12 ก.พ. 2021 เวลา 17:04 • ประวัติศาสตร์
รู้หรือไม่ ก่อนที่จะมีเทศกาลวันวาเลนไทน์
ที่กรุงโรม เคยมีประเพณีที่ชื่อว่า “Lupercalia” ในช่วงเวลาเดียวกันมาก่อน
Lupercalia เป็นเทศกาลนอกรีตโบราณที่จัดขึ้นทุกปีในกรุงโรมในช่วงระหว่างวันที่ 13 ไปจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์แม้ว่าวันวาเลนไทน์จะมีที่มาจากนักบุญคริสเตียนผู้เสียสละ แต่นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่าวันวาเลนไทน์นี้มีเพื่อมาทดแทนเทศกาลที่ป่าเถื่อนอย่าง Lupercalia
1
อย่างไรก็ตามไม่เหมือนกับวันวาเลนไทน์ Lupercalia เป็นการเฉลิมฉลองที่นองเลือดรุนแรงและต้อง แลกมาด้วยเรื่องทางเพศ พิธี Lupercalia มีการบูชายัญด้วยการฆ่าสัตว์ การจับคู่แบบสุ่มและการมีเพศสัมพันธ์ ด้วยความเชื่อที่ว่าจะขับไล่วิญญาณชั่วร้ายให้ออกไป และกำจัดภาวะมีบุตรยาก
ตามพิธีที่มีการบันทึกนั้น Lupercalia เป็นเทศกาลโรมันโบราณที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ภายใต้การดูแลของกลุ่มนักบวชชื่อ Luperci ต้นกำเนิดของเทศกาลยังคงมีความคลุมเครือ แม้ว่าจะมีที่มาของชื่อที่มาจาก”Lupercal” หมาป่าในตำนาน แต่ยังมีความย้อนแย้งกันอยู่ ในความสัมพันธ์กับเทพโบราณที่ปกป้องฝูงสัตว์จากหมาป่า และกับหมาป่าในตำนานที่เลี้ยงดู Romulus และ Remus เทศกาลนี้ยังเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าเฟานุส(Faunus)ด้วย
ประเพณี Lupercalia นั้นถูกเชื่อว่าทำเพื่อยกย่องแก่เทพ Lupercus ซึ่งเป็นเทพแห่งคนเลี้ยงแกะ พิธีกรรมนี้จะจัดในถ้ำ Lupercal ที่เนินเขา Palatine Hill ที่ๆซึ่งถูกเชื่อว่าเป็นสถานที่ ที่หมาป่าได้เลี้ยงเด็กทั้ง 2 คนไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสถานที่ในตำนานรากฐานของกรุงโรม ใกล้ๆถ้ำจะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของ Rumina เทพีแห่งการเลี้ยงลูกด้วยนม และต้นมะเดื่อป่า แหล่งที่มาของโรมันบางแห่งตั้งชื่อต้นมะเดื่อป่าตามตัวอักษรว่า "มะเดื่อแพะ"(goat fig) เช่นเดียวกับมะเดื่อที่ได้รับการเพาะปลูกจะออกผล และต้นมะเดื่อนั้นกิ่งก้านที่แผ่ออกมา ถ้าถูกตัดจะกลายเป็นน้ำนม ซึ่งเป็นความเชื่อของลัทธิการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั่นเอง
4
Lupercalia เริ่มต้นด้วยการบูชายัญโดยนักบวช Luperci 2 คนจะทำการเชือดแพะและสุนัขหลังจากนั้น Luperci จะนำสัตว์ทั้ง2 ตัวไปที่แท่นบูชา หน้าผากของพวกเขาจะถูกแตะด้วยมีดที่เปื้อนเลือดจากการเชือดสัตว์ และเลือดก็ถูกเช็ดออกด้วยขนสัตว์ที่จุ่มลงในนม พิธีกรรมจะบังคับให้ชายหนุ่มทั้งสองต้องหัวเราะออกมา งานเลี้ยงบูชายัญตามมาหลังจากนั้น นักบวช Luperci ก็ตัดสายหนังออกจากหนังของสัตว์ที่ถูกบูชายัญแล้ววิ่งเป็นสองแถบรอบๆเนินเขา Palatine โดยจะฟาดสายหนังกับผู้หญิงทุกคนที่อยู่ใกล้พวกเขาระหว่างที่วิ่งอยู่ การถูกตีด้วยสายหนังนี้เชื่อกันว่า จะทำให้ผู้หญิงที่อุดมสมบูรณ์ ในช่วง Lupercalia ผู้ชายจะทำการสุ่มเลือกชื่อผู้หญิงจากขวดโหลเพื่อไปเป็นคู่รักของพวกเขาในช่วงเทศกาล บ่อยครั้งที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนถึงเทศกาลของปีถัดไป หลายคนตกหลุมรักและแต่งงานกันก็มี
5
ในปี 494 คริสตจักรคริสเตียนภายใต้สมเด็จพระสันตะปาปาเจลาซิอุส(Gelasius)ที่ 1 ก็ได้เป็นคนประกาศยกเลิกพิธีกรรม Lupercalia ไป จนถึงทุกวันนี้นักประวัติศาสตร์ยังคงถกเถียงกันถึงความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่าง Lupercalia และวันวาเลนไทน์ แต่ถึงแม้ Lupercalia จะไม่ได้ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับวันวาเลนไทน์โดยตรง แต่ก็มีบริบทที่น่าสนใจบางอย่าง! เมื่อคุณคิดถึงสิ่งที่ชาวโรมันโบราณกำลังทำในช่วงเวลานี้เมื่อหลายพันปีก่อน คุณจะได้รับมุมมองใหม่ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้
1
ส่วนใครอ่านแล้วอยากรู้จัก หมาป่า Lupercal แอดมีคอนเท้นท์แถมให้ตามนี้!!!
2
ซึ่งที่มานี้ ตามตำนานได้เล่าไว้ว่ามาจาก หมาป่า Lupercal ที่ตามตำนานของโรมันที่เล่าว่า เป็นหมาป่าที่เลี้ยงเด็กฝาแฝดที่ชื่อ Romulus และ Remus ซึ่งเด็กฝาแฝดนี้กำเนิดที่ Alba Longa ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองละตินโบราณใกล้กับที่ตั้งของกรุงโรมในเวลาต่อมา แม่ของพวกเขาชื่อว่า Rhea Silvia เป็นสาวพรหมจารีและเป็นลูกสาวของอดีตกษัตริย์ Numitor ซึ่งได้ถูก Amulius พี่ชายของเขาชิงบัลลังค์และสั่งเนรเทศให้ออกนอกเมือง และได้สั่งให้ Rhea Silvia ให้เป็น Vestal Virgin ซึ่งเป็นนักบวชแห่งเวสตาซึ่งจะต้องถือครองพรหมจรรย์
1
ซึ่ง Rhea Silvia โดนเทพเจ้ามาร์ส ล่อลวงและจับข่มขืน จนมีลูกฝาแฝด ซึ่งก็คือ Romulus และ Remus นั่นแล่ะครับ ซึ่งพอ Amulius ได้รู้ข่าวว่านางมีบุตร จึงได้สั่งลงโทษนางโดยการจำคุก และสั่งให้นำเด็ก 2 คนนี้โยนทิ้งแม่น้ำ Tiber ตามตำนานเล่าว่า หญิงรับใช้ได้เกิดสงสารเด็ก จึงไม่ได้โยนลงไป แต่เลือกที่จะวางลงบนตะกร้าและปล่อยลงแม่น้ำ(สงสารแบบไหนวะ?) และเทพเจ้าแห่งสายน้ำ Tiberinus ก็ได้ช่วยชีวิตเด็กทั้ง 2 ไว้โดยนำไปวางใต้ต้นมะเดื่อในป่า (เทพก็ช่วยสุดๆแล้วใช่มะ?) และเด็กทั้ง 2 คนก็ได้รับการช่วยเหลือจากหมาป่าตัวเมียในถ้ำที่เนินเขา Palatine Hill ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงโรมในเวลาต่อมา
1
และหมาป่า Lupercal นี่แล่ะที่ได้ดูแลเด็กๆ จนกระทั่งพวกเขาได้ถูกรับเลี้ยงโดย Faustulus คนเลี้ยงแกะ และก็เริ่มเติบใหญ่ขึ้นมา หลังจากฆ่าลุงที่สั่งโยนพวกเขาลงน้ำ พวกเขาก็ได้มาพบถ้ำของหมาป่าที่เลี้ยงดูพวกเขาอีกครั้งและได้ตั้งชื่อมันว่า Lupercal
1
เรื่องเล่าต่อมาคือ Romulus และ Remus ได้ทะเลาะกันเรื่องสถานที่ ที่จะตั้งเมืองใหม่ขึ้นมาหลังจากที่ได้คืนบัลลังค์ให้กับคุณตาไปแล้ว Romulus ชอบเนินเขา Palatine เหนือ Lupercal ส่วน Remus ชอบ Aventine Hill เมื่อพวกเขาไม่สามารถแก้ไขข้อพิพาทได้พวกเขาตกลงที่จะขอความเห็นชอบจากเทพเจ้าผ่านการแข่งขันแห่งการทำนาย Remus เห็นนกมงคลหกตัวเป็นครั้งแรก แต่หลังจากนั้นไม่นาน Romulus ก็เห็น 12 ตัวและอ้างว่าได้รับการอนุมัติจากพระเจ้า (คาดว่าขิงกันด้วยจำนวนนก 555) ความขัดแย้งก็ได้ยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ ในสุดท้ายRemus ถูกฆ่าตายโดย Romulus หรือผู้สนับสนุนคนใดคนหนึ่งของเขา จากนั้น Romulus ก็ได้สร้างเมืองโรม และก่อตั้งสถาบันการปกครอง การทหาร และประเพณีทางศาสนา เขาได้ครองราชย์เป็นเวลาหลายปีในฐานะกษัตริย์องค์แรกของอาณาจักรโรมัน
1
แถมที่ 2 หมาป่า Lupercal คือสัญลักษณ์ของทีมสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ของกรุงโรม นั่นก็คือ โรม่า(Roma) นั่นเอง!!!
Happy Lupercalia Day ครับ 555
#Obsoletearticles
โฆษณา