10 ก.พ. 2021 เวลา 10:17 • บันเทิง
จิ๋นซีฮ่องเต้...ตอนที่ ๑
ก่อนคริสตกาล ๒๖๐ ปี... ในวันนั้นยังไม่มีคำว่าประเทศเกิดขึ้นมา  พื้นแผ่นดินที่เราเรียกว่าประเทศจีนทุกวันนี้  ถูกแบ่งออกเป็น ๗ แคว้นด้วยกัน...หนึ่งในแคว้นที่อุดมสมบูรณ์และทรงอิทธิพลคือ  แคว้นจ้าว  ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือ...มีเมืองหลวงชื่อ  หันตัง
แล้วก็เกิดสงคราม...แคว้นฉินยกทัพมารุกรานแคว้นจ้าว
อย่างที่ได้เกริ่นไปว่า  แคว้นต่อแคว้นมักจะมีการส่งลูกหลานของตนไปเป็นตัวประกันในอีกแคว้นนึง  เพื่อให้เกิดความอุ่นใจว่า  ลูกหลานมึงอยู่บ้านกูนา  อย่ามาวอแวเดี๋ยวมีหัวขาด
...แต่พอเอาเข้าจริงแล้ว  ตัวประกันสำคัญแค่ไหนล่ะ...อย่างอ๋องแคว้นฉินนี่เค้ามีลูกยี่สิบกว่าคน  หลานนับไม่ถ้วน...หลานปลายๆแถวคนนึงชื่อว่า  อี้เหริน...ก็ถูกส่งมาเป็นตัวประกันในแคว้นจ้าว...
แล้วก็ไม่ได้ส่งมาแบบมีเกียรติยศเกียรติศักดิ์อะไรมากมาย...อี้เหรินที่ถูกส่งมาเกือบจะเรียกว่า  มีความเป็นอยู่แบบอดมื้อกินมื้อก็ได้...แล้วยังงี้สำคัญมั้ยล่ะ
3
เพราะฉะนั้น  เมื่ออ๋องแคว้นฉินเกิดเสี้ยนอยากทำสงคราม...ก็ยกทัพบุกแคว้นจ้าวทันที...หลานเหลินกูไม่สน  เพราะมีเป็นกระตั้ก...เผลอๆอาจจะลืมไปแล้วด้วยว่ามีหลานคนนึงเป็นตัวประกันอยู่...
2
แล้วพอแคว้นจ้าวเริ่มเสียท่า  โดนแคว้นฉินโจมตีถอยร่นมาเรื่อยๆจนแทบมาเคาะประตูเมืองหลวงอยู่แล้ว...อ๋องจ้าวก็นึกขึ้นได้...มีตัวประกันแคว้นฉินที่ชื่ออี้เหรินอยู่นี่หว่า...ไปลากมันมาประหารแก้กลุ้มซ้าบัดเดี๋ยวนี้
ดีว่ามีที่ปรึกษาคนนึง...ผิงหยวนจิน...ขอร้องไว้...ฆ่าอี้เหรินได้แค่สะใจพระเจ้าข้า  แต่ยังไงพวกฉินแม่งก็ฉะเราแน่  เผลอๆไปฆ่าหลานมันจะยิ่งโดนเร็วขึ้น...
2
...เอ้า  ไม่ฆ่าก็ไม่ฆ่า  แล้วทำไงดีล่ะ...
1
...ไปหาพันธมิตรดีกว่าพระเจ้าข้า...เดี๋ยวข้าจะพาทีมไปขอร้องแคว้นฉู่ให้ส่งกำลังทหารมาช่วยเราเอง...
1
ผิงหยวนจินก็ยกขบวนรวมยี่สิบคน  เดินทางลงใต้สู่แคว้นฉู่...
อ้อ  ตรงนี้ขอแทรกเรื่องขำนิดนึง...คือสมัยนั้น  พวกขุนนางเค้าจะมีทีมที่คอยช่วยงานต่างๆหลายด้าน  มีทั้งด้านบู๊  ด้านบุ๋น  ด้านหมอดู  ด้านหาเงินหาทอง...ถ้าเป็นสมัยนี้เค้าเรียกทีมที่ปรึกษา
...แต่ในสมัยนั้น  เค้ามีชื่อเรียกภาษาจีน  ซึ่งถ้าแปลตรงตัวแปลว่า...นักเกาะกิน...โอย  เค้าตั้งชื่อได้จริงใจมาก...
4
มาว่ากันต่อ...
2
อ๋องแคว้นฉู่ก็ให้การต้อนรับทีมขุนนางของแคว้นจ้าวเป็นอย่างดี...แต่อ๋องฉู่แม่งใส่เสื้อกั๊กตลอด  ตอนกินข้าวพอผิงหยวนจินจะเอ่ยปากเรื่องสำคัญก็...อย่าเพิ่งเลยน่า  กินข้าวกันให้อร่อยก่อน...
1
พองานเลี้ยงแม่งก็...เวลานี้ไม่เหมาะ  ดูพวกอีหนูมันแด๊นซ์ให้มันส์ก่อน...คือไม่ให้โอกาสผิงหยวนจินได้เอ่ยปากเรื่องขอกำลังทหารซักที
1
...แต่แล้วในทีม “นักเกาะกิน” ของผิงหยวนจิน...ก็มีคนนึงเลี้ยงไม่เสียข้าวสุก...ชื่อ  เหมาสุย
1
ที่จริงแล้ว  เหมาสุยเพิ่งมาสมัครงานตอนที่จะเดินทางมาแคว้นฉู่นี่เอง...เรียกว่าเป็นมือใหม่มากๆ  แถมระหว่างที่เดินทางกันมา  ก็โดนพวกเก่าๆในทีมเยาะเย้ยถากถางว่าไม่เห็นมีฝีมืออะไรเลย...มึงร่วมทีมมายังไงวะ  ไม่มีทางติดสิบเอ็ดตัวจริงแน่  สำรองก็อย่าหวัง...
2
ก็จริงอย่างที่โดนปรามาสไว้...เหมาสุยไม่ถูกเชิญในงานเลี้ยง  แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้...ใช้วิธีดื้อด้านจนตัวเองเข้ามานั่งชูคออยู่ในงานใหญ่โตจนได้...
1
พนักงานจัดโต๊ะให้เหมาสุยนั่งติดกับผิงหยวนจิน  เจ้านายตนเองที่นั่งโกรธหนวดกระดิกอยู่  คิดว่าไอ้เหมาแม่งไม่มีมรรยาทเลย  ทำให้รัฐฉินเสียหน้า...รู้งี้ไม่เอาแม่งมาด้วยดีกว่า...
3
แต่เหมาสุยกลับคิดว่า...เรื่องคอขาดบาดตาย  เสือกมานั่งเกรงอกเกรงใจไม่กล้าเอ่ยปากกันยังงี้...แคว้นจ้าวแม่งโดนพวกฉินตีตายกันพอดี
1
สายตาก็เลยสอดส่ายหาจังหวะตลอดเวลา...แล้วก็ถึงช่วงที่นางกำนัลมาเสิร์ฟเหล้าพอดี...
เหมาสุยแกล้งขัดขานางกำนัลจนหกล้มเกิดความวุ่นวาย...แล้วก็รีบกระโจนเข้าดึงกระบี่บนโต๊ะออกจากฝัก  คมกระบี่พาดคออ๋องฉู่...
1
“กูขอทหารแคว้นฉู่ไปช่วยทำสงคราม  มึงจะให้ไม่ให้”...เหมาสุยถามตรงทันที...
ผิงหยวนจินร้องห้ามเสียงหลง...”ไอ้เหมาอย่าวู่วาม”...ในใจก็คิดว่าตายห่านแล้ว  ไอ้เหมาแม่งผิดคิวซะขนาดนี้...
1
แต่เหมาสุยเริ่มแล้วต้องไปให้สุด...”ท่านอ๋อง  ถ้าท่านไม่ให้กำลังทหาร...เราก็มาตายพร้อมกันเถอะ”...
สุดท้ายกลายเป็นว่า  วิธีโคตรวู่วามของเหมาสุยกลับได้ผล...แคว้นฉู่ยอมส่งกำลังทหารมาช่วยแคว้นจ้าว  ส่งผลให้ฉินตีจ้าวไม่สำเร็จ  ต้องถอยกลับไป...
พวกแคว้นจ้าวก็เฮสิฮะ...แล้วคนที่ได้หน้าก็กลายเป็นผิงหยวนจิน  จนมีตัวตั้งตัวตีที่จัดงานเลี้ยงฉลองให้กับท่านผิงผู้หน้าบาน  ก็คือมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของแคว้นจ้าว...หลี่ปู้เว่ย
หลี่ปู้เว่ยร่ำรวยจากสัมปทานของรัฐ  ทั้งรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน...เอ้อ  โทดๆๆๆๆ  จำผิดไปฮะ...
1
เฮียหลี่รวยจากอะไรอย่าไปรู้มันเลย  เอาเป็นว่ารวยและใช้เงินเป็น...เรามาดูว่าคน “ใช้เงินเป็น” เค้าใช้กันยังไง...
โฆษณา