9 ก.พ. 2021 เวลา 06:36 • ครอบครัว & เด็ก
โรคปวดศรีษะจากความเครียด Tension-type headache ( TTH )
ในปัจจุบันนั้นมนุษย์เราต้องประสบพบเจอกับความเครียดเป็นร้อยเป็นพันอย่าง ทั้ง
โดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ บางคนอาจเครียดตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของทุกวัน
เลยก็ว่าได้
เมื่อเราต้องเจอกับความเครียดมาก ๆ เข้าสิ่งที่ตามมานั่นคืออาการปวดศรีษะ ปวด
ท้ายทอย ตาพร่ามัว ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณศรีษะและใบหน้า ส่งผลกระทบต่อประสาทส่วนกลาง และส่งผลกลับมายังกล้ามเนื้อรอบ
กะโหลกศรีษะ ทำให้เกิดการเกร็งตัวขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ
สารเคมี เช่น เอนโดรฟิน ซีโรโทนิน ในบริเวณสมองได้อีกด้วย
การปวดศรีษะจากความเครียดนี้จะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราโดยตรงไม่
ว่าจะเป็นภาวะวิตกกังวลกับเรื่องต่างๆ ภาวะซึมเศร้า หรือบุคลิกภาพที่อาจเปลี่ยนไป
โดยอาการเหล่านี้ 80-90% พบว่าเกิดในผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-50 ปี และพบในเพศ
หญิงมากกว่าเพศชายถึง 2 เท่าอีกด้วย
การรักษาอาการปวดศรีษะจากความเครียดเบื้องต้นอาจทำได้โดยหาสิ่งผ่อนคลาย
จากสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดความเครียดต่าง ๆ เช่น พักสายตาสักครู่ หรือฟังเพลงสบาย ๆ ทานยาแก้ปวดหากมีอาการปวดมากขึ้น หรือหากท่านใดมีอาการปวดศรีษะรุนแรงต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ปวดจนอาเจียน เดินเซ แขนขาอ่อนแรง ตาพร่ามัว วิตกกังวล
กับสิ่งรอบข้างจนเกินเหตุ อาจต้องพบแพทย์เพื่อรักษาตามอาการ โดยวิธีรักษาอาจทำได้โดยการจ่ายยาตามภาวะของผู้ป่วย เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยากล่อมประสาท ยาแก้ปวดชนิดต่างๆ เป็นต้น
นอกจากการทานยาตามแพทย์สั่งแล้ว แพทย์อาจแนะนำให้รักษาด้วยวิธีการทำกายภาพบำบัด จิตบำบัด ฝังเข็ม หรือกระตุ้นประสาทด้วยไฟฟ้า เป็นต้น
อย่างไรก็ตามเราควรพยายามหลีกเลี่ยงสภาวะที่จะทำให้เรานั้นเกิดความเครียดไว้จะดีที่สุด แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ควรต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันให้ได้และรับมือกับมันให้ได้ เพื่อไม่ให้มันเข้ามารบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของเรา.....
โฆษณา