7 ก.พ. 2021 เวลา 10:20 • ไลฟ์สไตล์
"ทุกอย่าง มันต้องมีการเริ่มต้น"
คำนี้เราคงได้ยินกันบ่อยๆ แต่การจะลงมือทำ มันก็แอบยากนะสำหรับใครหลายคน เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จากโพสต์ที่แล้วเราได้เล่าถึงการกลับมาเมืองไทยของเราโดยที่กีฬานี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรากลับมา "ถ้าเราไม่เริ่ม แล้วจะกลับมาทำไม?" คำถามนี้แหละ ทำให้เราตัดสินใจสมัครไปร่วมการแข่งขันที่ประเทศมาเลเซีย เป็นการแข่งกีฬาครั้งแรกในชีวิตที่ไปถึงต่างประเทศ (เพราะในไทยไม่มี) และไปคนเดียวแบบไม่รู้จักใครเลย มันก็จะหวิวๆหน่อย
Putrajaya, Malaysia ที่ๆบทบาทนักกีฬาของเราได้เริ่มต้นขึ้น
ช่วงเช้าในวันเดินทาง เราไปทำงานตามปกติ แบกกระเป๋าเสื้อผ้าและอุปกรณ์ไปที่ทำงานด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า พอเลิกงาน ก็เรียกแท็กซี่ไปสนามบิน check-in ทุกอย่าง ขึ้นเครื่องมุ่งหน้าไปประเทศมาเลเซียด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและหวั่นๆนิดๆ
มุ่งหน้าสู่มาเลเซีย Bye Bye Thailand ไปแป๊บเดียว เดี๋ยวกลับมา
เครื่องลงที่สนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์เวลาสี่ทุ่มกว่าๆ รับกระเป๋าครบ เดินออกมาที่ terminal มองหาคนขับรถที่ถือป้ายรอรับคน ทำไมไม่มีชื่อเรา?? เฮ้ย เดี๋ยวนะ เราว่าเราติดต่อกับคนจัดการแข่งขันแล้วนะเรื่องรถรับ-ส่งสนามบิน อยู่ไหนอ่ะ?? สมัยนั้น local simcard ก็ไม่ได้มีที่สนามบินเหมือนทุกวันนี้ แลกเงินมาก็มีแต่ธนบัตร เหรียญไม่มีเลย ณ เวลานั้น ร้านค้าที่สนามบินก็ปิดหมดแล้ว จะไปซื้อของแตกแบงค์ก็ไม่ได้ เราเลยเดินไปหา รปภ. แล้วพูดว่า
เรา: Excuse me? May I borrow your phone? There suppose to have someone to pick me up. But I don't see him now. (ขอโทษนะคะ ขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมคะ พอดีต้องมีคนมารับค่ะ แต่ยังไม่เห็นมีใครมา)
รปภ.: Sorry, Ma'am. I can't help you. You can use public telephone. (ขอโทษทีครับ ผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้ ตรงนั้นมีโทรศัพท์สาธารณะอยู่) แล้วชี้ไปที่โทรศัพท์สาธารณะ
เรา: Yes, I see that. But I don't have coin. Do you have change? (ค่ะ ฉันเห็นแล้ว แต่ฉันไม่มีเหรียญ คุณมีเหรียญให้แลกไหม)
รปภ.: Sorry. I can't help you. (ขอโทษครับ ผมคงช่วยคุณไม่ได้)
เรานี่ งีดเลยครับ ดึกแล้ว แถมบรรยากาศที่สนามบินก็โหวงๆชอบกล เอาไงดี... เรายืนงงๆ พยายามตั้งสติ คิดหาวิธี พยายามต่อ wifi ของสนามบิน ซึ่งสมัยนั้น wifi ยังใช้งานไม่ค่อยได้ เวลาประมาณ 20 นาทีผ่านไป มีผู้ชายคนนึงวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา เห็นเรายืนอยู่พร้อมมองไปที่กระเป๋าอุปกรณ์ของเรา เลยเข้ามาถามว่าเราชื่อนี้ใช่ไหม มาแข่งกีฬารายการนี้ใช่ไหม เราบอกใช่ เขาก็ขอโทษที่มาช้า แล้วก็พาเราไปขึ้นรถ มุ่งหน้าไป offial hotel ของการแข่งขันนี้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากสนามบินค่ะ โอยยยย โล่งอกไปที :D
วิวจาก official hotel มองไปเห็นสถานที่จัดการแข่งขัน
เรื่องระทึกยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ พอเราไปถึงโรงแรม ทำการ check-in ทางโรงแรมขอบัตรเครดิตที่เราใช้ทำการจองโรงแรมเพื่อทำระบบ deposit เราไม่มีบัตรเครดิตจ้า ตอนที่เรากรอกรายละเอียดจองโรงแรมแล้วส่งอีเมลล์ให้คณะจัดการแข่งขัน เราเขียนเลขบัตรเครดิตแม่ไป แล้วตอนที่จะออกจากเมืองไทย แม่ก็ถามแล้วว่าเอาบัตรเครดิตติดไปไหม เราบอกไม่เอา เพราะไม่อยากต้องรับผิดชอบให้เป็นภาระ แล้วเราก็แลกเงินไปพร้อมสำหรับค่าโรงแรม ค่าสมัครแข่ง และค่ากินในแต่ละวันที่เราคำนวณเอาไว้หมดแล้ว ต้องบอกก่อนนะคะว่า นี่เป็นการเดินทางไปต่างประเทศคนเดียวครั้งแรกในชีวิตเราที่ไปแบบ leisure (สันทนาการ) เพราะตอนไปเกาหลี เราไปเรียน ทุกอย่างเลยถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว เราเลยไม่ได้คิดถึงเรื่องของค่า deposit โรงแรมเลย T_T
ทางโรงแรมเลยบอกว่า เขาอนุโลมให้เราเอาเงินสดจ่ายเป็นค่ามัดจำก่อนก็ได้ ซึ่งเท่ากับเงินเกือบทั้งหมดที่เราแลกมาสำหรับค่ากินด้วย! แต่ก็ช่วยไม่ได้ ต้องจ่ายไป ไม่อย่างนั้นเราก็ check-in ไม่ได้ ฮือๆ ส่วนเรื่องกินนั้น โรงแรมรวมค่าอาหารเช้าไว้แล้ว ส่วนมื้อกลางวันและเย็น เราเตรียมผงข้าวโอ๊ตและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไป เลยคิดว่า คงได้เขย่าผงข้าวโอ๊ตและต้มบะหมี่กินที่ห้องกันละทีนี้ -_-"
วันนั้นกว่าจะได้เข้าห้อง unpack กระเป๋า อาบน้ำเข้านอนก็เกือบตีหนึ่ง วันรุ่งขึ้นต้องตื่นไปทานอาหารเช้าและเรามีจองเวลาซ้อมไว้ตอน 11 โมงเช้า เดี๋ยวโพสต์หน้าจะมาเล่าต่อถึงบรรยากาศการซ้อม การได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ และการแข่งขันค่ะ ดูซิ๊ ว่าเราจะอยู่รอดไหมกับเงินที่แทบไม่มีติดตัว และผลการแข่งขันจะเป็นยังไง :)
บรรยากาศส่วนหนึ่งของ Putrajaya Water Sports Complex สถานที่จัดการแข่งขัน
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ สามารถคอมเมนต์ติชมให้กับนักเขียนมือใหม่อย่างเราได้เลยค่า หรือถ้าใครอยากให้เราเขียนเรื่องไหนเป็นพิเศษ สามารถ request มากันได้นะคะ :)
โฆษณา