10 ก.พ. 2021 เวลา 10:37 • ท่องเที่ยว
แบกเป้เที่ยว UK ตอนที่ 2 Plymouth เส้นทางคนไร้บ้าน
Plymouth ที่มา lonelyplanet.com
เป้คู่กายหนังสือคู่ชีพ ท่องเที่ยว UK
หวัดดีผู้อ่านทุกท่าน ตอนนี้ฅ.คนเล่าเรื่อง ขอแชร์แผนการท่องเที่ยวที่ดูแล้วอาจจะงงๆและไม่ค่อยจะเชื่อมโยงเส้นทางที่หนังสือแนะนำเท่าไร ก็เพราะเหตุที่เล่าแล้วนี้คืออาทิตย์สุดท้ายที่ต้องบินกลับบ้านเกิดของเรา(ประเทศไทย) และโอกาสครั้งนี้ฅ.คนเล่าเรื่องก็เสาะแสวงหาทริปเที่ยวเท่าที่เป็นไปได้ อีกทั้งต้องประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะค่าเงินปอนด์ช่างแพงกว่าไทยหลายเท่าตัว จากเด็กบ้านนอกที่มีโอกาสไปเปิดหูเปิดตานอกประเทศ ก็ต้องพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาสักครั้งหนึ่งก็ยังดี
เส้นทางทริปแบกเป้เที่ยว UK
เราเริ่มต้นที่เมือง Bristol คงจำกันได้ และแล้วเราก็เริ่มเดินทางแบบเหนือ ใต้ ออก ตก เท่าที่จะมีเวลาและงบที่จำกัดจะทำได้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะราวๆ ไม่เกิน 50 ปอนด์ เพราะค่าเช่าห้องใต้หลังคาขณะนั้นกับบ้านที่เรียกว่าแฟมมิรี่ น่าจะอยู่สัปดาห์ละ25ปอนด์ และบวกค่าครองชีพอาทิตย์นั้นอีกราวๆยี่สิบกว่าปอนด์ เคล็ดลับความประหยัดคือการไปขอพักกับเพื่อคนไทยที่สนิทกันบ้างเมืองเท่าที่เรามี ซึ่งเรามีอยู่ที่ London และ Manchester เป็นฐานทับย่อยอีกต่อของการเดินทาง
เส้นทางจาก Bristol ไป Penzance
มาเริ่มต่อจากตอนที่แล้วเป็นทริปแรกของการผจญภัยครั้งนี้ เม่ื่อถึงเวลาที่เราต้องขึ้นรถไฟกลับสิ่งที่เราแผนคือจะแวะพักที่เมือง Plymouth และหาที่พัก YHA นอนที่นั้นสักคืนพร้อมเที่ยวรอบๆเมืองนั้นด้วย และแล้วก็ถึงที่หมาย พลิมัท (อังกฤษ: Plymouth) เป็นนครและเป็นเมืองที่มีการปกครองโดยรัฐบาลท้องถิ่นระดับเดียวที่อยู่ในมณฑลเดวอนในภาคการปกครองตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ที่อยู่ไกลจากลอนดอนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 310 กิโลเมตร พลิมัธตั้งอยู่ระหว่างปากแม่น้ำพลิมทางตะวันออกและแม่น้ำเทมาร์ทางตะวันตกที่มารวมกันที่พลิมัธซาวนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 พลิมัธมีเทศบาลปกครองเป็นของตนเองที่รวมทั้งพลิมพ์ตัน และพลิมสต็อคที่อยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำพลิม
ฉนั้นเมืองนี้จะไม่มีปราสาทหรือชายฝั่งที่เงียบสงบเท่า Panzance ชายฝั่งนั้นอาจเปรียบความครึกคักพัทยา หรือ สัตหีบ ของบ้านเรา เพราะที่นี้เป็นฐานทัพทหารเรือ Her Majesty's Naval Base, Devonport (HMNB Devonport) 1 ใน 3 ของ ฐานทัพทหารเรือ ของสหราชอาณาจักร และ ติดตั้งบำรุงขีปนาวุธที่ใหญ่ในพากพื้นยุโรปแห่งหนึ่ง
ฐานทัพเรือ HMNB Devonport of UK ที่มา https://en.wikipedia.org/wiki/HMNB_Devonport
เราได้เดินชมเมืองรอบๆและแหล่งช็อปปิ้งว่ามีอะไรน่าสนใจอาจเก็บไปฝากทางบ้านที่ประเทศไทยแต่ ก็ไม่ได้สักชิ้้น และเรายังเหลือการเดินทางอีกหลายทริป ในหัวสมองที่เราคิดไว้ เมืองนี้ได้ชื่อว่า มีมหาลัยที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 38 ของ UK เหมือนกับ เมือง Bristol ที่เราเรียนภาษาอยู่และใช้ชีวิตที่นั้นนานนับหลายเดือน มหาวิทยาลัยที่นี้ก็ชื่อเดี่ยวกับเมือง คือ University of Plymouth จึงไม่แปลกใจเลยว่าคงมีสถานบันเทิงและ Night Life ในเมืองและแหล่งชุมชน (ในที่นี้หมายถึง มหาวิทยาลัยนะอิอิ) ในตอนนั้น smart phone ยังไม่ทันสมัยเท่าตอนนี้ที่สามารถดู google map แบบสะดวกสบายและการที่เป็นเมืองใหญ่ การที่เราจะไปถามทางก็ช่างเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เดินหลงทางบ้าง พักเหนื่อยบ้างเพราะประหยัดค่ารถโดยสาร
Plymouth night life ที่มา https://www.visitplymouth.co.uk/things-to-do/entertainment-and-nightlife/nightclubs-and-bars
เมื่อตกเย็นเราเลือกที่จะไปเดินชม University of Playmouth เพราะเท่าที่อ่าน ที่พักYHA อยู่แถวบริเวณนั้น และจากความหิวในเป้สะพายของเราสะเบียงก็หมด เราก็หาซื้ออาหารและสะเบียงเติมใส่เป้ใช้เวลาเดินทางยามหิว ในที่สุดนั่งพักและกินของมื้อเย็นจนมืด เราก็ยังหาที่พักไม่ได้ ที่สำคัญ รถไฟขบวนที่กลับ Bristol ก็หมดแล้วเช่นกัน เราได้มีการว่างซื้อตั๋วรถโคชด่วน ( national express ) ไว้สำหรับเดินทางเที่ยว ทั้งเมืองต่างๆที่เราแผนไว้แล้ว เพราะการจองตั๋วล่วงหน้าเราจะได้ตั๋วถูกมากๆ ดังนั้นทุกอย่างต้องมาขึ้นรถให้ทันแต่ละที่ อยากเช่นครั้งนี้เราก็จอง ตั๋วรถโคช จาก Plymouth to London ไว้แล้ว เพื่อจะพักกับเพื่อนที่ลอนดอนสักคืนก่อนจะขึ้นเหนือไปเที่ยว Edinburgh และย้อนกลับไปเที่ยว แถว York และ Manchester
แต่การที่เราหลงทางหาที่พักไม่เจอเพราะแผนที่ในมือไม่มี (จากประสบการณ์เที่ยว แบบ back pack ตอนเรียนอยู่ที่เยอรมันนีหลายครั้งมาแล้ว ต้องไปหา Tourist Information ก่อนอื่นเพื่อขอแผนที่หรือ แผ่นพับของเมืองที่แจกฟรีมาไว้อุ่นใจ)
ครั้งนี้ประมาทเกินไป ในที่สุดก็ตัดสินใจไปนั่งร้านกาแฟเพื่อจะรอไปขึ้นรถโคช เที่ยวที่เราจองไว้ ให้ทัน
บริเวณและอาคารของ University of Plymouth ที่มา https://www.stlukes-hospice.org.uk/university-modules/
แต่สิ่งที่เราคิดก็ไม่ได้เป็นดังคิดเพราะร้านกาแฟปิดเวลาราวๆเกือบจะตีหนึ่งได้ (ไม่แน่ใจนานมากแล้ว เที่ยงคืน หรือตีสองไม่เกินนี้แหละ) เหตุการณ์คนไร้บ้านก็เกิดขึ้นเพราะไม่รู้จะไปที่ไหนนอนที่ไหน อากาศต่างประเทศกลางคืนก็ช่างหนาวเย็นเหลือเกิน ลองคิดดูนะเหมือนเราเดินบริเวณตู้ขายนมหรืออาหารที่ต้องแช่เย็นในห้างสรรพสินค้านั้นเอง ฅ.คนเล่าเรื่องเลือกที่จะไปหาที่ปลอดภัยซุกหัวนอนและที่อุ่นอุ่นๆสักที่ จึงฉุกคิดขึ้นได้ไปห้องสมุดมหาลัยเพราะที่เยอรมันนีสามารถไปอ่านหนังสือถึงเช้าได้และคนทั่วไปสามารถเข้าไปได้ถ้ามีบัตรนักเรียนหรือบัตรประชาชน (หนังสือเดินทางก็ได้) แต่ที่อังกฤษต้องเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเท้านั้น โดยใช้บัตรนักศึกษาเข้าแบบ BTS บ้านเราเพื่อเปิดตัวกันที่ล็อคไว้
Human Library event set for Plymouth University  ที่มา https://www.plymouth.ac.uk/news/human-library-event-set-for-plymouth-university
สภาพวะคนไร้บ้านช่างเด่นชัดเหลือเกิน เป็นเหมือนคนเร่ร่อนที่ต้องหาที่นอนข้างทางแล้วสิเรา แต่ด้วยความที่เราคิดนอกกรอบหรือเพื่อเอาชีวิตรอดก็ไม่รู้ ได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศของห้องสมุด (ที่เมืองนอกคือเครื่องทำความอุ่นนะ) เราเอาหนังสือพิมพิ์และเอาเป้แทนหมอนแล้วหยิบผ้าคลุ่มตัวบาติกที่เอามาจากเมืองไทยมาใช้ห่มร่างที่หนาวสั่น มุมเล็กๆช่างเป็นที่ปลอดภัยของเราในเวลานั้นและอบอุ่นได้ในเวลาฉุกเฉินนั้น แล้วเวลา(ที่น่าขำคือเมื่อเราเดินต่อมาอีกสักสองช่วงตึกก็จะพบ YHAที่เราตามหา แต่เพราะการหลงทิศหลงทางยามดึกจึงไปไม่ถึง) การตัดสินใจนอนแบบคนไร้บ้านจึงเป็นทางออกของเราในตอนนั้น
ภาพคนไร้บ้าน หรือ Home less  ที่มา : https://www.bbc.com/news/uk-england-46891392
การเดินทางในวันต่อไปคือการขั้นรถโคช National Express ไปลอนดอน เพื่อไปหาเพื่อนที่เคยเรียนตอนมหาลัย เขาก็มาค้นหาความฝันที่ลอนดอนเหมือนกัน
แผนที่การเดินทางไปหาเพื่อนที่ลอนดอน
เดินทางยังไม่จบโปรดติดตามเรื่องเล่าของฅ.คนเล่าเรื่องต่อไปในตอนต่อไป ฝากกดติดตามและคอมเมนท์ให้กำลังใจหรือแนะนำได้ด้วยครับ
โฆษณา