1.ก่อนถึงสนามสุดท้าย คะแนนของแต่ละทีมสูสีมาก เรียกได้ว่าเป็นปีที่สู้กันได้ดุเดือดมากๆ ซึ่งสนามสุดท้ายจัดที่ Fuji Speedway (โดยปกติแล้วจะจัดที่ Twin Ring Motegi แต่เนื่องจากโควิด 19 จึงทำให้ต้องย้ายสนามมาเป็น Fuji แทน)ซึ่งเป็นสนามของโตโยต้า นั่นทำให้ได้เปรียบเป็นอย่างมาก

2.และก็เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ ในรอบควอลิฟาย โตโยต้าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รถเบอร์ 37 Keeper Tom’s GR Supra คว้าตำแหน่งโพลไป พ่วงด้วยเวลาที่ดีที่สุดของสนาม ทำให้หลายฝ่ายส่วนใหญ่ต่างฟันแล้วทิ้ง เอ๊ย!!! ฟันธงว่าคว้าแชมป์แน่นอน ส่วนฮอนด้ากับนิสสัน ผลงานไม่ค่อยดี เป็นงานหนักของทั้ง 2 ค่าย ถ้าคิดจะคว้าแชมป์

3.เมื่อถึงวันแข่งจริง เป็นช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิบนแทรคอยู่ที่ 13 องศา ทำให้แต่ละทีมต้องคิดหนักมากในการเลือกยาง ซึ่งมีผลต่อชัยชนะของทีม จึงทำให้ในรอบ Formation Lap จากเดิมที่มีแค่ 1 รอบ ก็เพิ่มอีก 2 รอบ รวมเป็น 3 รอบ เป็นการวอร์มยางให้อุ่นมากขึ้น

4.เมื่อสัญญาณการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น รถเบอร์ 23 (Motul Autech GT-R ขับโดย Ronnie Quintarelli)ใช้โอกาสในช่วงที่หัวแถวชุลมุนแซงขึ้นอันดับที่ 1 ทำให้รถเบอร์ 37 ตกไปอยู่อันดับที่ 2 แต่ Supra ก็คือ Supra ผ่านไปแค่ 7 รอบ ก็สามารถแซงขึ้นที่ 1 มาได้

5.ทางด้านรถเบอร์ 100 (Raybrig NSX GT ขับโดย Tadasuke Makino)ที่เริ่มสตาร์ทจากที่ 7 ในช่วงแรกอันดับตกลงไปอยู่ที่ 9 เนื่องจากยางที่ทางทีมเลือกนั้นยังไม่ร้อนเข้าที่ แต่หลังที่ยางเริ่มร้อนเข้าที่แล้ว ก็ค่อยๆไล่เก็บทีละคัน จนสามารถขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 ได้ในรอบที่ 21 เป็นไปตามแผนที่วางไว้ หลังจากนั้น ทางทีมก็เรียกเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยาง เปลี่ยนคนขับ และเติมน้ำมันในรอบที่ 23

6.ส่วนทางด้านรถเบอร์ 37 ก็เข้าพิทในรอบที่ 24 และหลังจากที่ออกจากพิทแล้ว ในช่วงแรก ก็โดนรถเบอร์ 14 ขับแซงไป(Wako’s Rookies GR Supra ขับโดย Sho Tsuboi)แต่ไม่นาน รถเบอร์ 37(ขับโดย Ryo Hirakawa)ก็สามารถแซงกลับได้(สนามสุดท้าย ทุกทีมจะสามารถเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนยางก็ได้ แต่ต้องเปลี่ยนนักแข่งและเติมน้ำมัน ซึ่งรถเบอร์ 14 เป็นคันเดียวที่เปลี่ยนยางแค่ 2 ล้อหลัง ทำให้ออกมาจากพิทได้เร็ว แต่ก็เสียเปรียบในเรื่องการสึกหรอของยาง)

7.ทางด้านรถแข่งเบอร์ 100 (ขับโดย Naoki Yamamoto)ก็ได้ไล่เข้าใกล้รถเบอร์ 14 จนถึงช่วงทางตรง ซึ่งในตอนนั้นรถแข่งเบอร์ 36(Au Tom’s GR Supra ขับโดย Yuhi Sekiguchi)ก็ได้ไล่เข้ามา และแซงรถเบอร์ 100 และตีคู่กับรถเบอร์ 14 แต่สุดท้ายก็ปะทะกันเอง ทำให้รถเบอร์ 100 ได้โอกาสแซงขึ้นที่ 2

8.ในช่วงนี้รถแข่งเบอร์ 37 นำแบบสบายๆ เพราะนำห่างถึง 15 วินาที ในขณะที่อันดับ 2 ก็พยายามขับแบบเซฟน้ำมัน ถึงแม้ว่ารถแข่งเบอร์ 36 จะพยายามไล่ตามมาติดๆ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถแซงได้

9.ในช่วง 8 รอบสุดท้าย Naoki ที่กำลังขับรถแข่งเบอร์ 100 ได้วิทยุบอกกับเอนจิเนียร์ของทีมว่า หลังจากนี้ ขอใส่เต็มที่เลยนะ ซึ่งทางเอนจิเนียร์ก็ตอบกลับไปว่า OK ใส่ให้เต็มที่ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว(อันหลังนั้นคนเขียนใส่เอง 55)

10.หลังจากนั้น Naoki ก็สวมบทไอร์ตัน เซนน่า ขับไล่รถเบอร์ 37 จนระยะห่างก็ค่อยๆลดลง ในระหว่างนั้น กล้องก็ตัดไปที่ Racequeen ของทีม Kunimitsu(รถแข่งเบอร์ 100)ที่ลุ้นจนน้ำตาไหลออกมา(ตอนนั้นคนเขียนก็เกือบร้องไห้ด้วย 55)

11.เหลืออีก 2 รอบสุดท้าย รถแข่งเบอร์ 100 ก็ไล่มาจนระยะห่างเหลือแค่ 2 วินาทีกว่าๆ แต่ก็ไล่มากกว่านั้นไม่ได้ เพราะรถแข่งเบอร์ 37 นั้นแข็งแกร่งมาก จนในตอนนั้นทุกคนในทีม Kunimitsu ทำใจไว้แล้วว่ายังไงคงได้ที่ 2

12.แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถแข่งเบอร์ 37 ที่นำมาจนถึงรอบสุดท้าย น้ำมันดันมาหมดในช่วงโค้งสุดท้ายพอดี ทำให้ความเร็วตกลง ในช่วงเวลานั้น Naoki ได้โอกาส เหยียบมิดคันเร่ง พารถแข่งเบอร์ 100 เข้าเส้นชัยอันดับหนึ่ง

13.ซึ่งไม่ใช่แค่คว้าชัยครั้งแรกในปีนี้ แต่นั่นหมายถึงได้แชมป์ด้วย หลังจากที่พารถเข้าเส้นชัยได้แล้ว ทุกคนในทีมต่างร้องดีใจออกมา โดยเฉพาะ Makino ที่ร้องไห้ออกมา

14.ส่วนทางด้านรถแข่งเบอร์ 37 ก็ค่อยๆคลานเข้าที่ 2 อันดับ 3 เป็นของรถแข่งเบอร์ 36 ส่วนอารมณ์ของนักแข่งเบอร์ 37 หลังจบการแข่งขัน ก็ดูได้จากภาพครับ

15.ส่วนทางด้านรถแข่งเบอร์ 100 เป็นความโชคดีที่น้ำมันมาหมดหลังเข้าเส้นชัยพอดี ทำให้เจ้าหน้าที่สนามต้องนำรถมาลากกลับที่แท่นรับรางวัล

16.สรุปแชมป์ประจำปี 2020 ประเภทนักแข่งและทีมได้แก่ Team Kunimitsu No.100 Driver Naoki Yamamoto/Tadasuke Makino ซึ่งบอกว่าได้เลยว่า เป็น Race Of The Year ของปี 2020 เลยก็ว่าได้ครับ