8 ก.พ. 2021 เวลา 13:00 • ประวัติศาสตร์
ย้อนอดีต ชาร์ลส์ ดาร์วิน
จากเด็กที่ชอบพูดโกหกสู่นักธรรมชาติวิทยา
https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Charles_Robert_Darwin_by_John_Collier_cropped.jpg
เขาคือเจ้าของเเนวคิดทฤษฎีวิวัฒนาการ
ที่หลายคนอาจจะได้เคยศึกษา
ชื่อเต็มของเขาคือ ชาร์ลส์ โรเบิร์ต ดาร์วิน
เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1809
ที่ประอังกฤษ
ชีวิตในวัยเด็ก
ดาร์วินเป็นเด็กที่มีจินตนาการสูง เเต่คนรอบข้างก็จะมองว่าเขาเป็นเด็กที่ชอบโกหก เช่น เขาเคยบอกเพื่อนว่าเศษกระดาษที่ตกอยู่เป็นธนบัตรเงิน ทำให้เพื่อนมองว่าเขาเป็นเด็กที่ไม่ดี ถึงขนาดครูที่โรงเรียนต้องขอให้พ่อของเขาช่วยดูเเลพฤติกรรมที่ชอบโกหกของเขา ทำให้ในวัยนั้นเขาไม่ค่อยจะมีเพื่อน
การศึกษา
ในเดือนตุลาคม ค.ศ.1825 ตอนนั้นเขาอายุ 16 ปีดาร์วินเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเอดินบะระพร้อมกับพี่ชายของเขา หลังจากนั้นสองปีต่อมาเขาก็เข้าเรียนที่วิทยาลัยขคริสต์ในเคมบริดจ์
ขณะที่ดาร์วินอยู่ที่วิทยาลัยคริสต์ที่เคมบริดจ์ศาสตราจารย์ด้านพฤกษศาสตร์ จอห์น สตีเวน เฮนสโลว์ ได้มาเป็นที่ปรึกษาของเขา หลังจากเรียนจบในปีค.ศ. 1831 เฮนสโลว์ได้แนะนำให้เขาทำงานในตำแหน่งนักธรรมชาติของเรือ
ร. ล. บีเกิล (HMS Beagle)
เรือลำนี้ได้รับคำสั่งจากกัปตันโรเบิร์ตฟิตซ์รอยให้ออกเดินทางสำรวจรอบโลกเป็นเวลา5ปี 
การเดินทางครั้งนี้จะเป็นโอกาสของนักธรรมชาติวิทยารุ่นใหม่
1
ในวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ.1831 ร. ล. บีเกิลได้ออกเดินทางไปทั่วโลกพร้อมกับดาร์วินบนเรือ 
ในระหว่างการเดินทางดาร์วินได้รวบรวมตัวอย่างของธรรมชาติหลากหลายชนิดรวมทั้งนกพืชและฟอสซิล
ดาร์วินในการลาปากอส
เขาได้มีโอกาสพิเศษในการสังเกตหลักการของพฤกษศาสตร์ธรณีวิทยาและสัตววิทยาด้วย
การค้นคว้าและทดลองด้วยมือจากการลงมือปฏิบัติจริงในระหว่างที่เเวะพักเรืออยู่ในหมู่เกาะแปซิฟิกและหมู่เกาะกาลาปากอส ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสนใจเป็นพิเศษ
เมื่อเขากลับไปประเทศอังกฤษในปี ค.ศ.1836 ดาร์วินได้เริ่มที่จะเขียนบันทึกการค้นพบของเขาในวารสารงานวิจัยที่จะตีพิมพ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบันทึกเรื่องราวเดินทางกับกัปตันฟิตส์รอย
การเดินทางครั้งนี้มีผลอย่างมากต่อมุมมองของดาร์วินเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ธรรมชาติ เขาได้เริ่มพัฒนาทฤษฎีการปฏิวัติเกี่ยวกับต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตที่ขัดกับมุมมองที่นิยมของนักธรรมชาติวิทยาคนอื่น ๆ ในเวลานั้น
ทฤษฎีวิวัฒนาการ
ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน ได้ประกาศว่าสิ่งมีชีวิตอยู่รอดผ่านกระบวนการที่เรียกว่า"การคัดเลือกโดยธรรมชาติ"ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่สมารถปรับตัวหรือวิวัฒนาการได้สำเร็จเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมันที่สามารถเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ได้ ในขณะที่สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถวิวัฒนาการและแพร่พันธุ์ก็ต้องตายไป
จากการสังเกตและศึกษาเกี่ยวกับนกพืชและซากดึกดำบรรพ์ของดาร์วิน เขาได้สังเกตเห็นความคล้ายคลึงกันของสิ่งมีชีวิตทั่วโลกพร้อมกับรูปแบบที่แตกต่างกันตามของสถานที่ ทำให้เขาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตที่เรารู้จักในปัจจุบันค่อยๆพัฒนามาจากบรรพบุรุษร่วมกัน
ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินและกระบวนการคัดเลือกโดยธรรมชาติต่อมารู้จักกันในชื่อ“ ลัทธิดาร์วิน”
เเต่ในเวลานั้นนักธรรมชาติวิทยาคนอื่น ๆ เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของโลกหรือถูกสร้างขึ้นในช่วงประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ไม่ว่าในกรณีใดพวกเขาเชื่อว่าสายพันธุ์ยังคงเหมือนเดิมตลอดเวลา ซึ่งเป็นเเนวคิดที่มัน
ขัดเเย้งกับทฤษฎีของดาร์วิน
ต่อมาในปี ค.ศ1858 หลังการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ดาร์วินได้แนะนำทฤษฎีการปฏิวัติของวิวัฒนาการต่อสาธารณชนในจดหมายที่อ่านในที่ประชุมของที่สมาคมลินเนียน เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ.1859 เขาได้ตีพิมพ์คำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับทฤษฎีของเขาในผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุด On the Origin of Species by Means of Natural Selection หรือ ต้นกำเนิดของสายพันธุ์โดยวิธีการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
ในศตวรรษต่อมาการศึกษาดีเอ็นเอเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน เเต่อย่างไรก็ตามการโต้เถียงเกี่ยวกับความขัดแย้งกับลัทธิสร้างสรรค์ มุมมองทางศาสนาที่เชื่อว่าธรรมชาติทั้งหมดเกิดจากพระเจ้า ก็ยังคงพอมีอยู่บาง
สังคมดาร์วิน
ลัทธิดาร์วินทางสังคม คือความคิดที่เกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 18 ซึ่งได้มีการนำเอาทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินมาใช้เพื่ออธิบายประเด็นทางสังคมและเศรษฐกิจ
ดาร์วินเองแทบไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างทฤษฎีของเขากับสังคมมนุษย์ แต่ในขณะที่พยายามอธิบายแนวคิดของเขาสู่สาธารณะดาร์วินได้ยืมแนวคิดที่เข้าใจกันอย่างกว้างขวาง เช่น “ การอยู่รอดของคนที่เหมาะสมที่สุด” จากเฮอร์เบิร์ตสเปนเซอร์นักสังคมวิทยา
เมื่อเวลาผ่านไปในขณะที่การปฏิวัติอุตสาหกรรม และลัทธิทุนนิยมที่ไม่เป็นธรรมที่มีอยู่ไปทั่วโลกลัทธิดาร์วินทางสังคมได้ถูกใช้เป็นเหตุผลสำหรับลัทธิจักรวรรดินิยม ในการทารุณแรงงานผิวสีความยากจน การเหยียดสีผิวและความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม
ชาร์ลส์ ดาร์วิน ได้เสียชีวิตที่บ้านของครอบครัวในลอนดอนเมื่อวันที่ 19 เมษายน ค.ศ.1882
โฆษณา