11 ก.พ. 2021 เวลา 13:11 • ประวัติศาสตร์
การแพร่ระบาดโรคที่แปลกประหลาดครั้งใหญ่ในอดีต
ในปี ค.ศ.1916 ได้เกิดโรคระบาดปริศนาขึ้น เป็นที่รู้จักกันในชื่อ เอ็นเซฟาลอทิส เลทอจิกา (Encephalitis Lethargica) หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือโรคง่วงนอน (Sleepy Sickness)
จู่ๆ โรคนี้ก็ระบาดขึ้น ทำให้มีผู้คนกว่าล้านชีวิตติดเชื้อนี้ ซึ่งผลของโรคนี้ก็คือ มันจะกัดกินระบบประสาทการรับรู้ของผู้ติดเชื้อ มีบางคนที่รอด และหลายคนที่ต้องตายจากโรคนี้ เพราะระบบประสาทของร่างกาย เสียหายอย่างรุนแรง
ความน่าสนใจและน่าขนลุกของโรคนี้ก็คือ มันทำให้คนที่ติดเชื้อ เข้าสู่สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย กลายเป็นเจ้าชาย/เจ้าหญิงนิทรา บางคนก็หลับไปเป็นเดือน เป็นปี หรือหลับไปนานนับศตวรรษ แต่จู่ๆ ในปี 1928 โรคนี้มันก็หายวับเข้ากลีบเมฆไปแบบดื้อๆ ซะอย่างนั้น ไม่มีใครรู้ได้เลยว่ามันหายไปได้อย่างไรกัน?
โชคดีมาก ที่มีการบันทึกวีดีโอของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ป่วยด้วยโรคระบาดหลับลึกนี้ไว้ในปี 1925 ลองไปดูกันได้ตามลิงค์นี้ครับ
โรคประหลาดนี้ ถูกนำมาเขียนเป็นหนังสือ และนำข้อมูลไปดัดแปลงเป็นภาพยนต์เรื่อง Awakenings ชื่อไทยคือ ตื่นเถิดเพื่อนถ้าใจยังมีฝัน นำแสดงโดยโรเบิร์ต เดล นีโร และโรบิน วิลเลียมส์ ซึ่งหนังสือนี้ เขียนโดยนายแพทย์ประสาทวิทยา โอลิเวอร์ แซค ที่เคยไปช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากโรคระบาดในครั้งอดีตนั้น แต่คนที่รอดชีวิต ส่วนใหญ่แล้ว จะกลายเป็นเหมือนกับรูปปั้นที่มีชีวิต มีผู้ป่วยบางคน ติดโรคนี้ แล้วเข้าสู่สภาวะหลับลึก นานกว่า 70 ปี เลยทีเดียว
ดร.โอลิเวอร์ แซค ได้ค้นพบว่าสารเคมี เลโวโดปา มีผลกับอาการของโรคนี้ มันจะทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับยา จะช่วยให้กลับมาสู่สภาวะตื่นตัวในเวลาสั้นๆ แต่สิ่งที่น่าแปลกเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ก็คือ ทำไมโรคระบาดนี้ จู่ๆ ถึงโผล่ขึ้นมา แล้วจู่ๆ มันก็หายไปอย่างไร้ร่อยรอย? ข้อมูลตรงนี้ในปัจจุบันก็ยังไม่มีใครทราบได้
ได้มีการบันทึกสภาวะตอนฝันของผู้ติดเชื้อรายหนึ่ง ที่รอดชีวิตและตื่นขึ้นมาได้ เกี่ยวกับความฝันที่ฟังดูแล้วรู้สึกน่าขนลุก คนไข้รายนี้ใช้นามแฝงว่า R เธอเล่าเกี่ยวกับความฝันของเธอว่า
เธอฝันว่าเธอถูกคุมขังไว้ในปราสาทที่ไม่มีทางหนีออกมาได้ แต่ปราสาทนั้น เป็นสภาพเป็นเหมือนกับร่างกายของเธอเอง แล้วเธอก็ฝันว่าเธอได้กลายเป็นรูปปั้นที่หินขยับไม่ได้ แต่ยังมีความรู้สึกนึกคิดอยู่ มันเหมือนกับในความฝันนั้น ทุกอย่างในโลกนั้นถูกหยุดลงไป
ในความฝัน เธอยังฝันว่าเธอได้หลับลงไป และหลับลึกมาก มากเสียจนไม่มีอะไรสามารถปลุกเธอให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ได้เลย เธอฝันถึงความตาย ที่ไม่ใช่ความตายที่เรารู้จักกันดี(น่าจะเป็นการรับรู้สภาพกึ่งเป็นกึ่งตายของตัวเอง)
ฟังดูแล้วมันก็ค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียว ถ้าหากว่าเราตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ ในฝันร้ายที่เรารู้สึกถูกขังไว้ พยายามหนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้น เพราะเราถูกขังอยู่ในร่างกายของตัวเองที่หลับและไม่ตื่นขึ้นมา
ดร.แซค ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในชีวิตการรักษาโรคนี้ของเขา เหล่าผู้ป่วยหลายคนไม่ตื่นขึ้นมา และหลายๆ คน ถูกครอบครัวทิ้งไว้ให้นอนที่โรงพยาบาล หรือบ้านพักผู้ป่วย แล้วค่อยๆ ล้มตายลงไปในสภาวะนั้นทีละคน ทีละคน
เมื่อ ดร. ได้ใช้สาร เลโวโดปา ทำให้คนไข้ตื่นขึ้นมาชั่วครู่ ส่วนใหญ่พวกเขารู้สึกสภาพของตัวเอง ยอมรับกับชะตากรรมที่สิ้นหวัง และต้องกลับไปนอนต่อเพราะโรคนี้ บางคนก็รู้สึกโกรธ เพราะว่าโรคนี้ ได้พรากทั้งชีวิต และเวลาไปจากพวกเขา พวกผู้ป่วย ต่างหวังว่าสักวัน จะมีปาฏิหารย์ ให้โรคนี้หายไปจากร่างกายของพวกเขาสักที
1
แม้ปัจจุบัน จะมีโรคร้ายระบาดเกิดขึ้นบนโลก แต่เราก็หวังว่าโรคหลับลึกนี้ จะไม่กลับมาระบาดอีกครั้งหนึ่งคงจะดีกว่า
สาเหตุที่ผมหยิบเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง เพราะว่าเรื่องต่อไป จะเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ไม่ได้ติดโรคนี้ แต่เธอคือเจ้าหญิงนิทราตัวจริง ที่นอนหลับไปกว่า 32 ปี แต่พอตื่นมา ร่างกายของเธอกลับปกติ และไม่มีผลกระทบอะไรเลย เป็นไปได้อย่างไรกัน? รอติดตามได้ในเพจนะครับ
.
.
ขอขอบคุณบอสทุกคนที่โดเนทมาให้นะครับ ขอบคุณมากจริงๆ ♥
.
ชอบเรื่องราวแบบนี้กันไหมครับ ถ้าชอบล่ะก็ อย่าลืมสนับสนุนได้ง่ายๆ ด้วยการกด Like กด Share และกดติดตามเพจไว้ด้วย
.
พบกับเรื่องราวลึกลับจากทั่วโลก คดีแปลกๆ ปริศนาชวนขนหัวลุกที่ไม่ได้รับการไข และอื่นๆ อีกมากมายได้ที่เพจ Ordinary Mystery ปริศนาธรรมดาๆ ในโลกที่ไม่ธรรมดา
สามารถสนับสนุนผู้เขียนเป็นค่าข้าวได้ที่
พร้อมเพย์ - True Money
0972217753
เลขบัญชี 328-2-96012-3
ธนาคารทหารไทย TMB
อนิรุทธ์ เสริมสุข Anirut Sermsuk
ขอขอบคุณทุกการสนับสนุน
ถ้าหากข้อมูลผิดพลาดตรงไหน เรียบเรียงไม่ดียังไง มีคำผิดตรงไหน
คอมเมนต์ติชมได้ และจะน้อมรับไปปรับปรุงนะครับ
โฆษณา