11 ก.พ. 2021 เวลา 13:52 • หนังสือ
ทัศนคติเชิงบวก หนทางแห่งชีวิตที่ยั่งยืน
หากอยากมีความสุข และประสบความสำเร็จ ต้องมีทัศนคติเชิงบวกครับ
เพราะการมีทัศนคติเชิงบวก จะทำให้เราผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความทุกข์
และสามารถค้นพบทางสว่างในการดำเนินชีวิต ซึ่งหลักการนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเลิศเลอหรอกครับ
เพียงแค่ใช้หลัก ธรรมมะ ในเชิงพุทธ มาประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะหลักทางสายกลาง
ไม่ยึดติด ไม่สุดโต่งกับสิ่งต่าง ๆ ที่เราเห็น และใช้เพียง 2 เครื่องมือ นั่นคือ หลักคิดบวก และหลักคิดลบ
เพราะการคิดบวก ไม่จำเป็นต้องคิดบวกแบบ 100 % และการคิดลบก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด
แต่เราต้องรู้จักใช้ในเชิงบวก ให้มากกว่าเชิงลบก็เท่านั้น ซึ่งตามโมเดลนี้
ผมแบ่ง การคิดบวก และการคิดลบ เป็น 2 ด้าน ซึ่งผมขอเริ่มจากสิ่งที่เราควรคิดก่อนทำ นั่นคือ
1.การคิดลบ ในเชิงบวก
การคิดลบในข้อนี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ เพราะภายใต้ข้อมูลที่มากมายบนโลกออนไลน์
เราต้องขบคิดให้ดี รู้จักหาข้อมูลนำมาวางแผน ป้องกันความผิดพลาด โดยใช้ประสบการณ์จากอดีต
ที่เคยทำผิดพลาด  นำมาใช้เป็นบทเรียนสอนใจ ไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำสองได้อีก
เพราะโลกนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเหลือเกินครับ อย่ากลัวความผิดพลาด แต่ต้องรู้จักป้องกันความผิดพลาด
จากสิ่งรอบตัว มองให้รอบด้านก่อนลงมือทำ เมื่อวางแผนจนรอบคอบแล้ว จงลงมือทำครับ
เพราะต่อให้วางแผนดีแค่ไหน แต่ขาดการลงมือทำ ก็ย่อมไร้ซึ่งผลลัพธ์ ทว่าหากลงมือทำแล้วติดขัด จงใช้หลักการข้อที่ 2
2.การคิดบวก ในเชิงบวก
การคิดบวก มีไว้เพื่อแก้ไขปัญหา เพราะต่อให้เราวางแผนดีแค่ไหน โอกาสแห่งความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้
เพราะปัญหา มักเกิดจาก 2 ปัจจัยหลัก ๆ นั่นคือ ตัวเราเอง และ สิ่งรอบตัว
หากเกิดจากสิ่งรอบตัว  จงปล่อยวางจากอารมณ์เชิงลบ และตั้งสติเพื่อคิด ทบทวน กับปัญหาที่เกิดขึ้น หาสาเหตุของ
ปัญหาให้เจอ และจงสร้างทางเลือกในการแก้ไขปัญหา จากตัวเราเอง แก้ไขให้ดีที่สุด รู้จักหาทางเลือกในการแก้ไขปัญหา
ไว้หลาย ๆ ทาง อย่าคิดว่าปัญหานั้นแก้ไขไม่ได้ ผมเชื่อว่า เมื่อมีปัญหาย่อมมีทางออก ขอแค่เรามีความเชื่อ มีความคิดที่ดี
ใจสู้เข้าไว้ เพราะการคิดบวก ในเชิงบวก จะทำให้เรามีกำลังใจ และคนที่มีกำลังใจ ย่อมผ่านพ้นปัญหาได้แน่นอนครับ
2 ข้อที่ผมกล่าวถึง คือ หลักคิดในการสร้างทัศนคติเชิงบวก ที่ควรนำมาใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวัน
แต่ ก็ต้องระมัดระวังอีก 2 ข้อที่ผมจะกล่าวถึง นั่นคือ
3.การคิดบวก ในเชิงลบ
เพราะการคิดบวกที่สุดโต่ง หรือมากเกินไป ย่อมทำให้เราประมาท และคิดไม่รอบด้าน จนทำให้เกิดความเสียหาย
หรือการวางแผนที่ผิดพลาด โดยเฉพาะคนที่มั่นใจในความคิดของตนเอง จนขาดการรับฟัง มองโลกในเชิงอุดมคติ
หรือติดอยู่แต่ในความฝันมากจนเกินไป สิ่งเหล่านี้อาจเป็นหลุมพรางให้เราตกลงไป จนทำให้สิ่งที่ตามมาในข้อสุดท้าย
4.การคิดลบ ในเชิงลบ
เพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ย่อมนำมาซึ่งอารมณ์เชิงลบ จนเผลอทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนจากคำพูด และการกระทำของตัว
เราเอง เพราะอารมณ์เชิงลบ เป็นสิ่งที่แก้ไขได้ยาก หากเราไม่ฝึกสร้างสติให้เกิดขึ้นอยู่กับตัวเรา ทั้งการคิด การพูด
และการกระทำ ซึ่งผมแนะนำว่า หากเราแก้ไขอารมณ์เชิงลบไม่ได้ ก็ไม่ควรทำให้เกิดผลกระทบต่อบุคคลรอบข้างจนทำให้
ความสัมพันธ์ต่อคนรอบข้างแย่ลง ซึ่งผมขอฝากไว้ 4 ข้อ ต้องห้าม นั่นคือ
1.อย่าทำให้คนอื่นเสียหาย
2.อย่าทำให้คนอื่นเสียหน้า
3.อย่าทำให้คนอื่นเสียใจ
4.อย่าทำให้คนอื่นเสียความรู้สึก
บนโลกนี้ย่อมมี ขาว และ ดำ มีดี และ แย่ ปะปนกันไปครับ เราคงห้ามความคิดคนอื่นให้คิดเหมือนเราคงยาก
แต่เราสามารถเลือกได้ครับว่า เราควรมีแนวคิดอย่างไรในการดำรงชีวิต เพื่อบั้นปลาย คือ ความสุข
เพราะความสุขจะทำให้ชีวิตเราสดใส มีแสงสว่างนำทางให้เกิดแรงบันดาลใจในการลงมือทำกับเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
แค่เราเลือกใช้หลักทัศนคติเชิงบวก รู้ เข้าใจ เลือกใช้ หลักคิดบวก และคิดลบ ในแนวทางที่ถูกต้อง (เชิงบวก)
ผมเชื่อครับ ชีวิตเราจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอนครับ
เชื่อผมเถอะ ++
ขอบคุณบทความดีๆจากhttps://www.drfish.training/
โฆษณา