเองถึงมีฝันร้ายบ่อยๆ ถึงการที่ตัวเองโดนทำร้าย โดนข่มขืน โดนทรมานต่างๆนาๆ แถมยังเกิดอาการกลัวเทปกาวเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน จนได้มาดูเทปตัวเองจากเจ้าหน้าที่ FBI ถึงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
1
**ในบางข้อมูลก็บอกว่า Kelly นั้นโดนปาดคอแล้วเอาไปทิ้งไว้ข้างถนน จนมีคนมาเจอ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปสอบปากคำ Jesse เธอปิดปากเงียบ ปฏิเสธลูกเดียว และไม่ยอมซัดทอดคำให้การไปยังพ่อของตัวเองอีกด้วย ต่างจาก Roy Yancy ที่พอตำรวจไปถามก็พรั่งพรูออกมาหมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
Roy สารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่า Jesse กับเขาเคยลักพาตัวผู้หญิงคนนึงมาจากบาร์ The Blue Water Saloon ที่ตั้งอยู่ในเมือง Truth or Consequences ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่า Marie Parker เธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสอง และเป็นแฟนเก่าของ Roy หลังจากที่นำ Marie มาที่บ้านของ David และ “Toy Box” แล้ว David สั่งให้ Roy จัดการรัดคอฆ่า Marie ทิ้งเสีย ก่อนจะพากันเอาศพ Marie ไปทิ้งในหลุมศพที่ขุดกัน ณ บริเวณหุบเขาตื้นๆ Roy พาเจ้าหน้าที่ไปที่ฝังศพดังกล่าว เพราะเขาจำได้แม่นว่าฝังไว้ที่ไหน แต่เจ้าหน้าที่ขุดหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ Roy มั่นใจว่า David ย้อนกลับมาหลังจากนั้นแล้วย้ายศพเอาไปทิ้งไว้ที่อื่น
2
Roy Yancy
เจ้าหน้าที่นั้น ถึงมั่นใจว่า David นั้นน่าจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าผู้หญิงมามากกว่า 60 ราย (รายแรกเริ่มต้นเมื่อ David มีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น) แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีหลักฐานอื่น และไม่มีพยานอื่น (ศพก็ไม่มี) จึงทำเรื่องส่งฟ้อง David Parker Ray ในข้อหา ลักพาตัว ข่มขืน และทำร้ายร่างกายเท่านั้น
ในการพิจารณาคดีในครั้งแรก ฝ่ายทีมกฎหมายของ David ต่อสู้ว่า David ไม่เคยลักพาตัวใครมาแบบไม่เต็มใจ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องรสนิยมทางเพศ ทุกคนนั้นพอมาถึงที่นั้นก็อยากลองอะไรใหม่ๆ แต่พอกลับไปแล้ว ผู้หญิงบางคน ไม่อยากมีประวัติที่แบบ เออ เคยร่วมกิจกรรมอะไรแบบนั้นนะ เข้าใจไหม? เลยบอกกับทุกคนว่าโดนลักพาตัวมาและข่มขืน (จ้า พ่อคุณ)
1
การขึ้นศาลครั้งแรก ผลออกมาว่าลูกขุนมีความเห็นไม่เป็นเอกฉันท์ แตกออกเป็นสองเสียง ทำให้ไม่สามารถตัดสินลงโทษ David ได้ และเกิดการ mistrial ขึ้น อธิบายง่ายๆเลยคือ ต้องส่งเรื่องเข้าสู่การพิจารณาคดีใหม่ โดยใช้ลูกขุนใหม่ ผู้พิพากษาใหม่ จนในครั้งที่สองนี้ ลูกขุนเชื่อว่า David มีความผิดจริงและตัดสินให้เขาจำคุกเป็นระยะเวลา 224 ปี ด้วยกัน อนิจจา น่าเสียดายที่ติดคุกไปหลังจากนั้นได้แค่ 8 เดือน David Parker Ray ก็ล้มลงขาดใจตายในคุก ด้วยอาการหัวใจวายตาย (ง่ายจังนะ)
Cindy แฟนสาวนั้น ถูกสั่งจำคุกทั้งหมด 36 ปีด้วยกัน แต่ติดจริงๆแค่ 20 ปีเท่านั้น ส่วน Roy Yancy ก็ถูกสั่งจำคุกทั้งสิ้น 15 ปี แต่ได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่ติดคุกเพียง 11 ปี (น้อยมาก แต่น่าจะเพราะให้การเป็นพยาน บวกกับบอกว่า David ข่มขู่ให้ฆ่า ไม่งั้น Roy จะโดนฆ่าแทน หรือเข้าทำข้อตกลงกับรัฐ? ถึงติดเท่านี้ เศร้าจัง)
ในส่วนของ Jesse Ray ลูกสาวของ David นั้น ถูกศาลส่งไปจำคุก 9 ปี แต่ระยะเวลา 6 ปี จาก 9 ปี ให้กักบริเวณนอกคุกแทน (อะไรหะเนี่ยยยยยยยยยยย นี่ตัวเด็ดเลยนะ ถ้าไม่มีรายนี้อาจจะไม่มีเหยื่อมากขนาดนี้ด้วย)
1
**เจ้าหน้าที่สงสัยว่า มีผู้หญิงอีกหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อของ David Parker Ray เพราะในตอนก่อนที่ทุกคนจะหายตัวไปนั้น หลายคนถูกพบเห็นว่าพูดคุยอยู่กับ Jesse Ray
ทุกวันนี้ เจ้าหน้าที่ FBI ยังเก็บของใช้ เครื่องประดับของผู้หญิงที่เจอในรถ Toy Box และในบ้านของ David Parker Ray อยู่ และยังเอาขึ้น website เพื่อตามหาเจ้าของสิ่งของเครื่องใช้ดังกล่าว ตัวรถ Toy Box ของ David นั้นก็ยังถูกจอดไว้ยังสถานที่เก็บพยานหลักฐานของ FBI ที่ตั้งอยู่ในรัฐ New Mexico