10 ก.พ. 2021 เวลา 01:41 • นิยาย เรื่องสั้น
ซองแดง ๆ หนาๆ
นี่เป็นเรื่องเล่าครั้งเยาว์วัยของข้าพเจ้าอีเรื่องหนึ่งที่หน้าประทับใจ ก็อย่างที่บอกไว้ ข้าพเจ้าเองเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ที่ยังคงทำบางอย่างตามประเพณีจีน ในเทศกาลต่าง ๆนั้นอยู่บ้าง เมื่อพูดถึงตรุษจีน แน่นอนสิ่งที่เด็ก ๆ และลูกหลาน คนงานในบ้านของคนไทยเชื้อสายจีน ก็ต้องเป็นอั่งเปาซองแดง ๆ ที่จะได้รับในช่วงนี้ ซึ่งสำหรับบ้านที่มีกิจการนั้นการให้อั่งเปาเองก็เหมือนกับการให้โบนัสสำหรับคนงานที่ทำงานให้ และให้ตามกำไร รายได้ และการทำงานของคนงานเหล่านั้น
ถ้าทำงานดี มีกำไรมากก็ได้ซองใหญ่ ถ้าได้น้อย หรือทำงานไม่ดี ก็ยังได้ แต่ได้น้อยนั้นเอง การให้อั่งเปาบ้างครั้งก็ให้ความรู้สึกคล้ายกับการประชันความมั่งมีของแต่ละบ้าน ไม่ใช่ขนาดภายนอกของซองแดง ๆเหล่านั้น แต่เป็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้นต่างหาก พูดถึงเรื่องนี้อังเปาให้คนงานนั้น ข้าพเจ้าก็ไใ่ค่อยรู้มากเท่าไร แต่ถ้าอั่งเปาให้ลูกหลานละก็อันนี้ข้าพเจ้าเองก็ได้ มาไม่น้อย ความสนุกของการได้อั่งเปาสำหรับเด็ก ๆ ในตอนนั้นก็คือ ใครได้ซองเยอะกว่ากัน ประมาณว่าล่าซองแดง คือใครซองจากผู้ใหญ่ในบ้านครบทุกคน แสดงว่าคนนั้นได้เจอกับผูใหญ่ในบ้านครบทุกคนแล้ว และเมื่อซองแดงเหล่านั้นถูกแจกออกไปจนหมดแล้วนั้น ก็ถึงเวลานับซองที่ได้รับนั้น สำหรับข้าพเจ้าก็เป็นความสนุกตรงที่จะได้รู้ว่าซองที่ได้นั้นมีเงินอยุ่ข้างในเท่าไร แล้ววันนั้นข้าพเจ้าได้เท่าไร นั้นคือสิ่งที่สนุกที่สุดอีกทั้งยังเป็นการรวมตัวของเด็ก ๆ ลูกหลานในบ้านด้วย เมื่อมารวมกันก็ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายในบ้านเบิกบานด้วยเห็นมีลูกหลานมากมายมารวมตัวกัน กินข้าวบ้าง สนทนาพูดคุยเสียงดัง ถามสารทุกข์ของคนที่อยู่ไกลที่ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่บรรยากาศเหล่านี้ ในเวลาปัจจบันของข้าพเจ้านั้นไม่มีอยู่อีกแล้ว นั้นก็คงเป็นด้วยประการใดก็ไม่อาจรู้ได้ แต่เป็นการแยกย้ายของลูกหลานที่เคยรวมตัวกันได้ละมั้ง
สำหรับข้าพเจ้านั้น ช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นสิ่งที่น่าประทับใจ แม้ตัวข้าพเจ้าเองจะเป็นพวกไม่ค่อยได้สูงสิงกับชาวบ้าน สนิทคนยากก็เถอะ
อีกอย่างที่ยังไม่ได้บอกคือ เงินในซองตอนนั้น ได้เยอะอยู่ ก็คิดเอาเองแล้วกันว่าแค่ซองเดียว ก็ซื้อทอง หนึ่งสลึงได้แล้ว (ทองสมัยนั้นนะ ไม่ได้ราคาสูงเหมือนตอนนี้ รู้สึกว่าถ้าจำไม่ผิด น่ายังหลักร้อย ถึงหลักพันอยู่แต่แน่นอนว่าสูงสุดยังไม่ถึงห้าพันแน่ๆ อย่าได้คิดว่าช่วงนั้นทองหนึ่งมาจะราคาถึงเก้าพะนได้ดชียวละไม่มาทาง)
ก่อนจบเรื่องราววันนี้ ก็ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้คืออดีต สำหรับปัจจุบันของข้าพเจ้านั้น ไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้แล้ว ด้วยผู้ใหญ่ในตอนนั้น ค่อย ๆจากลากันไปเกือบหมดแล้ว และกิจการที่จัดได้ว่ารุ่งเรืองในตอนนั้น ก็เหมือนจะสูญสลายไป ดำรงไว้ได้เพียงไม่เกินหนึ่งรุ่น และความสัมพันธ์ใครครั้งนั้นก็กลายเป็นอดีตที่วันนี้ไม่มีความสัมพะนเช่นนั้นให้คงอยู่ เรื่องนี้อาจทำให้โหยหาได้บ้าง แต่โลกนี้มีสิ่งใดยั้งยืนอยู่อีกหรอ มีเพียงแค่ดำรงอยู่ได้นานแค่ไหนเพียงเท่านั้นเอง
ของกล่าวปิดท้ายนี้ ข้าพเจ้าก็เป็นคนที่อาจจะยึดติดกับอดีตบ้างเรื่องไปบ้าง ก็อย่างแหละ ก็ใครใช้ให้ข้าพตอนนี้มองไปทางไหนก็ไม่เห็นเรื่องอะไรที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้วมีความสุขน่าจดจำเลย
กล่าวจบจริงนะ สุดท้ายอดีตก็เป็นเพียงความทรงจำ เรื่องบ้างอย่างเกิดขึ้น คงอยู่ไม่ว่าจะได้นานแค่ไหน สุดท้ายก็สิ้นสุด จบลงเหลือไว้เป็นเพียงความทรงจำบาง และเบา หนักสำหรับผู้อยากจดจำ แต่อาจเป็นสิางที่อยากให้หายไปสำหรับผู้ไม่ยากจำ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา