9 ก.พ. 2021 เวลา 16:15 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ความตายของ Molly Russell เด็กสาวผู้เปลี่ยนการกำกับโซเชียลมีเดีย
1
เช้านี้ตามเวลาของประเทศอังกฤษ ทาง BBC ได้มีการพูดถึงข่าวการเลื่อนการไตร่สวนคดีของ Molly Russell เด็กหญิงวัย 14 ปี ที่ตัดสินใจจบชีวิตของเธอด้วยภาวะซึมเศร้าในปี 2017 โดยภายหลังจากที่เธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย ครอบครัวได้พบว่า เธอได้ติดตามบัญชีผู้ใช้ และ tag ที่มีรูปภาพเกี่ยวข้องกับการทำร้ายตัวเอง และฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก
1
ภายหลังการสอบสวนเพิ่มเติม พบว่าเนื้อหาประเภทดังกล่าวสามารถกระตุ้นพฤติกรรมให้ผู้ที่รับชมโดยเฉพาะเยาวชน มีความอยากทำตาม และนำไปสู่การทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตายเหมือนที่ Molly ทำ
นี่จึงเป็นเหตุให้ Ian Russel พ่อของเธอ ร่วมกับครอบครัวอื่นๆในสหราชอาณาจักร พยายามเรียกร้องให้ทาง Instagram จัดการกับเนื้อหาที่มีความสุ่มเสี่ยงนี้ในเชิงรุกมากขึ้น โดยไม่หวังพึ่งการรายงานจากผู้ใช้เพียงฝ่ายเดียว
ครั้งหนึ่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ก็เคยออกมาเตือนผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียทุกราย ไม่เพียงแต่ Instagram ว่า ถ้าไม่สามารถจัดการเนื้อหาที่มีความรุนแรงได้ดีพอ ทางรัฐบาลจะนำกฎหมายเข้ามาจัดการ โดยอ้างอิงเหตุการณ์ของ Molly ไว้ด้วย
1
นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมระยะหลัง Instagram จึงมีความพยายามในการบล๊อกภาพถ่าย รูปวาด การตูน และมีม ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายตัวเอง และการฆ่าตัวตายมากขึ้น
อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 ทาง Instagram ก็ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ได้ลบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายตัวเอง และการฆ่าตัวตายไปกว่า 834,000 ชิ้น โดยกว่า 77% เป็นการจัดการแบบเชิงรุก โดยไม่ได้พึ่งพิงการรายงานจากผู้ใช้เข้ามาแล้ว
นอกจากนี้ทาง Instagram ก็ได้มีความพยายามในการใช้ฟีเจอร์ Sensitivity Screen ในการเบลอเนื้อหา ที่อาจจะมีความรุนแรง ดูอันตราย หรือมีเลือดตกยากออกเพิ่มอีกทาง
1
รวมถึงการแจ้งเตือนในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการค้นหาด้วย keyword ที่มีความสุ่มเสี่ยง เช่นคำว่า #suicide หรือ #kill โดยจะพบข้อความแจ้งเตือนก่อนกดเข้าไปดูเนื้อหาว่า
คีย์เวิร์ดที่คุณกำลังค้นหา อาจมีเนื้อหาภาพที่ส่งเสริมพฤติกรรม ที่อาจก่อให้เกิดอันตราย และถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากคุณกำลังเผชิญกับสิ่งที่ยากลำบากเรายินดีที่จะช่วยเหลือ
ซึ่งหากกดขอรับความช่วยเหลือ จะพบกับคำแนะนำ และช่องทางในการพูดคุยกับอาสาสมัครสายด่วน The Samaritans of Thailand อีกด้วย
แม้ว่าทาง Instagram จะมีความพยายามในการจัดการเนื้อหาที่มีความสุ่มเสี่ยงอย่างสุดความสารมารถ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่สูงขึ้น และจำนวนเนื้อหาที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ทาง Instagram ไม่สามารถจัดการภาพดังกล่าวงได้อย่างทันท่วงที
ท้ายที่สุดแล้วนี่อาจจะเป็นความรู้เท่าทันตัวเองของผู้ใช้ และคนรอบตัว หากวันนึงคุณพบว่าเริ่มรู้สึกไม่ไหว การก้าวออกจากหน้าจอเล็กๆในมือคุณ ไปพบกับใครบางคนที่รับฟัง หรือสายด่วนสะมาริตันส์ อาจจะเป็นแนวทางนึงที่ช่วยให้คุณไปต่อได้
โฆษณา