Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Chill Chat at Work
•
ติดตาม
7 ก.พ. 2021 เวลา 02:10 • ครอบครัว & เด็ก
โศกเศร้า... เมื่อสูญเสีย...
เคยมีเพื่อนรุ่นน้องคนนึง นั่งทำงานไปร้องไห้ไป...
ถามว่าเป็นไร... บอกว่า หมาที่เลี้ยงตาย... แล้วก็บ่นต่อว่า คนตายยังไม่ร้องไห้มากเท่านี้เลย...
แรกๆ ก็ไม่เข้าใจนะ เพราะตัวเองไม่ใช่คนชอบเลี้ยงสัตว์ แต่พอได้อ่านได้ฟังคนที่ชอบเลี้ยงหมาเล่าให้ฟังถึงรู้ว่า หมาเป็นสัตว์ที่มีความน่ารัก (เหมือนเด็กเล็กๆ) ซื่อสัตย์และรักเจ้านายด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่เสแสร้ง เป็นเพื่อนยามเหงา และตรอมใจถ้าเจ้านายหายไป...
แต่ก็เหอะ ไม่ใช่ทุกคนจะชอบหมานะ... คนกลัวยังไงก็กลัว ไม่ชอบยังไงก็ไม่ชอบ... เจ้าของมักบอกว่า มันไม่กัดหรอก... บางทีงับติดเท้าอยู่ ยังบอก ไม่กัดหรอก...
ก็ต่างจิตต่างใจนะ เอาเป็นว่า อยากเลี้ยงก็เลี้ยงไป แต่ดูแลให้ดี อย่าให้ไปเดือดร้อนคนอื่นก็แล้วกัน...
กลับมาเรื่องการสูญเสียคนใกล้ตัวหรือคนที่เรารักดีกว่า...
ตนเองเคยไปงานศพแล้วถูกถามว่า รู้มั้ยทำไมมางานศพกัน? คนถามก็เฉลยว่า มาเพื่อมาขออโหสิกรรมผู้วายชนม์ เผื่อได้เคยทำอะไรไม่ดีต่อกันไว้...
ก็ยังสงสัยอยู่ว่า แค่นั้นเหรอ...
ตนเองเคยไปงานศพก็หลายงาน ส่วนใหญ่ก็เห็นมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์ หรือ เพื่อเป็นเกียรติแก่ญาติพี่น้อง เจ้าภาพ... ผู้บริหารบางคนก็มาให้เจ้าภาพเห็นตัว ทักทาย แล้วก็รีบเผ่นไปอีกงาน... ปรากฎว่า คืนนึงไป 3-4 งาน ทั้งงานศพ งานแต่ง ถ้าเป็นผู้ชายก็แค่เปลี่ยนสีเนคไทเอา... ยิ่งงานศพของบิ๊กๆ ด้วยแล้ว โอ้โฮ คนแน่น รถติด มองแล้วไม่รู้ใครเป็นใคร (ถ้าเป็นสมัยโควิด ก็คงมีโอกาสเจอ super-spreader?)
สำหรับตนเองแล้วรู้สึกว่า เรามางานศพเพื่อมาให้กำลังใจ มาแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติ... จนบางทีกลับรู้สึกว่า งานศพเป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อคนที่ยังอยู่ ให้ได้บรรเทาความตกใจ โศกเศร้า... ได้มีเพื่อนฝูงคนรู้จักมาร่วมทุกข์ (shared sufferings) เพราะเวลาที่เป็นทุกข์อยู่คนเดียวนี่มันทุกข์หนัก แต่พอมีคนมาร่วมทุกข์ด้วยมันแบ่งเบากันไป บางทีก็มาช่วยปลอบใจ ไม่ให้รู้สึกว่าต้องโดดเดี่ยวเกินไป...
พิธีกรรมหรือกระบวนการในการจัดงานก็มีเรื่องต้องทำมากมาย... ทำให้ครอบครัวหรือญาติต้องเบี่ยงเบนความสนใจไปกับเรื่องอื่นๆ เช่น การจัดงาน การรับแขก... และให้เวลาช่วยเยียวยาความโศกเศร้า ซึ่งมักผ่อนลงตามเวลาที่ผ่านไป เพราะการอยู่กับความคิดวนเวียนอยู่คนเดียวจะยิ่งทำให้แย่ลง...
เคยมีคนลางานทั้งสัปดาห์เพื่อทุ่มเทเวลาให้กับงานศพของบุคคลที่รัก... กลับทำให้ยิ่งคิดหมกมุ่นและเศร้าหนักขึ้นเมื่อเทียบกับคนที่ยังไปทำงานหรือมีเรื่องให้ทำ ช่วยให้ใจไม่วนเวียนอยู่แต่เรื่องของการสูญเสีย...
งานศพ เป็นเวลาที่เราได้ไตร่ตรองกับชีวิตของตนเอง เพื่อให้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง... ลดทิฐิความถือสากัน...
สมัยก่อนเคยทำงานที่ต้องผลัดกันอยู่เวร... มีเพื่อนผู้หญิงคนนึงที่เพื่อนในกลุ่มไม่ค่อยชอบนิสัยกัน พอมาขอแลกเวรเพราะจะกลับบ้านไปงานเลี้ยง... เลยไม่มีใครยอมแลกด้วย เธอก็เลยต้องขับรถกลับต่างจังหวัดไปเย็นแล้วกลับแต่เช้าตรู่มาให้ทันรับเวร... ปรากฎว่า เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต... กลุ่มเพื่อนที่ไม่ยอมแลกเวรด้วยมารู้เข้าก็ซึมไปและรู้สึกผิด...
ก็เป็นเรื่องแปลกนะ ที่เรามักรู้สึกเศร้า รู้สึกผิด... กับคนที่จากไป แต่เราก็ยังไม่ยอมหรือโหดหินกับคนที่ยังเห็นๆ กันอยู่...
เลยกลับไปคิดถึงที่เขาบอกว่า เรามางานศพเพื่อมาขออโหสิกรรมผู้วายชนม์... แล้วทำไมไม่อโหสิกรรมกันตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่หยวนๆ กันซะหน่อยเหรอ...
หรือพอเสียชีวิตไปแล้วก็มาทำบุญเลี้ยงพระ อุทิศส่วนกุศล ส่งโน่นนี่นั่นไปให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้จริงมั้ย... แต่ตอนอยู่กลับไม่พาไปกินหรือให้ของที่อยากได้ซึ่งก็รู้ว่าได้รับแน่ๆ...
งานศพยังเป็นเวลาที่ได้รวมญาติมิตรที่ไม่เคยได้เจอกันมาหลายปี ได้กลับมาพบหน้ากัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนตั้งแต่สมัยทำงานใหม่ๆ เพื่อนบ้านสมัยเด็กๆ ญาติฝ่ายพ่อฝ่ายแม่ที่แทบจะจำกันไม่ได้แล้ว จนถึงเพื่อนมิตรสหายที่ได้มีโอกาสมาเล่าถึงประสบการณ์ที่เราอาจไม่เคยได้ยินมาก่อนของผู้วายชนม์...
ในวันฌาปนกิจ ก็มักมีการขึ้นกล่าวถึงประวัติของผู้วายชนม์ บางงานก็มีรูปแบบมาตรฐานทั่วๆ ไป กล่าวถึงสถานที่เกิด ที่ทำงาน ความสำเร็จ ความดีงาม... แต่บางงานก็มีการเล่าถึงสิ่งที่ผู้วายชนม์ได้เคยพูดเคยสอนไว้ หรือ ความผูกพันธ์ที่ฝังใจกับคนในครอบครัว ให้ผู้มาร่วมงานได้ทราบเรื่องราวและบังเกิดความซาบซึ้งใจ... หลายเรื่องไม่เคยมีใครรู้มาก่อน...
แต่ก็เสียดาย ที่ร่างไร้วิญญาณบนเมรุกลับไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่คนในครอบครัวหรือบุตรหลานได้กล่าวถึง... หลายคนมีความเชื่อว่า ผู้ล่วงลับก็รับรู้นะถึงพิธีกรรมและคำกล่าวขานต่างๆ... แต่เคยมีคนบอกไว้อย่างน่าคิดว่า ทำไมเราไม่บันทึกความดีงามความประทับใจเหล่านี้ไว้ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อให้ได้รับรู้ว่าครอบครัวหรือลูกหลานมีความประทับใจหรือมีความรู้สึกที่ดียังไงก่อนที่จะไม่สามารถรับรู้ได้...
บางทีการลองปรับมุมคิด อาจช่วยให้เรามองโลกอีกแบบ และเกิดไอเดียว่า ตอนนี้เราควรทำอะไรให้กันก่อนที่มันจะสายเกินไปรึเปล่านะ... เหมือนกับที่หลายๆ คนชอบตั้งคำถามให้ได้คิดว่า...
ถ้าเค้าตายไป เธอจะให้อภัยเค้ามั้ย เธอจะไปงานศพเค้ารึเปล่า...
ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว อยากทำบุญส่งอะไรที่พ่อแม่ชอบไปให้... งั้นหาให้ตอนนี้เลยดีมั้ย...
เราจะเสียใจมั้ยถ้าเราปฏิเสธเค้าตอนนี้ แล้วพรุ่งนี้เค้าลาโลกไปละ...
ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายในชีวิตของเค้า เราจะทำอะไรให้เค้าบ้าง...
บางทีการเปลี่ยนมุมมองแบบนี้ อาจทำให้เรามีความคิดที่แตกต่างออกไปก็ได้นะ...
#ChillChatAtWork
อย่าลืมกด Like & กด Follow (และตั้งค่าเป็น see first) เพื่อจะไม่พลาดเรื่องราวดีๆที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย