8 ก.พ. 2021 เวลา 15:27 • สัตว์เลี้ยง
10 พันธุ์แมวยอดนิยมในไทย น่ารักถูกใจเหล่าทาส
แมว สัตว์เลี้ยงสี่ขายอดนิยม ด้วยหน้าตาที่น่ารักและนิสัยที่ขี้อ้อน ช่วยคลายเหงา หรือบางตัวที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง นิสัยอินดี้ก็สร้างอารมณ์ขันให้แก่เจ้าของได้ ทำให้แมวมีเสน่ห์ดึงดูดทาสแมว แต่ก่อนจะเริ่มต้นเลี้ยงแมวต้องศึกษาสายพันธุ์ นิสัยและวิธีการเลี้ยงก่อน ทาง ThailandExhibition มาแนะนำ '10 พันธุ์แมวยอดนิยมในไทย พร้อมวิธีการดูแลแมว'
แมวเปอร์เซีย (Persian)
แมวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซีย หรืออิหร่าน ถูกนำไปเลี้ยงในประเทศต่าง ๆ ทั้งในยุโรปและอเมริกาเป็นเวลาเกือบร้อยปีมาแล้ว เปอร์เซียเป็นแมวต่างประเทศสายพันธุ์แรกที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย ด้วยหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดู ขนยาวสวยเงางามหลากหลายสีสันของแมวเปอร์เซียจึงเป็นที่นิยมมาก
ลักษณะเด่นของแมวเปอร์เซีย จัดเป็นแมวขนาดกลางถึงค่อนข้างใหญ่ ขนยาวมากมายหลายสี หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มแน่น ตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หัก ขนาดหัวที่ใหญ่ของแมวเปอร์เซียช่วยพยุงคอที่สั้น รูปร่างของแมวเปอร์เซียจะเป็นสัดส่วนของกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ ขาสั้น หนา และมีอุ้งเท้าขนาดใหญ่ การเลี้ยงดูแมวเปอร์เซีย แมวที่นิสัยเรียบร้อย อ่อนโยน ไม่ดุร้ายหรือก้าวร้าว เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ขี้ประจบ แต่ค่อนข้างเงียบ รักสงบ ใช้ชีวิตเรียบง่าย เป็นแมวที่มีไหวพริบมาก การดูแลแมวเปอร์เซีย ต้องดูแลเรื่องขนเป็นพิเศษ เพราะขนที่ยาวต้องหมั่นทำความสะอาดและแปรงขนบ่อย ๆ เพื่อให้ขนไม่เป็นสังกะตัง อาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคต่าง ๆ และหมั่นเช็ดหน้าและคราบน้ำตา
แมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ (American Shorthair)
แมวสายพันธุ์อเมริกาที่สืบเชื้อสายมาจากประเทศในแถบยุโรป และแพร่พันธุ์มายังอเมริกา มีบรรพบุรุษเป็นแมวสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ เมื่อสมัยที่ชาวยุโรปเดินทางไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ โดยพวกเขาได้นำแมวอเมริกันชอร์ตแฮร์ ติดเรือไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้หนูทำลายข้าวของ และได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ในเวลาต่อมา จนกระทั่งกลายเป็นแมวพื้นเมืองขนสั้นของอเมริกาไปในที่สุด
ลักษณะเด่นของอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ จัดเป็นแมวขนาดขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวโต มีกล้ามเนื้อแข็งแรง มองเห็นชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ เป็นแมวขนสั้น ขนแน่น หนา เป็นเงา มีลักษณะสีขนและรูปร่างมากกว่า 80 แบบ สีขนที่นิยมเป็นแบบ Sliver Tabby หรือสีล้วนอย่างสีขาว สีน้ำตาล สีเทา กะโหลกศีรษะและใบหน้ากว้าง ดวงตารูปไข่ กระบอกปากสั้น หูตั้ง การเลี้ยงดูแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ แมวสายพันธุ์นี้ฉลาดและสนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ร่าเริง ขี้เล่น รักความสนุกสนาน มีความเป็นนักล่าสูง การเลี้ยงอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ป้องกันน้ำหนักไม่ให้อ้วนเกินไป เสี่ยงต่อปัญหาโรคหัวใจ สายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อด้านอายุยืน สุขภาพค่อนข้างแข็งแรง
แมวสก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold)
มีถิ่นกำเนิดในประเทศสก๊อตแลนด์ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ.1961 ชื่อว่า Susie มีลักษณะเป็นแมวสีขาวที่มีหูพับไปด้านหน้าและด้านหลัง ใบหน้ามีลักษณะคล้ายนกฮูก หรือนาก หลัง Susie ให้กำเนิดลูกแมวน้อยหูพับ 2 ตัว William Ross ชายเลี้ยงแกะ ได้นำไปผสมพันธุ์กับ บริติช ชอร์ตแฮร์ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ และได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องที่รับรองโดย The Governing Council of the Cat Fancy ของประเทศอังกฤษ
ลักษณะเด่นของแมวสก็อตติช โฟลด์ แมวขนาดกลาง ศีรษะกลม มีทั้งหูพับและหูตั้ง ขนสั้นและขนยาว เพศผู้จะลักษณะของหัวจะกลมและโตกว่าหัวตัวเมียมีลักษณะตัวกลม หัวกลม มีช่วงคอสั้น ดวงตากลมใหญ่ หูพับขนาดเล็กที่มีมุมพับกว้าง ปลายหูส่วนใหญ่จะกลม หูของลูกแมวจะเริ่มพับในช่วง 2-3 อาทิตย์แรก มีคางที่กลมมน จมูกสั้นโค้ง กว้าง เพื่อรับกับดวงตา บางครั้งปากจะโค้งรับกับคางที่โค้งทำให้ได้ฉายาว่า smiling cat หรือ แมวยิ้ม การเลี้ยงดูแมวสก็อตติช โฟลด์ แมวที่เป็นมิตรมีความอ่อนโยน เรียบร้อยและสงบ ไม่ค่อยส่งเสียงร้อง ขี้เล่น ไม่ซน อารมณ์ดี ชอบคลอเคลีย ขี้อ้อนและขี้ประจบเจ้าของ สามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว สามารถที่จะเป็นเพื่อนกับแมวตัวอื่น ๆ ได้ดี และสามารถเลี้ยงไว้กับบ้านที่มีเด็กได้ การดูแลสก็อตติช โฟลด์ แมวลักษณะหูพับคือความผิดปกติและการผิดรูปของกระดูกอ่อนที่หู อาจมีปัญหาเรื่องการได้ยิน และระบบข้อต่อจากความผิดปกติทางพันธุกรรม
แมววิเชียรมาศ (Siamese)
มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทย ที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดีในชื่อ Siamese Cat หรือแมวสยาม เป็นแมวไทยโบราณที่มักเลี้ยงกันในวัง ตั้งแต่สมัยอยุธยา และเป็นแมวมงคลตามตำรา เชื่อว่าเป็นแมวแห่งโชคลาภ
ลักษณะเด่นของแมววิเชียรมาศ แมวที่มีแต้มสีน้ำตาลเข้มอยู่ 9 จุดบนตัว ได้แก่ ที่ปลายเท้าทั้งสี่ ปลายหูทั้งสอง ปลายหาง บนจมูก และที่อวัยวะเพศ ขณะยังเป็นลูกแมวอายุน้อยสีขนจะออกสีครีมอ่อน ๆ พอโตขึ้นสีจะเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาง) ตาเป็นสีฟ้าเปล่งประกายสดใส ใบหูใหญ่ตั้งชัน ปลายใบหูจะค่อนข้างแหลม การเลี้ยงดูแมววิเชียรมาศ แมวค่อนข้างฉลาดมาก คล่องแคล่ว ปราดเปรียวเหมือนกับรูปร่าง ดูรักสันโดษแต่ไม่ชอบอยู่ตามลำพัง ติดคน ขี้อ้อน ประจบประแจงเก่ง ควรดูแลในเรื่องการขับถ่าย เพราะเจ้าเหมียวชอบถ่ายในมุมอับของบ้าน ควรฝึกให้ขับถ่ายในกระบะทราย
แมวโคราช (Korat)
แมวโคราช มีชื่อเรียกมากมาย แมวสีสวาด แมวมาเลศ แมวดอกเลา แมวสีเทา ต้นกำเนิดพบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เป็นแมวที่ให้โชคลาภที่ดี 17 ตัวของประเทศไทย ผูกพันกับคนไทยมานาน เป็นแมวที่ใช้ในพิธีแห่นางแมวขอฝน
ลักษณะเด่นของแมวโคราช แมวโคราชเป็นแมวพันธุ์ขนาดกลาง ลำตัวแข็งแรงค่อนข้างกลม เท้าเป็นรูปไข่ ด้านหน้าตัวผู้หน้าผากจะมีรอยหยัก กรามใหญ่และแข็งแรง ซึ่งทำให้มองเห็นเป็นรูปหัวใจอย่างเด่นชัด หูใหญ่ตั้งสูงเด่น ขนมีสีสวาดออกเทาเงิน เส้นขนสั้นถึงยาวปานกลาง เป็นเงามันเหลื่อม ถ้าออกแดดจะออกประกายเข้มสีเทาเงินคล้ายดอกเลา ดวงตาใหญ่เมื่อเป็นลูกแมวตาเป็นสีฟ้า โตขึ้นเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดหรือเขียว การเลี้ยงดูแมวโคราช มีนิสัยค่อนข้างฉลาด จำเจ้าของแม่น ขี้ประจบ มีนิสัยคล้ายสิงโตโดยสร้างอาณาจักรของตัวเองโดยการฉี่รอบที่อยู่อาศัย มีนิสัยขี้ระแวงไม่ไว้วางใจหรืออาจจะขู่ แมวโคราชควรใส่ใจเรื่องการถ่ายพยาธิและการฉีดวัคซีนเป็นพิเศศ วัคซีนป้องกันหัดแมว ลูคีเมีย และพิษสุนัขบ้า
แมวเอ็กโซติก (Exotic)
แมวเอ็กโซติก ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกายในช่วงทศวรรษที่ 1960 ผสมพันธุ์ระหว่างแมวพันเปอร์เซีย กับอเมริกันขนสั้น (American Shorthair) เกิดเป็นแมวพันธุ์เอ็กโซติก
ลักษณะเด่นของแมวเอ็กโซติก แมวเอ็กโซติกลักษณะคล้ายแมวเปอร์เซีย มีลักษณะหัวกลม กะโหลกใหญ่ ใบหูเล็กกลม จมูกหักเล็กน้อย คอและขาสั้นหนา เป็นแมวที่เตี้ยล่ำ มีขนหนาปุกปุยแต่สั้นกว่าแมวเปอร์เซีย มีหลากหลายสีแตกต่างกันไป เช่น Exotic Cream Tabby, Exotic Blue Tabby, Exotic Red Tabby การเลี้ยงดูแมวเอ็กโซติก แมวที่มีนิสัยนิ่งสุขุม ไม่ค่อยหงุดหงิด มีความอดทนสูง ไม่ค่อยส่งเสียงร้อง นิสัยไม่ค่อยแตกต่างจากแมวเปอร์เซียเท่าไหร่ ดูแลเรื่องขนให้สะอาดและหมั่นทำความสะอาดคราบน้ำตาที่ใบหน้า
แมวบริติช ชอร์ตแฮร์ (British Shorthair)
แมวสายพันธุ์บริติช ชอร์ตแฮร์นั้นสืบเชื้อสายมาจากแมวโรมันที่ถูกนำมายังเกาะอังกฤษโดยชาวโรมัน แมวสายพันธุ์นี้อาจจะผสมข้ามสายพันธุ์กับแมวในท้องถิ่นบนเกาะและยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน
ลักษณะเด่นของแมวบริติช ชอร์ตแฮร์ มีลักษณะกะทัดรัด สมดุลดี แข็งแรง หน้าอกเต็มและกว้าง ขาสั้น อุ้งเท้ากลม หางหนาและกลมหัวกลมรับกับหูขนาดเล็ก คอสั้น แก้มกลมยุ้ย คางหนา ดวงตากลมเบิกกว้าง จมูกค่อนข้างสั้นตั้งตรง คางต้องแข็งแรง ขนหนาและสั้น มีอายุเฉลี่ยประมาณ 15-20 ปี การเลี้ยงดูแมวบริติช ชอร์ตแฮร์ นิสัยนิ่งสงบ ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่าย ชอบที่จะให้เท้าอยู่ติดพื้นมากกว่า และจะรู้สึกไม่สบายตัวเวลาที่ถูกอุ้มไปไหนมาไหน แมวบริติช ชอร์ตแฮร์ควรดูแลเรื่องอาหารเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นแมวที่โครงสร้างใหญ่แต่ตัวเตี้ย ต้องควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากเกินไป จนเกิดปัญหากระดูกและข้อ
แมวเมนคูน (Main Coon)
เมนคูนเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์โดยธรรมชาติที่ยังคงลักษณะเฉพาะของแมวป่าบางอย่างไว้ จึงเป็นสายพันธุ์แมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักถึง 15 กิโลกรัมขนาดเท่าสุนัข แมวสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่งของสหรัฐอเมริกา มีถิ่นกำเนิดในรัฐเมน
ลักษณะเด่นของแมวเมนคูน มีกะโหลกที่ใหญ่ หูตั้งตรง ใบหน้าเหมือนกับแมวป่า โครงสร้างใหญ่ กระดูกหนาและมีกล้ามเนื้อ ขนของเมนคูนหนาและเงางามหมือนเส้นไหม ขนที่บริเวณแผงคอ ท้องและหลังขาจะยาวย้วยลงมา แต่ขนที่บริเวณไหล่จะสั้น สามารถผลัดขนได้ตามสภาพอากาศ การเลี้ยงดูแมวเมนคูน เมนคูนเป็นแมวที่เรียบร้อย ใจเย็น ขี้อ้อน ขี้เล่น สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี ควรใส่ใจดูแลความสะอาดด้วยการอาบน้ำให้เดือนละ 2 ครั้ง เป่าขนให้แห้งป้องกันโรคผิวหนังจากเชื้อรา
แมวสฟิงซ์ (Sphynx Cat)
สฟิงซ์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในไทย ด้วยหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ ถูกเรียกว่าเป็นแมวพันธุ์ที่ไม่มีขน แต่ที่จริงแล้วมันมีขนปกคลุมบาง ๆ เหมาะกับคนที่แพ้ขนแมว มีต้นกำเนิดมาจากประทศแคนดา
ลักษณะเด่นของแมวสฟิงซ์ หัวมีทรงคล้ายลิ่ม หูเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนกลม ตาสีอำพัน ลำตัวยาว ขายาวปานกลาง ผิวหนังสีน้ำตาลขาว หรือดำขาว ขนเส้นเล็กสั้น พื้นท้องแถบขาวยาวตั้งแต่ปากตลอดทั้งลำตัว หาง ยาวปลายเรียว มีอายุเฉลี่ยอยู่ราว 9-15 ปี การเลี้ยงดูแมวสฟิงซ์ เป็นแมวที่มิตรกับเจ้าของ เชื่อฟังและติดเจ้าของมาก ๆ ค่อนข้างเชื่องและอ่อนโยน ชอบคลอเคลียไม่หวงตัว สฟิงซ์ภูมิต้านทานต่ำกว่าแมวทั่วไป ระวังเรื่องอุณหภูมิเย็นเกินไป หรือร้อนเกินไปอาจทำให้แมวสฟิงซ์ป่วยและตายได้
แมวเบงกอล (Bengal)
แมวเบงกอลเป็นแมวที่มีลวดลายสวยงาม คล้ายลูกเสือดาวตัวน้อย ๆ คาดว่าแมวเบงกอลเกิดจาการผสมพันธุ์ระหว่างแมวดาวกับแมวบ้านสายพันธุ์อียิปต์เชียนมัวร์ ซึ่งเป็นแมวอียิปต์โบราณ ที่มีโครงสร้างเป็นลายจุด ลักษณะคล้ายแมวป่า โดยถูกนำมาพัฒนาสายพันธุ์ ด้วยฝีมือของ Jean Mills หญิงสาวชาวอเมริกัน ที่หลงใหลคลั่งไคล้ในลวดลายของแมวป่า พร้อมกับตั้งชื่อของมันตามชื่อวิทยาศาสตร์ของแมวป่าที่เรียกกันว่า Felis Bengolensis
ลักษณะเด่นของแมวเบงกอล แมวขนาดปานกลางถึงค่อนข้างใหญ่ หัวมีความยาวมากกว่ากว้าง รูปร่างคล้ายแมวป่า เพรียว ยาว เห็นมัดกล้ามเนื้อแบบนักล่าชัดเจน โดยจะมีความสูงส่วนสะโพกสูงกว่าความสูงของช่วงไหล่ หางส่วนมากจะมีปลายชี้ลง ใบหูกลม สั้น ตารูปไข่ ช่วงโคนหนวดเด่น ช่วงปากและรอบจมูกกลมกว่าแมวบ้าน มีจุดเด่นที่ลายและสีขนที่อาจเป็นจุดแบบแมวป่าหรือลายหินอ่อน การเลี้ยงดูแมวเบงกอล เบงกอลจะมีหน้าตาเหมือนแมวป่าแต่ไม่ได้ดุดัน แถมยังเชื่อง เป็นมิตร ชอบอยู่กับคน และคล่องแคล่วปราดเปรียว มีนิสัยชอบวิ่งไล่สิ่งของ หรือวัตถุ ชอบปีนป่าย มีเสียงร้องที่ฟังแล้วเหมือนแมวป่าค่อนข้างมาก เลือกอาหารที่ดีส่งผลเรื่องขนและสุขภาพของแมว
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.thailandexhibition.com/talk/detail/?id=5f0bde906b044
โฆษณา