จากข่าว Tesla เอาเงินสดในมือระดับ 1,500 ล้านเหรียญไปซื้อ bitcoin ผมเลยมาขุดดูเลขอะไรบางอย่าง
จะเห็นได้ว่าตอนนี้มีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศต่างๆที่ถือ bitcoin แทนเงินสดอยู่จำนวนหนึ่ง บริษัทส่วนใหญ่จะอยู่ในอเมริกากับแคนาดา มีจาก UK กับออสเตรเลียนิดหน่อย
จำนวน bitcoin และต้นทุนเฉลี่ยที่บริษัทในตลาดถือครอง
จำนวน bitcoin ที่บริษัทเหล่านี้ครอบครองทั้งหมดอยู่ที่เกือบๆ 190,000 BTC หรือคิดเป็น 0.9% ของจำนวน BTC ที่มีทั้งหมดในโลกนี้ที่ 21 ล้าน BTC หลังการ halving ครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว
เนื่องด้วย BTC ที่มีจำนวนจำกัด ผมจำได้ว่าเคยมีบันทึกจำนวนคนที่ครอบครอง BTC แบ่งตามสเกลในตารางเมื่อเดือนธันวาคม จะเห็นว่ารายย่อยทั่วไปที่ครอบครอง BTC กันคนละไม่เกิน 1 BTC มีอยู่แค่ 5% ของ BTC ทั้งหมดในโลก
สัดส่วนการถือครอง bitcoin ของคนทั้งหมดในปี 2020
สรุปง่ายๆคือ BTC เป็นสินทรัพย์ที่มี free float ต่ำ เพราะของจำนวนมากอยู่ในมือของคนแค่ไม่กี่คน และนี่คือจุดอ่อน หรือบางทีอาจจะเรียกว่าข้อได้เปรียบในการปั่นราคาจากคนที่มีเงินสดในมือจำนวนมากเพื่อให้มูลค่าเงินสดที่มีของเค้าเพิ่มมากขึ้นจากส่วนต่างกำไร ดู story คล้ายๆหุ้นเปลี่ยนชีวิตบางตัวของเราปีที่แล้วมั้ยที่ขึ้นต้นด้วยตัว D
ผมไปค้นดูข้อมูลของบริษัท Microstrategy ที่ CEO เค้าออกมาทวีตว่าเป็นคนชักชวน Elon Musk และบริษัทอื่นๆให้เปลี่ยนจากการถือเงินสดในรูป USD ไปเป็น BTC แทน
สิ่งที่พบคือ revenue หรือรายได้ของบริษัทเค้าในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้วมีเพียง $350 ล้าน และมีเงินสดอยู่ในมือประมาณ $500 ล้าน จากนั้นบริษัทได้เพิ่มส่วนของหนี้มาอีก $650 ล้าน เพื่อจะเอามาซื้อ BTC ล้วนๆ ซึ่งก็ได้ทยอยซื้อ BTC ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน รวมเป็นทั้งหมด $1,145 ล้าน จนเหลือเงินสดในมือ ณ วันสิ้นปีที่แล้วแค่ $54 ล้าน เท่านั้น
Cash on hand ของ Microstrategy (หน่วย $พันล้าน)
นี่ไม่ใช่การกระจายความเสี่ยง แต่เป็นการกู้มาเพื่อ bet มากกว่า จึงไม่แปลกใจว่าทำไม CEO เค้าถึงได้ทวีตให้หลายๆบริษัทหันมาถือ BTC กัน เพราะต้นทุนเฉลี่ยที่เค้าซื้อมาอยู่แค่ราวๆ $16,000/BTC เท่านั้น แต่ราคาล่าสุดอยู่ที่ $46,000 หรือกำไรไปแล้วเกือบ 3 เด้ง ในเวลาไม่กี่เดือน
ทีนี้มาพูดถึง Tesla บ้าง ก่อนหน้านี้ในช่วง Q3/20 บริษัทมีเงินสดในมือ $14,500 ล้าน ถ้าใครจำได้ เมื่อกลางเดือนธันวาที่ผ่านมา Tesla เพิ่งจะเพิ่มทุนไป $5,000 ล้านจากผู้ถือหุ้น ทำให้มีเงินสดในมือตอนสิ้นปีที่แล้วเป็น 19,500 ล้าน
การเพิ่มทุนทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทลดลงไปแค่ 1% เนื่องจากราคาหุ้นขึ้นมาเยอะมากในปีที่ผ่านมา dilution ก็เลยน้อยมาก เงินตรงนี้ที่บริษัทบอกว่าจะเอาไปลงทุนขยายกิจการ กลับกลายเป็นว่าเอาไปซื้อ BTC ถึง $1,500 ล้าน หรือประมาณ 8% ของเงินสดที่มี ราคาต้นทุน BTC ที่ Tesla ถืออยู่ตอนนี้คือราวๆ $35,000/BTC
ลองคิดดูสิว่าถ้า Tesla เกิดทำแบบเดียวกับ Microstrategy ขึ้นมา โดยการเอาเงินสดที่มีในมือเกือบทั้งหมดไปซื้อ BTC ราคามันจะเฟ้อไปขนาดไหน
ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้เรียกว่าการกระจายความเสี่ยงจาก fiat currency หรือเรียกว่าการเก็งกำไรโดยการทุ่มตลาดจากสินทรัพย์ที่มี free float ที่ต่ำ แต่อย่างน้อยเราก็พอจะรู้ถึงราคาต้นทุนของเจ้ามือในรอบนี้สำหรับคนที่เข้าไปเทรด BTC เพื่อระมัดระวังตัวเอง
ก่อนหน้านี้เราพูดถึง BTC ในแง่ของ currency hedging ที่ทำหน้าที่คล้ายๆทองคำ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่ใช่ซะแล้ว
แล้วยิ่งการทวีตรัวๆของ Elon Musk เกี่ยวกับ BTC เอย Doge coin เอยช่วงหลังๆ ผมยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นการปั่นราคาชัดเจน ต่อให้ราคา BTC crash จน Tesla ขาดทุนส่วนนี้ อย่างมากก็ raise fund เพิ่มจากผู้ถือหุ้นมาชดเชยสบายๆ เพราะด้วยราคาหุ้นสูงขนาดนี้ เหมือนกด ATM ได้แบบไม่ต้องกลัวเงินจะหมดเลย
We are in the digital currency bubble อย่างไม่ต้องสงสัย
- 39
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
