Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Chinesetutors❤︎
•
ติดตาม
9 ก.พ. 2021 เวลา 16:16 • บันเทิง
“古代-近代的汉字”
วิวัฒนาการของตัวอีกษรจีน
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึงห้าพันกว่าปีโดยมีพัฒนาการในด้านต่างๆอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นในด้านการเมืองการศึกษาเทคโนโลยี และอื่นๆ ซึ่ง“ ตัวอักษรจีน” ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีวิวัฒนาการมาอย่างช้านานเช่นเดียวกันโดยสามารถแบ่งประเภทได้ตามนี้เลยค่ะ
“甲骨文” อักษรกระดองเต่าหรืออักษรบนกระดูกสัตว์
1. อักษรกระดองเต่าหรืออักษรบนกระดูกสัตว์ (甲骨文)
อักษรกระดองเต่าเป็นรูปแบบอักษรที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา.
ตัวอักษรประเภทนี้ใช้ในสมัยปลาย”ราชวงศ์ซาง (1,600-1,046 ปีก่อนคริสตศักราช)”.
มีเป้าหมายเพื่อใช้บันทึกและทำนายดวงชะตาด้วยการสลักอักษรไว้บนกระดูกสัตว์หรือกระดองเต่า
อักษรกระดองเต่ามีลักษณะคล้ายอักษรภาพเพียงแค่มองก็รู้ทันทีว่าหมายความว่าอะไรโดยรูปแบบของอักษรชนิดนี้จะเรียวบางและไม่ค่อยโค้งมนตามเครื่องมือที่ใช้แกะสลักนอกจากนี้อักษรกระดองเต่าแม้จะเก่าแก่ แต่ก็เป็นอักษรที่มีความสมมาตรและมีรูปแบบที่แน่ชัดทั้งยังเพียบพร้อมด้วยสามปัจจัยหลักสำหรับศิลปะการเขียนอักษร ได้แก่ การเขียนอักษรการผสมคำและองค์ประกอบของความเรียงซึ่งแสดงให้เห็นว่าอักษรในยุคนี้พัฒนาอย่างเป็นระบบแล้วและเป็นรากฐานในการพัฒนามาสู่รูปแบบของอักษรในปัจจุบัน
“金文” อักษรสำริดหรืออักษรโลหะ
2. อักษรสำริดหรืออักษรโลหะ (金文)
อักษรสำริดเกิดขึ้นในช่วงกลางยุคราชวงศ์ซาง 1,600-1,046 ปีก่อนคริสตศักราช) และเป็นที่นิยมในสมัยราชวงศ์โจว (B) 1,046-256 ปีก่อนคริสตศักราช) ในสมัยนั้นมีการใช้เครื่องสำริดกันอย่างแพร่หลายอักษรประเภทนี้เกิดจากการหลอมหรือสลักตัวอักษรลงบนเครื่องสำริดต่างๆโดยเฉพาะบนระฆัง และกระถางสามขา
เนื้อหาที่บันทึกจะเกี่ยวกับการทำพิธีเซ่นไหว้ราชโองการหนังสือรบหนังสือสัญญาเป็นต้นซึ่งบันทึกเหล่านี้เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการใช้ชีวิตในยุคสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี
ลักษณะของอักษรสำริดเมื่อเทียบกับอักษรกระดองเต่าแล้วอักษรสำริดจะมีความหนาความโค้งมนและจับเป็นกลุ่มก้อนมากกว่าอักษรกระดองเต่า
“小豪” อักษรเสี่ยวจ้วน
3. อักษรเสี่ยวจ้วน (小豪)
ตัวอักษรเสี่ยวจ้วนเกิดขึ้นหลังจากจักรพรรดิจิ๋นซี 259-210 ปีก่อนคริสตศักราช) รวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งได้แล้วจึงออกนโยบายปฏิรูปและวางรากฐานอักษรให้ใช้เหมือนกันทั่วประเทศโดยเป็นการปรับอักษรต้าจ้วน ที่ชาวแคว้นฉินนิยมใช้กันก่อนหน้านี้ให้มีความเรียบง่ายขึ้นจนกลายเป็นอักษรที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงเวลานั้นจนถึงช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (202 ปีก่อนคริสตศักราช-ค.ศ. 8)
ตัวอักษรเสี่ยวจ้วนถูกอักษรลี่ซู ทดแทนในที่สุดเมื่อประเทศจีนเริ่มใช้ตัวอักษรแบบเสี่ยวจวนก็มีการกำหนดรูปแบบการเขียนที่เป็นระบบมากกว่าเดิมขึ้นมาทั้งในด้านเส้นขีดเค้าโครงและรูปแบบโครงสร้างที่แน่นอนรวมถึงลดความเป็นอักษรภาพลง
ลักษณะของอักษรเสี่ยวจ้วนจะเป็นอักษรที่มีรูปทรงชัดเจนกว่าอักษรสองแบบข้างต้นโดยจะเป็นทรงยาวและมีความโค้งมนสม่ำเสมอ
“隶书” อักษรลี่ซูหรืออักษรทาส
4. อักษรลี่ซูหรืออักษรทาส (隶书)
อักษรลี่ซูเป็นอักษรที่มีวิวัฒนาการมาจากอักษรเสี่ยวจ้วน เริ่มใช้สมัยราชวงศ์ฉิน (221-207 ปีก่อนคริสตศักราช) เป็นที่นิยมสูงสุดในสมัยราชวงศ์ฮั่น ( 202 ปีก่อนคริสตศักราช-ค.ศ. 220)
ตำนานเล่าว่าอักษรชนิดนี้ถูกสร้างสรรค์โดยทาสในเรือนจำผู้หนึ่งนามว่า“ เฉิงเหมี่ยว” (ปีเกิดและปีตายไม่แน่ชัด) เขาคิดว่าอักษรเสี่ยวจ้วนเขียนอย่างรวดเร็วไม่ได้ทำให้เสียเวลาทำงานจึงคิดอักษรรูปแบบใหม่ขึ้นมาและใช้เฉพาะกับงานในเรือนจำเท่านั้นต่อมาได้เรียกว่าอักษรนี้ว่า“ ลี่ซู” เพราะคำว่า“ ลี่” (隶) แปลว่าทาสและถูกใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นจนกระทั่งทดแทนอักษรเสี่ยวจ้วนในที่สุดทว่าในสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ (ค.ศ. 386-534) มีการค้นพบอักษรที่มีความคล้ายกับอักษรลี่ซูซึ่งแสดงให้เห็นว่าอักษรประเภทนี้อาจมีขึ้นมาก่อนสมัยราชวงศ์ฉินแล้ว
ตัวอักษรลี่ซูจะมีลักษณะอ้วนกว้างเส้นขีดแนวขวางจะยาวเส้นขีดแนวตั้งจะสั้นและเปลี่ยนความโค้งมนของอักษรเสี่ยวจ้วนเป็นรูปทรงเหลี่ยม
”楷书” อักษรข่ายซูหรืออักษรมาตรฐาน / อักษรบรรจง
5. อักษรข่ายซูหรืออักษรมาตรฐาน / อักษรบรรจง (楷书)
อักษรข่ายซูค่อยๆพัฒนาโดยเป็นการย่อแบบมาจากอักษรลี่ซู (隶书) อีกทีซึ่งอักษรรูปแบบนี้มีการพัฒนามาแล้วหลายต่อหลายสมัยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น ( 202 ปีก่อนคริสตศักราช-ค.ศ. 220) จนถึงราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1636-1912) ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
อักษรข่ายซูจะมีลักษณะเป็นทรงตรงเหลี่ยมตัวอักษรมีความสมดุลเป็นระเบียบบรรจงสวยงามจึงถือเป็นมาตรฐานในการเขียนอักษรจีนจนถึงปัจจุบัน
“草书” อักษรเฉ่าซูหรืออักษรหวัด
6. อักษรเฉ่าซูหรืออักษรหวัด (草书) อักษรเน่าซูหรืออักษรหวัดคืออักษรที่เขียนด้วยความรวดเร็วและหวัดพบในช่วงราชวงศ์ฮั่น (SX 202 ปีก่อนคริสตศักราช-ค.ศ. 220) โดยพัฒนามาจากการเขียนอักษรลี่ซู (# B) แบบหวัดซึ่งในปัจจุบันไม่ว่าอักษรประเภทใดขอเพียงแค่เขียนหวัดก็สามารถจัดเป็นอักษรเฉ่าซูได้เนื่องจากเป็นอักษรที่มีการเขียนง่าย แต่อ่านค่อนข้างยากอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในการสื่อสารจึงไม่มีการนำมากำหนดให้เป็นรูปแบบอักษรที่ใช้กันทั่วไป
“行书” อักษรสิงซู
7. อักษรสิงซู (行书)
อักษรสิงซูเป็นอีกหนึ่งรูปแบบอักษรที่พัฒนามาจากอักษรลีซู (隶书) เป็นรูปแบบที่อยู่ระหว่างอักษรข่ายซู (楷书) และอักษรเฉ่าซู (草书) โดยจะอ่านได้ง่ายกว่าอักษรเน่าซู แต่ก็เขียนออกมาได้รวดเร็วกว่าอักษรข่ายซูเช่นกัน
อักษรสิงซูสามารถแบ่งได้สองประเภทตามลักษณะของการเขียนหากเขียนได้บรรจงและประณีตหน่อยจะเรียกว่า“ สิงข่าย” (行楷) แต่ถ้าหากเขียนแล้วมีความหวัดมากกว่าจะเรียกว่า“ สิ่งเฉ่า” (行草)
ตัวอย่าง อักษรจีน “鸡🐔”
Facebook: @chinesetutors
Facebook หลัก: Xogenn Roy
ฝากกดถูกใจ คอมเมนท์ และติดตามกันด้วยค่ะ🥰💖💖💖
1 บันทึก
3
7
3
1
3
7
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย