Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Tactic Mania
•
ติดตาม
11 ก.พ. 2021 เวลา 02:20 • กีฬา
เบอร์เสื้อกับตำแหน่งการเล่น
ถ้าจะถามว่าเสื้อฟุตบอลเบอร์ไหนเป็นที่นิยมมากที่สุด คิดว่าคนส่วนใหญ่มักจะตอบว่า เสื้อเบอร์ 10 นี่แหละ เพราะนักเตะตัวทำเกมที่โดนเด่นมักจะเลือกใส่เบอร์นี้ ตัวอย่างเช่น ลีโอเนล เมสซี, โรแบร์โต บาจโจ, ซีเนดีน ซีดาน, โรนัลดินโญ เป็นต้น ซึ่งรายชื่อเหล่านี้ล้วนเป็นเพลเมเกอร์ที่เป็นความหวังของทีมทั้งนั้น
สำหรับนักเตะที่ทำให้เบอร์ 10 เป็นที่นิยมของพวกเหล่าเพลเมกเกอร์ทั้งหลาย ก็คงไม่พ้น 2 นักเตะในตำนานอย่างเปเล่ และดีเอโก้ มาราโดน่า ที่สวมเสื้อเบอร์ 10 จนเป็นเอกลักษณ์ แล้วสงสัยกันบ้างมั๊ยครับ ว่าทำไมเบอร์ 10 ถึงเป็นเบอร์ของพวกดาวเด่น
แม้ว่าทุกวันนี้ เกมลีกอาชีพจะกำหนดให้ผู้เล่นที่ลงทะเบียนแข่งขัน จะต้องมีเบอร์เสื้อประจำตัว โดยจะใช้หมายเลขนั้นไปทั้งฤดูกาล ถ้าอยากเปลี่ยนเบอร์ต้องรอให้จบซีซั่นก่อน โดยหมายเลขที่ใช้ก็มีตั้งแต่เบอร์ 1 ถึง 99 แต่ถึงกระนั้น เบอร์เสื้อที่เป็นที่นิยมของนักเตะก็มักจะเป็นเบอร์ต้นๆ 1-11 เพราะเป็นหมายเลขที่บ่งบอกถึงความสำคัญในทีม
แต่ถ้าย้อนกลับไปก่อนปี 1993 โดยเฉพาะในการแข่งขันฟุตบอลลีกของอังกฤษ นักเตะแต่ละคนจะไม่มีเบอร์ประจำที่ใช้ทั้งฤดูกาลเหมือนทุกวันนี้ ผู้เล่นคนไหนที่ได้ลงตัวจริงก็จะใส่เสื้อที่มีหมายเลข 1-11 โดยตัวสำรองจะใช้เบอร์เสื้อตั้งแต่ 12 เป็นต้นไป ไม่มีใครเป็นเจ้าของเบอร์เสื้อ
ถ้ามองในเรื่องของ Tactic บรรดาโค้ชทั้งหลายก็จะใช้เบอร์เสื้อเป็นคำเรียกชื่อตำแหน่งอีกด้วย อย่างเช่น เบอร์ 1 สำหรับผู้รักษาประตู ตำแหน่งเบอร์ 9 หมายถึงศูนย์หน้า ตำแหน่งเบอร์ 6 หมายถึงมิดฟิลด์ตัวรับ หรือตำแหน่งเบอร์ 10 หมายถึงหน้าต่ำหรือกองกลางตัวรุก
นอกจากนี้ เราก็มักจะเห็นแบ็คขวาชอบใส่เสื้อเบอร์ 2 แบ็คซ้ายเบอร์ 3 เซนเตอร์แบ็คใส่เบอร์ 5 หรือเบอร์ 11 เป็นเบอร์ที่พวกปีกความเร็วสูงชอบใส่
4
จะเห็นได้ว่าเบอร์เสื้อมีความสัมพันธ์กับตำแหน่งการเล่นอยู่พอสมควร
ย้อนกลับไปดูฟุตบอลในสมัยก่อน ผู้เล่นที่ได้ลงเป็น 11 ตัวจริง จะนิยมใส่เสื้อโดยเรียงหมายเลข 1-11 จากผู้เล่นตัวรับไปที่ผู้เล่นตัวรุก ดังนั้น เบอร์ 1 จึงตกเป็นของผู้รักษาประตูไปโดยปริยาย สอดคล้องกับระบบการเล่นที่นิยมมากในสมัยนั้น คือ ระบบ 2-3-5 หรือที่เรียกกันว่าระบบปีระมิด ซึ่งประกอบไปด้วยกองหลัง 2 คน กองกลาง (สมัยนั้นเรียกว่า Half) 3 คน และกองหน้า 5 คน
ถ้าเรารียงหมายเลขจากน้อยไปมาก นอกจากเบอร์ 1 ที่เป็นของผู้รักษาประตูแล้ว ในระบบ 2-3-5 จะเริ่มที่กองหลังจะใส่เสื้อเบอร์ 2-3 กองกลางจะใส่เสื้อเบอร์ 4-5-6 และกองหน้าทั้ง 5 คน จะใส่เสื้อเบอร์ 7-11 โดยชื่อเรียกตำแหน่งจะเรียงจากตัวรับไปตัวรุก
1. ผู้รักษาประตู
2. ฟูลแบ็ค
3. ฟูลแบ็ค
4. ฮาล์ฟ (ฝั่งขวา)
5. เซนเตอร์ฮาล์ฟ
6. ฮาล์ฟฝั่งซ้าย
7. ปีกขวา
8. กองหน้าตัวใน
9. กองหน้าตัวกลางหรือศูนย์หน้า
10. กองหน้าตัวใน
11. ปีกซ้าย
จากระบบการเล่น 2-3-5 ก็ได้มีการพัฒนาปรับมาเป็นระบบ 3-2-2-3 หรือ WM โดยระบบระบบนี้จะเริ่มจากการปรับกองหลังจาก 2 คน เป็น 3 คน โดยได้ถอยผู้เล่นเบอร์ 5 ที่เรียกว่า “เซนเตอร์ฮาล์ฟ” ลงมาอยู่ระหว่างผู้เล่นเบอร์ 2 และ 3 ที่เป็นฟูลแบ็ค
ดังนั้นเบอร์ 5 จึงมักเป็นเบอร์เสื้อของนักเตะเซนเตอร์แบ็ค ที่บางคนยังนิยมเรียกติดปากว่าเซนเตอร์ฮาล์ฟ โดยจะรับผิดชอบเกมรับตรงกลาง ส่วนเบอร์ 2 กับ 3 ก็จะรับผิดชอบเกมรับด้านข้าง ซึ่งก็คือฟูลแบ็คในปัจจุบันนี่เอง
ขยับไปที่เกมรุกได้มีการถอยผู้เล่นเบอร์ 8 กับเบอร์ 10 ลงมาต่ำกว่าเดิม ในบริเวณโซนกองกลางตัวรุก เพื่อเชื่อมเกมกับตัวรับมากขึ้น
แผนการเล่นที่นิยมต่อมาคือ 4-4-2 เริ่มจากการปรับผู้เล่นกองหลังเป็น 4 คน โดยจะถอยผู้เล่นเบอร์ 4 จากตำแหน่งฮาล์ฟลงมาเป็นกองหลังตัวกลางคู่กับหมายเลข 5 ที่ลงมาก่อนแล้ว เบอร์เสื้อกองหลัง 4 คน ถ้าเรียงจากซ้ายไปขวาก็จะประกอบไปด้วย 3-5-4-2 (ถ้าในทีมชาติอังกฤษจะสลับกัน โดยเบอร์ 6 จะเป็นเบอร์ของพวกเซนเตอร์ ส่วนเบอร์ 4 จะเป็นเบอร์ของมิดฟิลด์ตัวรับ)
ส่วนผู้เล่นกองกลางก็จะดึงผู้เล่นตัวรุกลงมา 3 คน โดยเรียงเบอร์เสื้อจากซ้ายไปขวา 11-6-8-7 โดยเบอร์ 6 จะเป็นเบอร์ที่เรียกผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ส่วนเบอร์ 8 ที่เคยเป็นตัวรุกมาก่อน ก็จะใช้เรียกมิดฟิลด์ที่มีลักษณะ “บ๊อก-ทู-บ๊อก” ในปัจจุบัน
คู่กองหน้านอกจากศูนย์หน้าเบอร์ 9 กับจอมเทคนิคเบอร์ 10 ซึ่งอาจปรับเป็นเล่นกองหน้าตัวต่ำในระบบ 4-4-1-1 หรือ 4-2-3-1 ก็ได้ โดยเบอร์ 10 จะเป็นเบอร์ที่ใช้เรียกแทนผู้เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุกหรือกองหน้าตัวต่ำนั่นเอง
แต่ถ้าเราข้ามไปดูฟุตบอลที่อเมริกาใต้ การใช้เบอร์ก็จะมีจุดแตกต่างกับที่ยุโรป โดยผู้เล่นเบอร์ 10 ก็จะเป็นของพวกกองกลางตัวรุกที่จะทำเกมหลังคู่กองหน้าที่จะสวมเบอร์ 9 และ 11 ส่วนที่บราซิลเบอร์ 6 จะเป็นเบอร์ของวิงแบ็คซ้ายแทนที่จะเป็นเบอร์ 3 ส่วนมิดฟิลด์ตัวรับจะสวมเบอร์ 5 เหตุผลก็เนื่องจากการพัฒนาฟุตบอลในแต่ละภูมิภาคก็จะมีหลักคิดและระบบการเล่นที่แตกต่างกับทางฝั่งยุโรป
แต่ไม่ว่าจะเล่นระบบการเล่นจะปรับเปลี่ยนไปอย่างไร ผู้เล่นที่สวมเสื้อเบอร์ 10 ก็จะเป็นผู้เล่นในตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางในเกมรุกและเป็นดาวเด่นที่สุดของทีมเสมอ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเบอร์เสื้อแต่ละหมายเลขจึงสัมพันธ์กับการเรียกแทนตำแหน่งการเล่นต่างๆ และเป็นที่นิยมในปัจจุบัน โดยเฉพาะวงการฟุตบอลยุโรปจะแทนตำแหน่งด้วยหมายเลขต่างๆ ที่ประกอบไปด้วย
1. ผู้รักษาประตู
2. แบ็คขวา
3. แบ็คซ้าย
4. เซนเตอร์แบ็ค
5. เซ็นเตอร์แบ็ค
6. มิดฟิลด์ตัวรับ
7. ปีกขวา
8. มิดฟิลด์ตัวกลาง
9. ศูนย์หน้า
10. กองกลางตัวรุก/กองหน้าตัวต่ำ
11. ปีกซ้าย
#tacticmania #เบอร์เสื้อ #ตำแหน่งการเล่น
5 บันทึก
6
9
5
6
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย