สำหรับสหรัฐอเมริกามีการผลักดันให้วงการวิทยาศาสตร์และการแพทย์เข้าสู่ยุคของการแพทย์แบบแม่นยำ (Precision Medicine Era) สืบเนื่องมาจากปัจจุบันวงการวิทยาศาสตร์สามารถเข้าใจรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ได้จากความร่วมมือในโครงการถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ (The Human Genome Project) ประกอบกับการมีเทคโนโลยีในการทำวิจัยที่ก้าวหน้า สหรัฐอเมริกาได้แบ่งเป้าหมายของโครงการการแพทย์แบบแม่นยำไว้ 2 ระยะ คือระยะสั้นและระยะยาว
ปัจจุบันในประเทศไทยก็กำลังผลักดันวงการวิทยาศาสตร์และการแพทย์เข้าสู่ยุคของการแพทย์แบบแม่นยำเช่นกัน จะเห็นได้จากเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (Research University Network: RUN) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เกิดจากการรวมตัวของ 7 มหาวิทยาลัยในประเทศไทยได้แก่ มหาวิทยาลัยขอนแก่นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[3] โดยโครงการ Precision Medicine For Cancer เป็นโครงการที่อยู่ในคลัสเตอร์สุขภาพ (Health Cluster) และได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)ภายใต้โครงการวิจัยท้าทายไทย (Thailand Grand Challenge) ในปีงบประมาณ 2559[4] จากการประชุมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 โดยมีหน่วยงานเข้าร่วมจากดังต่อไปนี้ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงถือว่าเป็นการเริ่มต้นของการแพทย์แบบแม่นยำในประเทศไทยที่มีความชัดเจนโดยเฉพาะในเรื่องของโรคมะเร็ง[5]
การรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลกยึดแนวทางการรักษาจาก The National Comprehensive Cancer Network (NCCN) ซึ่งเป็นแนวทางการรักษาที่ถูกศึกษาและพัฒนามาจากการรักษาผู้ป่วยมะเร็งบางกลุ่มซึ่งมักเป็นกลุ่มคนผิวขาว ด้วยความแตกต่างของพันธุกรรมในกลุ่มคนนำมาสู่ความแตกต่างของการตอบสนองต่อยาเพราะเหตุนี้การใช้แนวทางการรักษาที่ถูกพัฒนาขึ้นจากกลุ่มคนผิวขาวอาจไม่เหมาะกับคนไทยเสมอไป การแพทย์แบบแม่นยำจะเป็นสิ่งที่มาแก้ไขปัญหานี้เพราะการศึกษาในคนไทยจะทำให้ผลการศึกษามีความเฉพาะกับคนไทยมากกว่า แต่ทั้งนี้การศึกษาการแพทย์แบบแม่นยำต้องมีการศึกษาในระดับห้องปฏิบัติการก่อนจะนำผลจากห้องปฏิบัติการมาปรับใช้กับผู้ป่วยหรือ “From Bench To Bedside” โดยเลือกแบบแผนการให้ยาทั้งชนิด ความแรง และวิธีบริหารยา ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย[6]
การนำผลจากงานวิจัยไปใช้รักษาผู้ป่วยจริงๆ หรือ From Bench to Bedside(ref: https://ocr.od.nih.gov/btb/btb_program.html)
อ้างอิง
1. Remarks by the President on Precision Medicine | The White House [Internet]. Washington, DC: The White House; 2015 Jan 30 [cited 2016 Jan 9]. Available from: https://www.whitehouse.gov/ the-press-office/2015/01/30/remarks-presidentprecision-medicine. 13. Sarkar IN. Biomedical
2. Collins FS, Varmus H. A new initiative on precision medicine. New England Journal of Medicine. 2015;372(9):793-5.