16 ก.พ. 2021 เวลา 13:45 • ประวัติศาสตร์
#รู้ไหมว่า….The Avengers มีจริง ในประวัติศาสตร์
เวนเจอร์ส ชาวยิวผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด นั้นเกิดขึ้นจริงในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ที่มาของพวกเขาจะเป็นเช่นไรนั้นอ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
กลุ่มที่เกิดจากความแค้น
TEL AVIV, Israel (AP) - เจ็ดสิบปีหลังจากความพยายามที่สุดแสนจะกล้าหาญของผู้รอดชีวิต จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ได้ร่วมกับทหารผ่านศึกของกองพลยิวใน ปาเลสไตน์ ของอังกฤษเพื่อจัดตั้งองค์กรใหม่ชื่อ Nakam หรือที่รู้กกันในชื่อ The Avengers ชาวยิว
ซึ่งเป็นกลุ่มมือสังหารที่มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือ ฆ่าอาชญากรสงครามของนาซี โดยมีจุดประสงค์เพื่อล้างแค้นให้กับความหายนะที่พวกเขาเคยได้รับมา (Dam Yehudi Nakam - "Jewish Blood Will Be Avenged" ตัวย่อ DIN แปลว่า "การพิพากษาเพื่อล้างแค้น")
Joseph Harmatz ผู้เป็นหนึ่งในสมาชิก "Avengers" ของชาวยิวที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คน หลังเหตุการวางยาพิษครั้งใหญ่ ในกลุ่มผู้คุม ss ค่ายเชลยศึก อเมริกัน เมื่อปี 1946 ที่ทำให้ชาวเยอรมัน ป่วยหนักมากกว่า 2,200 คน
ภัยร้าย
ซึ่ง Harmatz อ้างว่าประธานาธิบดี Chaim Weizmann ของอิสราเอล ได้อนุมัติแผนการดังกล่าวในภายหลัง ซึ่งยาพิษนั้นถูกใช้กับขนมปัง 3,000 ก้อน นอกจากนี้ยังมีการเตรียมการครั้งใหญ่ไว้เพื่อ
วางยาพิษลงในแหล่งน้ำของ มิวนิกเบอร์ลินไวมาร์ , นูเรมเบิร์ก และฮัมบูร์ก ด้วยเหตุที่ กลุ่ม Nakam (Avengers ชาวยิว) ตั้งใจจะฆ่าชาวเยอรมัน 6 ล้านคน ซึ่งมากพอ ๆ กับจำนวนชาวยิวที่ถูกสังหารไปในสงคราม
ถึงกระนั้น Harmatz ในวัย 91 ปี ก็ได้กล่าวว่า “ในตอนนั้น เราและทีมไม่ต้องการกลับบ้านมือเปล่า โดยไม่ได้ทำอะไรบางอย่าง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรากระตือรือร้นที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จ” Harmatz กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ใน อพาร์ตเมนต์ของเขา ทางตอนเหนือของ เทลอาวีฟ
ผู้บอกเล่า
แผนปฏิบัติการแรกที่ Harmatz อธิบายไว้ถูก ริเริ่มโดยนักต่อต้าน Abba Kovner กวีชาวอิสราเอล ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งและผู้ริเริ่มกลุ่ม Nakam (Avengers ชาวยิว) ขึ้นมา
แต่ทว่า เรื่องราวในการทำตามแผนนี้ก็ดูจะซับซ้อนมาก กว่าที่เป็น แม้กระทั่งในกลุ่ม Average ด้วยกันเองยังกล่าวถึงปฏิบัติการนี้ว่า “มืออาชีพอย่างพวกเราเองยังเสี่ยงมากที่จะทำแผนนี้สำเร็จได้”
เพราะหลังจากที่ Kovner เดินทางไปยุโรป พร้อมกับยาพิษ เขาก็ถูกจับและถูกค้นตัวจากสายตรวจของอังกฤษเสียก่อน แม้ว่าเขาจะถูกบังคับให้โยนขวดยาพิษนั้นลงน้ำไป แต่นั้นก็ถือเป็นหนึ่งในแผนการ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทราบว่าขวดยานั้นแท้จริงแล้วมียาพิษผมอยู่ภายใน
พิษที่ลงน้ำไป
แต่ก็เพราะแบบนี้ ภารกิจจึงต้องเปลี่ยนไปสู่แผน B ซึ่งเป็นการดำเนินการ ที่มุ่งเป้าไปที่ผู้กระทำความผิดที่เลวร้ายที่สุดของนาซีก่อน โดยสมาชิกสายลับของกลุ่ม Avengers ได้นัดพบกันในร้านเบเกอรี่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากค่าย Stalag 13 POW ใน Langwasser ใกล้กับ Nuremberg เพื่อรอโอกาสที่จะโจมตี กลุ่มทหารอเมริกันนับพันที่นั่น
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 เมษายน 1946 ด้วยการใช้ยาพิษที่จัดหามาจากเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของ Kovner หลังจากนั้น สมาชิกสามคนก็ใช้เวลาสองชั่วโมงในการเคลือบขนมปัง 3,000 ก้อนด้วยสารหนูและยังแบ่งออกเป็นสี่ส่วนเพื่อให้พิษคลุมไปทั่วชิ้นขนมปัง
เป้าหมายคือสังหารบุคลากร SS 12,000 คน ส่วน Harmatz ทำหน้าที่เฝ้าระวัง และดูแลปฏิบัติการนี้ จากภายนอกร้านเบเกอรี่
สู่แผนที่สอง
ในขณะที่การนับจำนวนการเสียชีวิตของแผนแรกนั้นล้มเหลว แต่ทว่าภารกิจในแผนการที่สองนั้น ดูจะง่ายและเป็นไปได้ด้วยดีกว่ามาก Dina Porat หัวหน้านักประวัติศาสตร์ของอนุสรณ์สถาน Yad Vashem แก่งอิสราเอล กล่าวว่า “ฉันได้เขียนชีวประวัติของ Kovner และกำลังจะตีพิมพ์หนังสืออีกเล่มเกี่ยวกับ Avengers
ด้วยเหตุที่โศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุด กำลังจะถูกลืม และถ้าไม่มีการลงโทษสำหรับอาชญากรรมนี้เลย เพราะเราอาจต้องพบเจอเรื่องราวคล้ายกันนี้อีกครั้ง” เธออธิบาย “อีกทั้ง นี่ยังเป็นสิ่งที่ผลักดันพวกเขา ไม่เพียง แต่เพื่อความยุติธรรม แต่เป็นคำเตือน ให้โลกรู้ว่าคุณไม่สามารถทำร้ายชาวยิวในลักษณะเช่นนี้และหนีไปได้
แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้ว ภารกิจ B จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่การกระทำของ Avengers นั้นก็เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ของ อิสราเอล ที่ต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในภูมิภาคที่ไม่เป็นมิตร”
ผู้บอกเล่าคนที่สอง
ภายใต้กฎระเบียบของเยอรมัน เจ้าหน้าที่ใน นูเรมเบิร์ก ได้ทำการสอบสวน Harmatz และ Leipke Distal ที่ทำงานในร้านเบเกอรี่ เป็นเวลาหลายเดือน หลังจากที่พวกเขาปรากฏตัวในสารคดีทางโทรทัศน์ ปี 1999 และเปิดเผยรายละเอียดของการดำเนินการทั้งหมดนี้ให้กับทั่วโลกได้ทราบ
แม้อัยการ จะไม่สบายใจที่จะต้องสอบสวนผู้รอดชีวิตจากความหายนะที่พยายามฆ่านาซี แต่ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า “จริงอยู่ที่พวกเขาพยามฆ่า แต่ก็คงไม่อาจแจ้งข้อหาใดได้เนื่องจาก "สถานการณ์พิเศษ" ว่าด้วยเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ และเพื่อการป้องการซึ่งเชื้อสาย”
จากหน่วยข่าวกรองของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งได้เข้าตรวจสอบเหตุการณ์ในปี 1946 และอัยการของ นูเรมเบิร์ก ก็ได้่ตรวจพบปริมาณของสารหนูที่ใช้ ว่าเป็นปริมาณที่ไม่น่าจะเพียงพอที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากได้ ด้วยเหตุนี้ AP ที่ได้รับไฟล์ ดังกล่าวผ่านการร้องขอ Freedom of Information Act ไปยังหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
ข้อมูลที่ถูกส่งต่อ
ในบันทึกหนึ่งจากปี 1947 ที่ประทับตราว่า "เป็นความลับ" โดยภายในเอกสาร นักวิจัยเขียนไว้ว่า ที่ร้านเบเกอรี่พวกเขาพบ "ขวดน้ำร้อนที่วางเปล่าสามขวด และถุงผ้าที่มีขวดน้ำร้อนเต็มสี่ใบ" การวิเคราะห์เนื้อหา "พบว่ามีสารหนูผสมกับกาวและน้ำเพียงพอที่จะฆ่าคนได้ประมาณ 60,000 คน"
รายงานที่เป็นความลับอีกฉบับหนึ่งกล่าวว่านักเคมีที่ถูกเรียกให้มาช่วยในการสอบสวนระบุว่า“ มีสารหนูบริสุทธิ์ 10 กิโลกรัมผสมกับน้ำและกาวเพื่อจุดประสงค์ในการยึดครองพื้นที่”
นักวิจัยในห้องปฏิบัติการพบสารหนูที่ด้านล่าง ด้านบนและด้านข้างของขนมปัง และรายงานว่า แพทย์ในค่าย ss แสดงอาการ“ คล้ายกับอหิวาตกโรค รวมถึงมีอาการอาเจียน ท้องเสียและผื่นขึ้นที่ผิวหนังด้วย” รายงานระบุว่าปริมาณสารหนูส่วนใหญ่ที่พบในก้อนขนมปังมีปริมาณอยู่ที่ 0.2 กรัมซึ่งอยู่ในปริมาณที่อาจถึงตายได้'
หลังจากการวิเคราะห์
แม้จนถึงทุกวันนี้ จะยังคงเป็นปริศนาว่าทำไมยาพิษถึงฆ่านาซีไม่ได้ แต่ทฤษฎี หนึ่งที่ถูกแพร่หลายออกไปมากที่สุดคือ ผู้วางแผนเร่งรีบที่จะกระจายพิษออกไปเบาบางมากเกินไป ส่วนอีกประการหนึ่งคือ นักโทษของนาซีรู้สึกตัวได้ทันทีว่า มีอะไรบางอย่างออกมาจากขนมปังดังนั้นจึงไม่มีใครกินเข้าไปมากพอที่จะนำมาซึ่งความตาย
หลังจากทำแผนการนั้นเสร็จ Harmatz, Distal พร้อมด้วยคนอื่น ๆ ในทีม ก็หนีไปยังพรมแดนของ เชโกสโลวะเกีย อย่างรวดเร็ว ซึ่งที่นั้น พวกเขาได้พบกับ Yehuda Maimon ผู้รอดชีวิตจากค่าย เอาชวิทซ์ของ โปแลนด์ ที่สูญเสียพ่อแม่ของเขาไปในค่าย อีกทั้งเขายังตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับ Nakam ด้วย
ไม่นานหลังจากหนีรอดจากช่วงเวลาแห่งความตายมาได้ เขาก็รับผิดชอบในการลักลอบนำกลุ่มออกไปอย่างปลอดภัย พร้อมกับติดสินบนเจ้าหน้าที่ที่ชายแดน จากนั้นพวกเขาลักรอบเดินทางเข้าไปใน อิตาลี ก่อนที่จะอพยพไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเอง
Jewish partisans in Vilnius after the liberation; Kovner standing, center. (The Avengers)
จากบ้านพักคนชรานอกเมือง เทลอาวีฟ ที่ซึ่งหลานของเขา มาเยี่ยมเขาบ่อย ๆ Maimon วัย 92 ปี ผู้มีชื่อเล่นว่า โพลเดค จ้องมองด้วยดวงตาสีฟ้า ที่แหลมคมเขามองย้อนกลับไปด้วยความพึงพอใจที่ได้ปฏิบัติตาม "หน้าที่" เพื่อแก้แค้น ก่อนจะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในอิสราเอล นี้ได้อีกครั้ง
“ผมภูมิใจในสิ่งที่ผมทำ และผมก็ภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม Avengers ชาวยิวนี้มาก ๆ ด้วย” เขากล่าว “สวรรค์คงโกรธ ถ้าหลังสงครามเราไม่ยอมทำอะไรกับเหตุการณ์ที่เราได้พบเจอ กับคนที่เป็นผู้ดังเช่นสัตว์ร้ายที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังนั้น”
การแก้แค้นในทุกวันนี้นั้นมีหลายวิธี ฉะนั้นจงเลือกให้ดีหากคิดที่จะแก้แค้นใคร เพราะสิ่งนี้ทำให้เกิดได้ทั้งฮีโร่และผู้ร้ายได้ในเวลาเดียวกัน
“หนึ่งในวิธีแก้แค้นที่ดีที่สุดอาจคือ เพิกเฉย ละเลย และไม่ใส่ใจ”
2
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา