"อคติกับความเกลียดชัง" คือจุดเริ่มต้นของความวายป่วงในสังคมมนุษย์โดยแท้
Princess Mononoke (1997)
Princess Mononoke (เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร) หนึ่งในอนิเมะญี่ปุ่นที่ผมรักในจิตวิญญาณของเรื่องราวเข้าอย่างจัง
ผลงานสร้างจาก Studio Ghibli ในปี 1997 ของผู้กำกับ Hayao Miyazaki
เป็นอนิเมะอิงประวัติศาสตร์ ที่มีงานภาพที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ การนำเสนอเรื่องราวแฝงแนวคิด ประกอบกับดนตรีที่เรียกว่าเล่นใหญ่และตราตรึงใจอย่างมาก
Mononoke (โมโนโนเกะ) ไม่ใช่ชื่อ แต่เป็นคำที่ใช้เรียกภูติผีปีศาจ หรือวิญญาณอาฆาตแค้น
ด้วยเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักหน่วง และยากที่จะใช้ความเข้าใจกับมันนิดนึง อีกทั้งยังมีเรื่องราวที่ ซีเรียส จริงจัง ประกอบกับปรัชญาล้ำลึก แบบที่ไม่ค่อยเหมาะสำหรับเด็กดูสักเท่าไหร่
เช่นในเรื่องของปีศาจหมูป่า ที่เป็นตัวแทนของความโกรธเกรี้ยว และความรุนแรงซึ่งสิ่งนี้ก็ล้วนเป็นธรรมชาติส่วนหนึ่งของมนุษย์ ที่ยากจะกำจัดทิ้งหรือแม้แต่ปิดบังไว้ได้
ดังนั้นประเด็นสำคัญคือ เมื่อเรากำจัดสัญชาตญาณเหล่านี้ไม่ได้ เราควรจะควบคุมหรือจัดการกับมันอย่างไร
เรื่องราวของ ซัน หญิงสาวที่ถูกพ่อแม่ยกให้เป็นเครื่องสังเวยตอนที่ถูก 'เทพเจ้าหมาป่าโมโระ' บุกเข้าโจมตี
โมโระเลี้ยงซันเหมือนลูก เธอจึงเติบโตมาในความคิดที่ว่าตนเป็นพวกของหมาป่าและชิงชังเหล่ามนุษย์ที่ทำลายป่า
คนกับต้นไม้ ถ้าธรรมชาติของโลกอันกว้างใหญ่นี้หมายถึงแค่สิ่งมีชีวิตสองชนิดนั้น การอยู่ร่วมกันอย่างสงบคงเกิดขึ้นไม่ยากนัก แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่ เมื่อโลกยังประกอบด้วยสิงสาราสัตว์ เผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดอีกน้อยใหญ่ ไปจนถึงพระเจ้าและเทพารักษ์ทั้งหลาย
คำถามคือ ทุกสิ่งจะต่อสู้หรือแบ่งปันกันอย่างไรให้ดำรงอยู่ร่วมกันได้บนผลประโยชน์อันลงตัวอย่างแท้จริง
คำถามยากๆนี้เอง คือหัวใจของอนิเมชั่นเรื่องนี้
อาชิทากะ และ ซัน
หากจะเทียบเรื่องราวในอะนิเมะกับโลกทุกวันนี้ ก็คงเหมือนกับมนุษย์ที่ใส่ใจแต่อำนาจและความมั่งคั่งลงไป แต่ทุกครั้งที่ความเจริญเกิดขึ้น ย่อมมีแต่จะทำลายสิ่งแวดล้อมให้เสียหายลงไปทุกครั้งด้วย
และตอนนี้ เราเองก็กำลังเผชิญกับความโกรธแค้นของธรรมชาตินั้นอยู่เช่นกัน
ธรรมชาติกำลังเปิดฉากทำสงครามตอบโต้มนุษย์ เช่นเดียวกับเทพและสัตว์ป่าทั้งหลายตอบโต้ชาวโลหะนครในเรื่อง แต่ในโลกจริงเราจะเจรจากับธรรมชาติสำเร็จหรือไม่ คงไม่มีใครให้คำตอบได้
ซัน และ ท่านหญิง อิโบชิ
ความต้องการของมนุษย์ไม่เคยพอ ไม่เคยถูกเติมเต็ม เรื่องราวในอะนิเมะแสดงให้เห็นว่า นอกจากมนุษย์จะรุกรานธรรมชาติแล้ว ยังรุกรานกันเองอีกด้วย
ไม่พอ ยังคิดจะทำลายเทพเพื่อความเป็นอมตะของตนเอง ไม่มีใครบอกได้เช่นกันว่า เมื่อใดมนุษย์จะหยุดความทะยานอยาก
แต่บางครั้งเราก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าสิ่งที่มนุษย์ทำนั้น มันมีความจำเป็นในระดับหนึ่ง
ในตอนท้ายของเรื่องไม่ได้มีบทสรุปว่าต่อจากนั้นอนาคตของทุกคนจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ภาพยนตร์ได้บอกไว้ก็คือทุกคนในเรื่องก็ต้องทำหน้าที่ของตนต่อไป แม้ว่าความคิดจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม แต่อย่างน้อยที่สุดแต่ละฝ่าย ต่างก็ลดทิฐิลงและคำนึงถึงสิ่งอื่นนอกจากเป้าหมายของตนเองเพียงอย่างเดียว
สิ่งนี้เองที่จะเป็นจุดเริ่มของการสร้างสันติภาพต่อพวกเขาทั้งภายนอกและภายในจิตใจของพวกเขาเอง
นี่ไม่ใช่อะนิเมะเพื่อความบันเทิงอย่างเดียว แต่ทั้งนี้จะแทรกแนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติและปรัชญาเข้าไว้ด้วยเสมอ หลายเรื่องเน้นเนื้อเรื่องของการมองโลกในแง่ดี มีการดำเนินเรื่องที่สงบเงียบ พร้อมๆกับภาพที่งดงาม แต่เรื่องนี้กลับแปลกออกไป มีภาพการต่อสู้ที่ดูรุนแรง การดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างฉับไว และฉากที่วาดด้วยมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Ghibli ก็ยังคงมีอยู่อย่างครบถ้วน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.patsonic.com/animation/princess-mononoke/
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
