วันนี้เรามาทำความรู้จักกับชายที่มีบทบาทอย่างมากในราชวงศ์ของรัสเซีย
ชายที่ใหญ่13นิ้ว.....ชายที่มีคาถามนต์ดำ
ผู้ที่ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย. กับรัสปูติน
รัสปูตินเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ.1869ในครอบครัวชาวนาไซบีเรีย เขาได้รับการศึกษาเพียงเล็กน้อยและอาจไม่เคยเรียนรู้ที่จะอ่านหรือเขียน ในช่วงปีแรก ๆ บางคนในหมู่บ้านของเขากล่าวว่าเขามีพลังเหนือธรรมชาติบวกกับนิสัยเงียบขรึมของเขาและบางครั้งก็ชอบทำอะไรที่แปลกๆจนทำให้ผู้คนรอบข้างหวาดกลัว ปัจจุบันนักประวัติศาสตร์เชื่อว่า "รัสปูติน" หมายถึง "จุดที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน" ซึ่งเป็นคำที่อธิบายถึงพื้นที่ใกล้ที่เขาเกิด ในไซบีเรีย
รัสปูตินเข้าสู่อาราม Verkhoture ในรัสเซียด้วยความตั้งใจที่จะเป็นนักพรตในศาสนจักรออโธดอกซ์ แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาแต่งงานกับ Proskovia Fyodorovna( ปราสโกเวีย เฟโอโดรอฟนา) และต่อมามีลูกสามคน ได้แก่ Dmitri (ดิมิตรี) Varvara(วัววารา) Maria(มาเรีย) (ลูกชาย2คนเสียชีวิตหลังคลอดไม่นาน) อย่างไรก็ตามในช่วงปี 1901 รัสปูตินได้ละทิ้งครอบครัวและเดินทางไปกรีซและเยรูซาเล็ม 2 ปี วิถีของเขาก็เริ่มเข้าสู่โลกแห่งศาสนาออร์โทดอกซ์รัสเซีย ซึ่งรัสปูตินมีความเชื่อในนิกายชื่อว่า “The Skopaty” (เธอะ สโกปส์ตี) เป็นนิกายที่มีความเชื่อว่า “เพื่อให้หลุดพ้นจากบาป ต้องทำบาป”
แต่บางแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่าเข้าได้เข้าหานิกายที่ชื่อว่า “Khlysty” (คริสติ) ซึ่งเป็นนิกายที่เชื่อในการทรมานตัวเอง และแสดงศรัทธาต่อพระเจ้าด้วยพิธีกรรมที่โน้มนำจิตเข้าสู่ภวังค์ “การปราศจากกิเลสตัณหาอันศักดิ์สิทธิ์” และคนที่จะเข้าถึงภาวะดังกล่าวได้ก็จะต้องผ่านการร่วมเพศแบบมาราธอนจนหมดความกระหายทางเพศไป ในการไถ่บาปผ่านการปลดปล่อยทางกามารมณ์นั้น ทำให้สตรีมากมายที่ศรัทธาในนิกายนี้ต้องทำการร่วมเพศกับเขาก่อน
อย่างไรก็ตามทั้งสองนิกายนี้ก็เป็นนิกายนอกรีตที่สนับสนุนการทำบาทเพื่อหาหนทางเข้าไกล้พระเจ้าในที่สุด รัสปูตินก็กลายเป็นนักบวช แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแสดงความเป็นนักบวชผู้เคร่งในศีลในธรรมมุ่งและกลับมารัสเชียเขาได้อ้างว่าตนเองเป็นผู้มีพลังพิเศษสามารถทำนายอนาคตและรักษาโรคได้
ในปี 1903 การเร่ร่อนของรัสปูตินได้พาเขามาที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กซึ่งเขามาถึงพร้อมกับชื่อเสียงในฐานะผู้รักษาผู้ลึกลับและศรัทธา
ปี 1905 เขาได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ Czar Nicholas II ของรัสเซียและภรรยาของเขา Alexandra Feodorovna ซึ่งกำลังขอความช่วยเหลือให้ Alexis ลูกชายที่ป่วยของพวกเขา รัสปูตินได้ตอบรับการรักษา องค์ชายอเล็กไซที่เป็นโรคฮีโมฟีเลีย
รัสปูตินเดินทางมาในพระราชวัง และสามารถรักษาพระอาการป่วยขององค์ชายอเล็กไซ พระมารดาขององค์ชายอเล็กไซ และพระเมหสีในพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 จึงขอให้รัสปูตินเข้ามาอยู่ในวัง เพื่อดูแลอเล็กไซต่อ ทำให้ชีวิตของรัสปูติน เริ่มมีบทบาทและอำนาจขึ้นมา
หลังจากรัสปูตินอยู่ในวังหลวงได้สักพัก รัสปูตินก็เริ่มจัดงานเลี้ยงเพื่อล้างบาป รัสปูตินจึงอาศัยอิทธิพลของเขาเผยแพร่ลัทธิและสร้างเรื่องอื้อฉาว มีสตรีสมัยใหม่จำนวนมากมายในนครหลวงที่ตกเป็นทาสกามของรัสปูตินอย่างเต็มใจ
ช่วงนั้นเป็นที่พูดกันอย่างหนาหูมากจากสตรีที่เข้าไปล้างบาปด้วยการร่วมเพศกับรัสปูตินว่าขนาดของอวัยวะเพศของรัสปูตินนั้นใหญ่มหิมา
รัสปูตินจัดตั้งสำนักขึ้นในที่พักของเขา และบรรดาสุภาพสตรีมากมายได้มารอรัสปูตินเชิญเข้าไปในห้องนอนซึ่งเขาเรียกเอาเองว่า “ ห้องศักดิ์สิทธิอันเป็นที่หวงห้าม ” คนที่เต็มใจเป็นคู่ขาในทางกามารมณ์ของรัสปูตินมีอยู่หลายคน แต่มักจะไม่ปรากฏนามอย่างเปิดเผย ส่วนใหญ่เป็นชนชั้นสูงหรือผู้มีชื่อเสียง เช่น นักแสดงหญิง ภรรยาทหาร
ซึ่งงานเลี้ยงแต่ละครั้ง ก็ใช้เงินมาก และยิ่งนานวัน รัสปูตินยิ่งสั่งจัดงานเลี้ยงล้างบาปบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนดูพร่ำเพรื่อ และคนภายนอกเริ่มมองว่ารัสปูตินต้องการเสวยสุขจากงานเลี้ยงมากกว่า
จนทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐพยายามเตือนจักพรรดินีอเล็กซานดราถึงอิทธิพลที่ไม่เหมาะสมของรัสปูติน แต่จักพรรดินีอเล็กซานดรายังคงปกป้องเขาโดยให้ความรู้สึกว่ารัสปูตินเป็นที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดที่สุด
วาระสุดท้ายของรัสปูตินเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เป็นปริศนา
คำให้การของเจ้าชายยูซูปอฟ กับนายวลาดิเมียร์ ปูริชเควิช สองมือสังหารที่ปลิดชีวิตรัสปูติน ระบุว่าเจ้าชายยูซูปอฟไปรับตัวรัสปูตินเมื่อคืนวันที่ 30 ธันวาคม 1916 (บันทึกบางแหล่งข่าวแจ้งว่าเป็นวันที่ 29)
โดยอ้างว่าเจ้าหญิงอิรินา อเล็กซานดรอฟนา พระชายา ต้องการพบตัวรัสปูติน ทั้งที่ในความเป็นจริงตอนนั้น เจ้าหญิงอิรินาไม่ได้อยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่อยู่ที่ตำหนักของตระกูลยูซูปอฟในไครเมียเจ้าชายยูซูปอฟอ้างว่าเขานำรัสปูตินลงไปชั้นล่าง และให้รัสปูตินกินเค้กอาบยาพิษ แต่เค้กก็ทำอันตรายอะไรรัสปูตินไม่ได้กลุ่มลอบสังหารของเจ้าชายยูซูปอฟจึงตัดสินใจยิงซ้ำ 4 นัด รัสปูตินล้มลงแต่ยังไม่ตาย ฆาตกรอีกคนหนึ่งจึงใช้มีดเฉือนอวัยวะเพศของรัสปูติน แล้วโยนไปอีกด้านหนึ่งของห้อง หลังจากนั้นจึงมีการทุบตีรัสปูตินซ้ำลงไป แล้วจับมัดแล้วโยนลงแม่น้ำเนวาอัน ทำให้รัสปูตินจมน้ำตายไปในที่สุดซึ้งศพถูกค้นพบในสามวันต่อมา สำหรับอวัยวะเพศของรัสปูตินที่ถูกโยนไปนั้น มีเรื่องเล่ากันว่า มีคนรับใช้ผู้ชายได้เก็บ “ สิ่งที่ถูกเหวี่ยงทิ้ง ” ไปให้แก่สาวใช้คนหนึ่ง และปรากฏว่าได้พบตัวสาวใช้ผู้นั้นที่ปารีสในปี 1968 หล่อนยังเก็บรักษา ไว้ในหีบไม้ขัดมัน
(ปัจจุบันอวัยวะเพศของรัสปูตินถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์อิโมติกา เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก)
แม้ว่ารัสปูตินจะจากไป ไม่นานก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเขาเขียนถึงนิโคลัสเพื่อทำนายว่าถ้าเขาถูกสังหารโดยคนในราชวงศ์. ราชวงศ์ทั้งหมดจะถูกสังหารโดยคนรัสเซีย คำทำนายของเขาเป็นจริงใน 15 เดือนต่อมา ราชวงศ์ทุกคนถูกสังหารโดยมือสังหารท่ามกลางการปฏิวัติรัสเซีย
ข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นนี้อาจมีการคลาดเคลื่อนทั้งวันที่ ปี ค.ศ เนื่องจากจากก่อนการปฎิวัติรัสเซียได้มีการใช้ปฎิทินจูเลียน
หากข้อมูลที่ผู้เขียนได้รวบรวมมามีการตกหล่นหรือขาดอะไรขออภัยด้วยจ้า
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
