12 ก.พ. 2021 เวลา 06:16 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ทำไมผมถึงดูกราฟ
สำหรับผมกราฟไม่ได้บอกอนาคต กราฟเปรียบเหมือนแผนที่ที่ใช้วางกลยุทธ์ ที่บอกถึงลักษณะของสมรภูมิในสนามรบ
แผนที่มันไม่ได้บอกว่า ถ้าเราเข้าตีตรงนี้เราจะชนะศึก ไม่ได้บอกว่าถ้าเราหนีทางนี้แล้วเราจะรอด
มันเป็นเพียงเครื่องมือที่เราใช้ในการวางแผนว่า สภาพสมรภูมิตอนนี้มันเป็นยังไง แล้วเราวางแผนจะทำอะไร ที่ตรงจุดไหนเท่านั้นเอง
ผมใช้ Patterns ในการวางแผนไม่ใช่เพราะผมคิดว่า ต่อจากนี้มันต้องเป็นแบบนี้
ไม่ได้เชื่อว่าเกิด Bullish pennant แล้วมันจะต้องขึ้นแน่
ไม่ได้เชื่อว่าเกิด Island reversal แล้วมันจะต้องกลับตัวทุกครั้ง
ไม่ได้เชื่อว่าเกิด Bearish engulfing แล้วมันจะต้องลงแล้ว
Patterns แค่ทำให้ผมวางแผนได้ว่า ตรงจุดไหน ผมจะ Action อะไร ตรงจุดไหน ผมจะไม่ Action
ผมไม่ศรัทธาใน Fibonacci retracement เพราะผมไม่อาจจะรับรู้ถึงความสวยงามของสัดส่วน 23.6%, 38.2%, 61.8%, and 78.6% ได้
ผมไม่เชื่อใน Elliott wave เพราะผมไม่เข้าใจว่าทำไมมันต้อง 1 2 3 4 5 a b c ด้วย
แต่สิ่งที่ผมไม่เชื่อ มันก็ไม่ได้แปลว่า คนอื่นจะต้องไม่เชื่อ หรือ ไม่ได้แปลว่ามันจะใช้ไม่ได้
ถ้าคุณเชื่อในพระเจ้า พระเจ้าก็จะมีอยู่จริง แต่ถ้าคุณไม่เชื่อในพระเจ้า พระเจ้าก็จะไม่มีจริงในชีวิตของคุณเช่นกัน
เหมือนกับหลักการลงทุน คุณต้องเริ่มที่ความเชื่อว่าสิ่งที่คุณจะศึกษา สิ่งที่คุณจะทำ มันจะเวิร์คก่อน ศึกษากับสิ่งที่มันถูกกับจริตของคุณ ให้ความเชื่อของคุณเป็นพลังในการสนับสนุนเหมือนการวิ่งตามกระแสลม ให้ลมช่วยส่งให้คุณไปถึงจุดหมาย
เพราะถ้าคุณไม่เชื่อ ยิ่งศึกษามากขึ้น ๆ ความไม่เชื่อนั้นจะเป็นตัวฉุดรั้งการพัฒนา เปรียบเหมือนการวิ่งต้านลม ยิ่งทำให้เสียทั้งเวลาและพลังงานในการศึกษาและการลงมือทำไปเปล่า ๆ
ไม่มีสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับคนทุกคน เพราะคนทุกคนนั้นต่างกัน มีพื้นฐานต่างกัน เติบโตมาต่างกัน เชื่อและศรัทธาในสิ่งที่ต่างกัน
การเถียงกันว่า ความเชื่อของใครถูก ความเชื่อของใครผิด เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดประโยชน์ เสียทั้งเวลาและพลังงานในการใช้ชีวิต ซึ่งมีให้เห็นในทุกวงการ ทั้งเรื่องการเมือง ศาสนา หรือแนวทางการลงทุน
มันจะดีกว่า ถ้าเรามาแชร์กันถึงสิ่งที่เรารู้ เหตุผลที่เราทำ บางอย่างเราอาจจะไม่ get idea ก็ช่างมัน มันก็อาจจะไม่เหมาะกับเรา บางอย่างบางเหตุผลที่เราได้รับฟัง ก็อาจจะทำให้เราเข้าใจคนที่เค้าคิดไม่เหมือนเราได้มากขึ้น เก็บแต่สิ่งที่เหมาะกับเรา ให้เราสามารถนำไปต่อยอดได้
เพียงเท่านี้ การพูดคุยและแชร์ความคิดกัน มันก็เกิดเป็นประโยชน์ส่งต่อไปได้ เกิดเป็นความรู้ความเข้าใจในการนำไปต่อยอดพัฒนาแล้วครับ
โฆษณา