ทำความรู้จัก บุคคลที่ขาย การ์ดโปเกมอน ได้ในราคา 14 ล้านบาท
รู้หรือไหมว่าการ์ดโปเกมอนที่ประมูลขายได้ที่ราคา 14 ล้านบาท
เจ้าของการ์ดซื้อมาเท่าไร?
วันนี้ ลงทุนแมนได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณกฤช แก้วสุวรรณ หรือ คุณนุ คนไทยที่ได้เปิดประมูลขายการ์ดโปเกมอน “1995 Pokemon Japanese Topsun Charizard, Scarce Blue Back” ในราคาสูงถึง 14 ล้านบาท
รู้หรือไม่ว่า คุณนุ ไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้โปเกมอนเลย
แต่คุณนุ มองเห็นอะไรในการ์ดโปเกมอนใบนี้?
แล้วโลกของการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกประเภทอย่าง “เทรดดิงการ์ด” มีลักษณะอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จากเทรนเนอร์ฟิตเนส ที่มีความหลงใหลกีฬา
คุณนุ หนุ่มชาวไทยอายุ 36 ปี ได้เลือกเดินตามความฝันตัวเอง
ด้วยการไปเรียน และทำงานต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
จากพื้นฐานความชื่นชอบในเรื่องกีฬาอยู่แล้ว ทำให้คุณนุ ได้เริ่มเข้าสู่วงการเทรดดิงการ์ด
เพราะมีโอกาสฟังคำแนะนำจาก Gary Vaynerchuk Influencer คนดังที่พูดถึง
เทรดดิงการ์ด ว่าเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง จึงทำให้เขารู้สึกสนใจ และเริ่มศึกษา
ด้วยคำถามที่ว่า ใครจะไปซื้อกระดาษแผ่นเล็ก ๆ และ คนจะซื้อไปทำอะไร?
พอศึกษาหาข้อมูลไปสักระยะแล้ว ก็ค้นพบว่า ในโลกของ เทรดดิงการ์ด แบ่งออกเป็น สปอร์ตการ์ด และ เกมการ์ด โดยกลุ่มคนที่มีความต้องการการ์ดเหล่านี้อยู่ 2 ประเภท
ประเภทแรก คือ กลุ่มนักสะสมการ์ด ที่มีความชื่นชอบในนักกีฬา หรือ ตัวการ์ตูน
ประเภทที่สอง คือ กลุ่มนักเก็งกำไร ที่เข้ามาซื้อการ์ดเหล่านี้
เพื่อหวังที่จะไปขายที่ราคาสูงขึ้นในอนาคต
คุณนุจัดตัวเองอยู่ในประเภทที่สอง คือ เขาเป็น “นักเก็งกำไร”
โดยช่วงที่ผ่านมาได้ศึกษา และมีโอกาสซื้อและขาย สปอร์ตการ์ดมาหลากหลายประเภท
เริ่มตั้งแต่การซื้อยกกล่อง และนำการ์ดหายากมาแยกขาย
แต่พอผ่านไปสักระยะหนึ่ง เขาก็พบว่าการซื้อขายในลักษณะนี้มีความเสี่ยสูง
เพราะเราจะไม่รู้เลยว่า จะมีโอกาสเจอการ์ดที่จะขายได้ราคาสูงในกล่องนั้นหรือไม่
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณนุ จึงเปลี่ยนสไตล์มาศึกษาว่าการ์ดแต่ละใบจะมีมูลค่าสูงได้
มาจากปัจจัยอะไร?
คุณนุได้เรียนรู้ว่า การ์ดจะมีมูลค่า จาก 2 ปัจจัย
1.ความหายาก และเป็นที่ต้องการของตัวละครในการ์ดเหล่านั้น
2.การเกรดการ์ด หรือ การให้คะแนนการ์ด ซึ่งจะถูกตรวจสอบและให้คะแนนโดยบริษัทที่ได้รับการยอมรับระดับโลก อย่าง บริษัท Beckett หรือ PSA ซึ่งเป็นการให้คะแนนด้านสภาพของการ์ดเป็นหลัก
พอเข้าใจแบบนี้ เลยเริ่มมองหาการ์ดที่จะมีปัจจัยสนับสนุนในการเปลี่ยนแปลงของราคา โดยไม่ปิดกั้นแค่เพียง สปอร์ตการ์ด แต่ยังเริ่มศึกษา การ์ดเกม โดยมองว่าตัวละครไหนในการ์ด ที่มีโอกาสที่จะเป็นที่ต้องการ เช่น นักกีฬาที่กำลังจะเริ่มดัง หรือ ตัวการ์ตูนที่บรรดาคนดังจะสนใจ และเริ่มซื้อการ์ดเหล่านี้มาเก็บไว้
อย่างตัวการ์ดโปเกมอน ที่คุณนุนำไปเปิดประมูลที่เว็บไซต์ goldinauctions.com และจบการประมูลไปกว่า 481,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตกเป็นเงินไทยประมาณ 14 ล้านบาท
คุณนุบอกว่าการ์ดใบนี้ซื้อมาที่ราคาประมาณ 20,000-30,000 บาท ถ้าคิดจากราคาที่ขายได้ คุณนุจะได้ผลตอบแทนจากการ์ดใบนี้ “700 เท่า จากราคาทุน ภายในเวลา 2 ปี”
คุณนุเล่าให้ฟังว่า การ์ดโปเกมอนใบนี้ ซื้อมาเก็บไว้นานแล้ว
โดยตัวการ์ตูนบนการ์ดใบนี้ คือ ตัวการ์ตูนมังกรลิซาร์ดอนที่อยู่ในการ์ตูนโปเกมอนที่โด่งดัง
พอเริ่มเห็นกระแสการ์ตูนโปเกมอนกลับมาโด่งดังอีกครั้ง
คุณนุเลยตัดสินใจส่งการ์ดโปเกมอน ที่มีอยู่ 39 ใบ
ไปทำการตรวจสอบคุณสมบัติ และเกรดการ์ด ที่บริษัท PSA
ซึ่งเป็นบริษัทที่รับประเมินคุณภาพของการ์ดผ่านการให้คะแนน มีคะแนนเต็มที่ 10 คะแนน
ผลปรากฏว่ามีเพียงแค่การ์ดมังกร โปเกมอน ใบเดียวที่ได้คะแนนเต็ม 10 คะแนน
เพราะแม้จะเป็นการ์ดที่มีอายุ 25 ปีแล้ว แต่มีสภาพสมบูรณ์
คุณนุ จึงรู้ทันทีว่าการ์ดใบนี้จะขายได้กำไรอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะขายได้กำไรเท่าไร เลยเลือกที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการ์ดโปเกมอนในโลกออนไลน์ เพื่อให้ทราบช่วงราคา และได้รับคำแนะนำว่าให้นำการ์ดนี้ไปเปิดประมูล จะได้ราคากว่าการประกาศขายเองในโลกออนไลน์
และก็เป็นตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำจริงๆ เพราะหลังจากจบการประมูล สปอร์ตการ์ด “Pokémon Japanese Topsun Charizard, Scarce Blue Back – PSA GEM MT 10 "1 of 1” ใบนี้ได้กลายเป็น การ์ดโปเกมอนที่ราคาสูงที่สุดในโลก อย่างที่ทุกคนได้เห็นกันนั่นเอง
ใครสนใจเรื่องที่คุณนุเล่าแบบเต็มๆ สามารถฟังกันต่อได้ใน ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง Podcast ด้านล่างได้เลย