8 ก.พ. 2021 เวลา 13:15 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
บ็อกซ์​ออฟฟิศในจีน Soul ยืนระยะได้ดี เช็คยอดขายตั๋วล่วงหน้าหนังบิกๆ ก่อนตรุษจีนออกมาสวย
วาไรตีรายงานว่า บ็อกซ์ออฟฟิศในจีน ยังอยู่ในความเงียบเหงาเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน เนื่องจากไม่มีหนังใหม่เปิดตัว โดยแอนิเมชันดิสนีย์/ พิกซาร์ Soul ยังยืนระยะได้ดี หนังอยู่ในอันดับ 6 ของตารางหนังทำเงินประจำสัปดาห์ หลังจากฉายมาแล้ว 45 วัน โดยช่วงนี้คอหนังชาวจีนต่างรอคอยบรรดาหนังบิกๆ ที่จะเปิดตัวกันในช่วงตรุษจีน ซึ่งมีวันหยุดยาวตั้งแต่ 12-17 กุมภาพันธ์ ในปีที่ผ่านๆ มา รายได้ในช่วงนี้จะสูงถึง 10% ของรายได้หนังตลอดทั้งปีของจีน แล้วกับปีนี้ จีนได้กลายเป็นตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้วอีกต่างหาก รวมทั้งยังเป็นตลาดเดียวในโลกที่ยอดขายตั๋วชมภาพยนตร์ฟื้นจากโรคระบาดโควิด-19 ได้ดีที่สุด
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีหนังเรื่องไหนที่ทำรายได้เกิน 5 ล้านเหรียญเลย โดย Soul ทำรายได้อีก 1.71 ล้านเหรียญ ส่งให้รายได้ในจีนพุ่งไปถึง 56 ล้านเหรียญ แซงผ่านรายได้ 51.5 ล้านเหรียญของ The Incredibles 2 แอนิเมชันพิกซาร์เมื่อปี 2018 กลายเป็นหนังพิกซาร์ทำเงินมากสุดอันดับสองในจีน เป็นรองแค่ Coco ที่ทำเงินไปถึง 189 ล้านเหรียญเมื่อปี 2017
หนังอันดับในสัปดาห์ที่ผ่านมา คือหนังของหลิวเต๋อหัว Shock Wave 2 ซึ่งได้ประโยชน์จากการไม่มีหนังคู่แข่งเลย ทำรายได้เพิ่มอีก 4.86 ล้านเหรียญ หนังฉายมาตั้งแต่คริสต์มาส และทำเงินไปทั้งหมด 196 ล้านเหรียญ ตามมาไม่ห่างในอันดับ 2 ก็คือ หนังดรามา-ครอบครัว A Little Red Flower ซึ่งมีแรงส่งจากนักแสดงนำที่เป็นขวัญใจวัยรุ่นอย่าง แจ็คสัน หยี ทำรายได้ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 4.6 ล้านเหรียญ หนังฉายมาตั้งแต่วันสิ้นปี ทำเงินไปแล้วถึง 216 ล้านเหรียญ
หากยังสงสัยในความสำเร็จของบ็อกซ์ออฟฟิศจีนว่าฟื้นตัวเร็วแค่ไหน เมื่อเทียบกับอเมริกาเหนือให้ดูตัวเลขรายได้หนังทั้งสองเรื่องที่รวมกันแล้ว มากกว่ารายได้ในอเมริกาเหนือของ Wonder Woman 1984 ห้าเท่า และมากกว่าเป็นหลายๆ ล้านเมื่อดูจากรายได้ทั่วโลก
หนังเบาสมองเจ้าถิ่น Big Red Envelope ตามมาเป็นที่สองด้วยรายได้ 4.3 ล้านเหรียญ รายได้รวมเป็น 32.8 ล้านเหรียญ Wish Dragon แอนิเมชันจากโซนี พิคเฌอร์ส แอนิเมชันส์ ซึ่งสร้างดดยเบส แอนิเมชัน, ปักกิง สปาร์เคิล โรลล์ มีเดีย และเทนเซนต์ พิคเฌอร์ส ของจีน อยู่ในอันดับ 4 ทำรายได้ไป 2.32 ล้านเหรียญ อันดับ 5 เป็นหนังเบาสมอง Warm Hug ทำรายได้ 2.12 ล้านเหรียญ
โรงหนังในจีนช่วงนี้อยู่ในภาวะนิ่งๆ ก่อนที่จะถึงช่วงการแข่งขันสูงในเทศกาลตรุษจีน หนังที่เข้าฉายในช่วงนี้จะไม่ได้รับความสนใจ เพราะทุกอย่างจะเริ่มคึกคักอีกทีในวันที่ 12 กุมภาพันธ์​ซึ่งจะมีหนังใหญ่ๆ ถึง 7 เรื่องเปิดตัวฉายให้ชมกัน โดยมียอดขายตั๋วล่วงหน้าไปแล้วกว่า 62 ล้านเหรียญ นับตั้งแต่เปิดขายเมื่อ 29 มกราคม (400 ล้านหยวน) โดยยอดขายในวันที่ 12 วันเดียวก็สูงถึง 54 ล้านเหรียญ (350 ล้านหยวน)
สำหรับหนังที่ทำยอดจองมากที่สุดก็คือ หนังตลก-ซ่อนเงื่อน ภาคต่อของเชน ซีเช็ง Detective Chinatown 3 ซึ่งในตอนแรกจะฉากตั้งแต่ตรุษจีนปีที่แล้ว แต่ก็เลื่อนมา เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 หนังสามารถทำสถิติขายตั๋วล่วงหน้าถึง 100 ล้านหยวน (15.5 ล้านเหรียญ) ได้เร็วที่สุด โดยใช้เวลาแค่ 36 ชั่วโมง แล้วยังทำสถิติเป็นเจ้าของยอดจองเกือบ 90% ของยอดจองทั้งหมด ตอนนี้หนังทำรายได้ล่วงหน้าไปแล้ว 54.4 ล้านเหรียญ (352 ล้านหยวน)
อันดับสองเป็นหนังเบาสมอง ข้ามเวลา Hi, Mom นำแสดง/ เขียนบท และกำกับโดย เจีย หลิง ซึ่งขายตั๋วบ่วงหน้าไปแล้ว 11.2 ล้านเหรียญ (72.5 ล้านหยวน)
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่ยิง ฮอง ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัย ซิงฮัว และรองประธานของสมาคมภาพยนตร์ยินฮอง กล่าวเอาไว้ว่า “ช่วงฉายหนังฤดูใบไม้ผลิปีนี้ จะเป็นแรงขับสำคัญสำหรับการฟื่นสภาพของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีน”
อย่างไรก็ตามจากการคาดการณ์ก็ยังไม่แน่นอนว่า ยอดขายตั๋วในช่วงนี้จะดีกว่าในอดีต โดยในปี 2018 ยอดรายได้ในช่วงหยุดยาวนี้สูงถึง 892 ล้านเหรียญ (5.77 พันล้านหยวน) หรือ 9.5% ของรายได้บ็อกซ์ออฟิศจีนตลอดทั้งปี ส่วนปี 2019 ทำไว้ 912 ล้านเหรียญ (5.9 พันล้านหยวน) หรือ 9.2% ของรายได้ทั้งหมด ที่สำคัญผลกระทบจากโควิด-19 ก็ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้เช่นกัน โดยทางการจีนออกมาประกาศเมื่อวันที่ 27 มกราคมว่า ในพื้นที่ความเสี่ยงต่ำสำหรับโควิด-19 โรงภาพยนตร์และสถานที่จัดการแสดงต่างๆ จะขายบัตรได้แค่ 75% ของพื้นที่ในช่วงวันหยุด แล้วเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางการก็ประกาศจัด 10 พื้นที่ความเสี่ยงสูง และ 49 พื้นที่ความเสี่ยงปานกลาง ออกมา โดยโรงหนังในพื้นที่ความเสี่ยงสูงจะต้องปิดบริการ หรือต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเข้มงวด เช่น โรงภาพยนตร์ในเฮอเป่ย, จีหลิน และเฮหลงเจียง จะต้องปิดชั่วคราว ส่วนโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ๆ ในบางพื้นที่ของปักกิ่งเปิดได้ แต่ขายตั๋วได้เพียง 50%
โดยปกติในช่วงตรุษจีน จะได้ชื่อว่าเป็นช่วงที่มีการเดินทางครั้งใหญ่ที่สุดของทุกปี เมื่อคนจากชนบทที่มาทำงานในเขตอุตสาหกรรมจะเดินทากลับบ้านเพื่อเยี่ยมครอบครัว แต่ปีนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ทางกระทรวงคมนาคมของจีนออกมาบอกว่า ยอดการเดินทางกลับบ้านลดลงถึงกว่า 40% จากปี 2019 เนื่องจากกฏเกณฑ์ต่างๆ และการไม่สนับสนุนการเดินทางที่ไม่จำเป็น
“ปีนี้ รัฐบาลแนะนำให้ใช้เวลาในช่วงตรุษจีนด้วยการอยู่กับที่ ซึ่งหมายความว่าโรงภาพยนตร์ในเขตเมืองจะได้รับการกระตุ้นจากสถานการณ์นี้ ส่วนตามชนบทหรือท้องถิ่น จะเจอกับปัญหา” ชาง เมียว ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของโรงภาพยนตร์กวงอันเหมินในปักกิ่ง กล่าว “อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญก็คือ การระบาดที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ ซึ่งส่งผลต่อโรงภาพยนตร์ในพื้นที่เสี่ยงปานกลางและความเสี่ยงสูง”
ขณะที่การยกเลิกทัวร์ รวมไปถึงแผนท่องเที่ยว อาจจะทำให้ยอดผู้ชมในโรงหนังขยับสูงขึ้น แต่ความกังวงเรื่องความปลอดภัยจากการชมภาพยนตร์ในโรงยังคงมีอยู่ และน่าจะทำให้เกิดการลังเลใจ “เนื่องจากกฏเกณฑ์ที่เข้มงวดยังมีอยู่ ผู้ชมบางคน อาจจะต้องคิดดูก่อน และความไม่แน่ใจที่เกิดขึ้น อาจจะมีผลกับรายได้”
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos
#ดูมาแล้ว: DEMON SLAYER: KIMETSU NO YAIBA ฉบับซีรีส์ ความบันเทิงแบบเรียบง่าย ที่ได้ใจและสนุกนาน อ่านวิจารณ์กันได้ #demonslayer #Sadaos #moviereviews

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา