9 ก.พ. 2021 เวลา 02:34 • ไลฟ์สไตล์
อวสาน “แสตมป์ส่วนตัว” สหรัฐฯ หลังให้บริการมานาน 16 ปี
เผยแพร่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564
การไปรษณีย์สหรัฐอเมริกา หรือยูเอสพีเอส เริ่มให้บริการแสตมป์ส่วนตัว ในชื่อ Custom Postage Stamp มาตั้งแต่ปี 2004 จนเป็นที่แพร่หลายในหมู่อเมริกันชนที่ชอบทำแสตมป์ภาพตัวเองในโอกาสสำคัญ ๆ ทั้งวันเกิด วันรับปริญญา โดยเฉพาะวันแต่งงานซี่งมักนิยมพิมพ์เป็นภาพคู่บ่าวสาวผนึกไปกับซองบัตรเชิญส่งทางไปรษณีย์ แต่ให้หลังดำเนินการมานานถึง 16 ปี ในที่สุดไปรษณีย์สหรัฐฯ ก็ตัดสินใจยุติการให้บริการเป็นการถาวรตั้งแต่ 16 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมา
บรรดาตัวแทนจัดทำแสตมป์ส่วนตัวให้ไปรษณีย์สหรัฐฯ เช่น Minted, Zazzle และ PhotoStamps.com จึงต้องประกาศหยุดให้บริการล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ และปลอมประโลมลูกค้าว่า ยังคงหาแสตมป์หวาน ๆ ในธีมแต่งงานซึ่งมีเลือกหลายแบบได้อยู่ทั้งที่ไปรษณีย์ และ Amazon.com บางรายอย่าง Minted หันไปให้บริการเป็น“ซองดีไซน์ส่วนตัว”แทน
แสตมป์ส่วนตัวของสหรัฐฯ เมื่อแรกเริ่มก็ฉีกแนวจากแสตมป์ส่วนตัวของประเทศอื่น ๆ ที่เริ่มมาก่อนหน้านี้ ซึ่งมักกำหนดรูปแบบให้ภาพส่วนตัวต้องเป็นแสตมป์ดวงต่างหากคู่กับแสตมป์หลักที่มีชนิดราคาหน้าดวง เพื่อแยกความแตกต่างจากแสตมป์ปกติ โดยอนุญาตให้พิมพ์พร้อมดีไซน์ที่มีราคาหน้าดวงและนำไปใช้งานได้เลย ไม่ต้องผนึกคู่กับอีกดวงที่เป็นแสตมป์หลักเหมือนหลายประเทศ ทั้งออสเตรเลียซึ่งเป็นประเทศแรกที่เริ่มแสตมป์ส่วนตัวในปี 1999 ไปรษณีย์อังกฤษ เริ่มปี 2000 รวมถึงของไทยซึ่งเริ่มครั้งแรกในงานแสดงตราไปรษณียากรเยาวชนโลก BANGKOK2000
ในช่วงที่ผ่านมา การไปรษณีย์สหรัฐฯ สร้างรายได้ไม่น้อยจากการจำหน่ายลิขสิทธิ์ให้แก่บริษัทตัวแทนหลายรายนำไปทำตลาดแข่งขันกัน จนกลายเป็นบริการที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง โดยจัดทำไปแล้วหลายล้านดวง การปิดตัวครั้งนี้สร้างความผิดหวังไม่น้อยให้แก่อุตสาหกรรมจัดงานแต่งงานซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ แต่ยูเอสพีเอสให้เหตุผลว่า นอกจากเป็นเพราะยอดขายตกต่ำลง ยังเป็นเพราะเกิดคดีทางกฎหมายเกี่ยวกับภาพที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้นำมาจัดทำเป็นแสตมป์
หลังการประเมินล่าสุด การไปรษณีย์สหรัฐฯ ระบุว่าไม่เพียงอุปสงค์และรายได้จากแสตมป์ส่วนตัวจะลดลงอย่างต่อเนื่องในไม่กี่ปีมานี้ แต่ยังไม่มีผู้ค้ามารับใบอนุญาตเพิ่มขึ้นอีกด้วย รายได้ในช่วงปีงบประมาณ 2017 มาจนถึง 2019 ลดลงเหลือเพียง 11 ล้านดอลลาร์เท่านั้น เมื่อชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงในเชิงธุรกิจ และรายได้ที่อาจหายไปแต่สามารถทดแทนด้วยรายได้อื่น ตลอดจนผลกระทบที่จะมีต่อลูกค้าและธุรกิจขนาดเล็ก จึงเห็นควรยุติบริการดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ไม่นาน Stamps.com ผู้รับอนุญาตรายหนึ่งพยายามทักท้วงว่า การยกเลิกบริการนี้เป็นการละเมิดกฎของการไปรษณีย์เสียเองที่มีมาตั้งแต่ปี 2012 พร้อมกล่าวหาว่า เหตผุลที่แท้จริงน่าจะเป็นเพราะไม่ต้องการให้แสตมป์ส่วนตัวโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ PhotoStamps ของตนไปแข่งขันกับแสตมป์ที่ระลึกของการไปรษณีย์มากกว่า เนื่องจากมีจุดแข็งที่พิมพ์เป็นภาพตามความต้องการของลูกค้าได้ เช่น ภาพคู่บ่าวสาว แทนที่จะเป็น Love stamp ที่เป็นแบบตายตัว หรือแสตมป์สกูบี้ดูก็ไม่มีทางเหมือนกับแสตมป์ภาพเด็กเจ้าของวันเกิด หรือสัตว์เลี้ยงแสนรักของเด็ก ๆ เอง เป็นต้น
Stamps.com ระบุว่าได้จ่ายค่าใบอนุญาตให้แก่ยูเอสพีเอสเป็นเงิน 3.25 แสนเหรียญฯ หรือราว 10 ล้านบาท และผลประโยชน์อื่น ๆ จากโครงการ เนื่องจากยังมีจำนวนแสตมป์จำนวนมากไม่ได้ใช้ นอกจากนี้ แนวโน้มความต้องการในตลาดยังแข็งแกร่งและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น มูลค่าหน้าดวงแสตมป์ส่วนตัวที่จำหน่ายไปในปี 2019 สูงถึง 15.25 ล้านเหรียญฯ หาใช่เพียง 10.45 ล้านเหรียญตามที่ยูเอสพีเอสระบุไม่
ยิ่งถ้าให้ Stamps.com สามารถผลิตแสตมป์ส่วนตัวชนิดราคาตลอดกาล หรือ forever stamps และสำหรับการส่งจำนวนมากได้ด้วย ก็จะยิ่งทำให้โครงการนี้มีโอกาสเติบโตขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม ยูเอสพีเอสยังคงยืนยันการตัดสินใจในการยื่นญัตติให้คณะกรรมาธิการว่าด้วยกฎระเบียบการไปรษณีย์พิจารณาอนุมัติให้ถอดบริการแสตมป์ส่วนตัวออกจากรายการประเภทบริการไปรษณีย์อย่างเป็นทางการ โดยระบุถึงข้อสรุปหลังการพิจารณาอย่างรอบคอบว่า โครงการแสตมป์ส่วนตัวนี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ไม่อาจยอมรับได้ทั้งต่อแบรนด์ในทางกฎหมาย และผลประโยชน์ทางธุรกิจ พูดง่าย ๆว่า “ได้ไม่คุ้มเสีย” นั่นเอง
ในเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสมนำมาจัดทำเป็นแสตมป์ส่วนตัวนั้น โดยปกติการไปรษณีย์ทุกประเทศจะให้ความสำคัญและกำหนดกฎเกณฑ์ชัดเจนว่าว่าต้องผ่านการตรวจสอบก่อนจัดพิมพ์ออกมาเป็นแสตมป์เสมอ แต่บางครั้งหากไม่ระวังให้ดีก็เกิดดราม่าได้ เช่นที่แคนาดาเมื่อเร็ว ๆ นี้ การไปรษณีย์ต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณชนที่ปล่อยให้มีการจัดพิมพ์แสตมป์ส่วนตัวภาพศีรษะรูปปั้นของอดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศซึ่งถือเป็นภาพที่ “ไม่เหมาะสม”
ภาพศีรษะอนุสาวรีย์ เซอร์จอห์น เอ.แม็กโดนัลด์ นายกรัฐมนตรีคนแรกของแคนาดา ที่ถูกทำลายหล่นกองอยู่บนพื้นในเหตุประท้วงการเหยียดเชื้อชาติในกรุงมอนทรีออล เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2563 มีการนำไปจัดทำเป็นแสตมป์ส่วนตัวจากบริการ “Picture Postage” ของการไปรษณีย์แคนาดา โดยเจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งในหอสมุดและหอจดหมายเหตุแห่งชาติที่ชื่อ เจมส์ โบน และยังได้โพสต์ภาพแผ่นแสตมป์ 50 ดวง ผ่านทวิตเตอร์เสนอให้ฟรีสำหรับผู้ที่ต้องการอีกด้วย
เขาเองสารภาพว่าสั่งทำไปเล่น ๆ โดยยอมเสียค่าบริการไปแผ่นละ 68 เหรียญแคนาดาสำหรับแสตมป์ส่งในประเทศ ไม่คาดคิดว่าภาพนี้จะผ่านกระบวนการจัดพิมพ์ส่งมาให้จริง ๆ แต่เมื่อพยายามจะทำเพิ่มอีกเพราะมีผู้แจ้งความจำนงเข้ามามากก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากการไปรษณีย์แคนาดาระงับไม่ให้ทำอีกแล้ว ลำพังหลุดออกมาเพียงแผ่นเดียวก็เสียหน้าไปพอดู แต่สำหรับนายโบนนั้นนับว่าได้ครอบครองคอลเลกชันที่หาได้ยากไปโดยปริยาย
แสตมป์ส่วนตัวของไปรษณีย์แคนาดาเป็นแบบเดียวกับของอเมริกา คือมีชนิดราคาพร้อมสรรพใช้ได้เลย อีกทั้งให้บริการทางออนไลน์พร้อมกับโปสการ์ดส่วนตัว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบริการประเภทตามความต้องการของลูกค้าที่ยังได้รับความนิยมสูง
โฆษณา