Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ย้อนอดีต
•
ติดตาม
15 ก.พ. 2021 เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
ย้อนอดีต วลาดิเมียร์ เลนิน นักปฏิวัติคอมมิวนิสต์ชาวรัสเซีย
เลนินคือผู้นำนักปฏิวัติคอมมิวนิสต์คนแรกของสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต(รัสเซีย)
ซึ่งสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ 1922
เป็นหัวหน้าพรรคบอลเชวิค เเละนายกรัฐมนตรีคนแรก
ที่สำคัญเป็นเจ้าของแนวคิดลัทธิเลนินที่ประยุกตมาจากทฤษฎีของมาร์ก และได้รับความนิยมในหมู่นักปฏิวัติสังคมนิยมทั่วโลก
วลาดิเมียร์ เลนิน ชื่อจริงคือ วลาดิมีร์ อิลิช
อูลิยานอฟ ในปี ค.ศ.1870
ในครอบครัวชนชั้นกลางในเมืองอูลยานอฟสค์ประเทศรัสเซีย
1
เมื่อเป็นวัยรุ่นเลนินกลายเป็นคนหัวรุนแรงทางการเมือง
หลังจากพี่ชายของเขาถูกประหารชีวิตในปี ค.ศ.1887 ในข้อหาวางแผนลอบสังหารพระเจ้าซาร์
อเล็กซานเดอร์ที่ 3 (พระราชบิดาของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2)
ต่อมาในปีเดียวกันนั้นเลนินอายุ 17 ปี ได้ถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยคาซานอิมพีเรียล
ซึ่งเขาเรียนอยู่ในสาขาวิชากฎหมาย
เขาถูกไล่ออกเนื่องจากมีส่วนร่วมในการประท้วงของนักศึกษาที่ผิดกฎหมาย
หลังจากที่เขาโดนไล่ออกเลนินได้หมกมุ่นอยู่กับตัวเองในวรรณคดีที่รุนแรงทางการเมือง
รวมทั้งงานเขียนของคาร์ มาร์ก นักปรัชญาชาวเยอรมัน ที่สนับสนุนแนวคิดระบอบสังคมนิยม
เเละในปี ค.ศ.1889 เลนินได้ประกาศตัวเองว่าเป็นลัทธิมาร์กซ์
ต่อมาเขาเรียนจบวิทยาลัยและได้รับปริญญากฎหมายจากมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เลนินฝึกฝนทำงานเกี่ยวกับกฎหมายในระยะสั้น ๆ ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ช่วงปี ค.ศ.1890
ก่อนที่เขาก็ถูกจับในข้อหามีส่วนร่วมในกิจกรรมของลัทธิมาร์กซ์และถูกเนรเทศไปไซบีเรีย
ทำให้เขาได้พบรักกับนาเดซดา ครุปสภาย่า
ทั้งสองได้แต่งงานกันในวันที่ 22 กรกฎาคม
ค.ศ.1898
ต่อมาเลนินย้ายไปเยอรมนี ซึ่งทำให้เขาได้พบกับมาร์กซิสต์ชาวยุโรป
คนอื่น ๆ
เเละในช่วงเวลานั้นเขาได้ใช้งานแฝงเลนินและจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์
รัสเซียในสงครามโลกครั้งที่ 1
รัสเซียเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1ในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.1914 เพื่อสนับสนุนชาวเซิร์บและพันธมิตรฝรั่งเศสและอังกฤษ
เเต่ทางทหารของจักรวรรดิรัสเซียนั้นไม่
สามารถเทียบได้กับเยอรมนีที่ทันสมัยและ
เป็นอุตสาหกรรม
การมีส่วนร่วมของรัสเซียในสงครามถือเป็นหายนะ
มีจำนวนคนบาดเจ็บล้มตายของรัสเซียมีมากกว่าประเทศอื่น ๆ
เเละยังขาดแคลนอาหารและเชื้อเพลิง
ซึ่งเลนินได้สนับสนุนการพ่ายแพ้ของรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่ 1
ในช่วงเวลานนั้นเองที่เขาเขียนและเผยแพร่ลัทธิจักรวรรดินิยมขั้นสูงสุดของทุนนิยม ในปี ค.ศ.1916
ซึ่งเขาโต้แย้งว่าสงครามเป็นผลมาจากระบบทุนนิยมระหว่างประเทศ
เลนินหวังว่าจะสามารถทำให้ศัตรูของเขานั้น
สั่นคลอน
ทำให้เยอรมันได้เนรเทศเลนินและนักปฏิวัติชาวรัสเซียคนอื่น ๆ กลับไปรัสเซีย
ซึ่งวินสตันเชอร์ชิลนายกรัฐมนตรีอังกฤษในตอนนั้น ก็ได้ออกมาความเคลื่อนไหวต่อเยอรมันในเวลานั้นว่า
“ พวกเขาหันมาใช้อาวุธที่น่าสยดสยองที่สุดในรัสเซีย พวกเขาขนส่งเลนินในรถบรรทุกที่ปิดสนิทเหมือนเชื้อบาซิลลัส”
การปฏิวัติรัสเซีย
เมื่อเลนินกลับบ้านที่รัสเซียในเดือนเมษายน
ปี ค.ศ.1917
เเต่การปฏิวัติรัสเซียได้เริ่มต้นขึ้นโดยการประท้วงเรื่องการขาดแคลนอาหารตั้งเเต่ในเดือนมีนาคม
ได้บังคับให้มีการสละราชสมบัติของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ที่ไร้เดียงสา
ในตอนนั้นรัสเซียอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาลเฉาะกาล
ซึ่งต่อต้านการปฏิรูปสังคมอย่างรุนแรงและยังคงมีส่วนร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1
เลนินได้เริ่มวางแผนโค่นล้มรัฐบาลเฉพาะกาล
สำหรับเลนินนั้นรัฐบาลเฉพาะกาลเป็น "เผด็จการของชนชั้นกระฎุมพี"
เขาสนับสนุนการปกครองโดยตรงของคนงานและชาวนาในลักษณะ "เผด็จการของชนชั้นกรรมาชีพ"
ต่อมาชาวรัสเซียก็เบื่อหน่ายกับสงครามอย่างมาก ชาวนาคนงานและทหารได้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง
เหตุการณ์นี้ได้ถูกเรียกว่าการปฏิวัติเดือนตุลาคม
เลนินได้ตระหนักถึงภาวะที่เกิดขึ้น เขาจึงตัดสินใจยึดอำนาจ
เขาได้จัดคนงานในโรงงาน ชาวนา ทหารและกะลาสีเป็นหน่วยทหารอาสาสมัครเป็น Red Guards อย่างลับๆ
เเละเมื่อวันที่ 7 และ 8 พฤศจิกายน ค.ศ.1917
กองกำลังเเดงก็ยึดอาคารของรัฐบาลเฉพาะกาลในการปฏิวัติรัฐประหารที่ปราศจากเลือด
สงครามคอมมิวนิสต์
การปฏิวัติบอลเชวิคทำให้รัสเซียตกอยู่
ในสงครามกลางเมืองถึงสามปี
กองทัพแดงซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซียที่ตั้งขึ้นใหม่โดยเลนิน
ได้ต่อสู้กับกองทัพขาวซึ่งเป็นแนวร่วมของราชาธิปไตยนายทุนและผู้สนับสนุนสังคมนิยมประชาธิปไตย
ในช่วงเวลานั้นเลนินได้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจหลายชุดที่เรียกว่า "สงครามคอมมิวนิสต์"
ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อช่วยเลนินรวม
อำนาจและเอาชนะกองทัพขาว
ภายใต้สงครามคอมมิวนิสต์เลนินได้รวมชาติที่ผลิตเเละทำอุตสาหกรรมทั้งหมดทั่วโซเวียต
อย่างรวดเร็ว
เขาได้ขอข้าวส่วนเกินจากชาวนาเพื่อเลี้ยงกองทัพแดงของเขา
ซึ่งมาตรการเหล่านี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นหายนะ
ที่เกิดขึ้นภายใต้เศรษฐกิจของรัฐใหม่
ผลผลิตทั้งภาคอุตสาหกรรมและการเกษตร
ลดลงอย่างมาก
ทำให้ชาวรัสเซียประมาณห้าล้านคนเสียชีวิตจากความอดอยากในปี ค.ศ.1921
และมาตรฐานการครองชีพทั่วรัสเซียตกอยู่ในความยากจนอย่างน่าเวทนา
ความไม่สงบที่คุกคามรัฐบาลโซเวียต เป็นผลทำให้เลนินได้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจใหม่ของเขา
โดยนโยบายเศรษฐกิจใหม่ได้สร้างระบบเศรษฐกิจที่เน้นตลาดมากขึ้น
“ ตลาดเสรีและทุนนิยมทั้งสองอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ”
เชกะ
ไม่นานหลังจากการปฏิวัติบอลเชวิค เลนินได้ก่อตั้งเชกะซึ่งเป็นตำรวจลับคนแรกของรัสเซีย
ขณะที่เศรษฐกิจย่ำแย่ในช่วงสงครามกลางเมืองรัสเซีย เลนินได้ใช้เชกะ
เพื่อปิดปากฝ่ายค้านทางการเมืองทั้งจากฝ่ายตรงข้ามและผู้ท้าทายในพรรคการเมืองของเขาเอง
ต่อมาในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1918 ขณะที่เขากำลังจะออกจากโรงงานในมอสโกเขาได้ถูกยิง
ที่ไหล่และลำคอ ทำให้เขาเจ็บสาหัส
โดยคนที่ยิงเขาก็ เเฟนนี เคปเเลน สมาชิกพรรคสังคมนิยมคู่แข่งของเขา
หลังจากความพยายามลอบสังหารเลนิน
เซกะได้ก่อตั้งช่วงเวลาที่เรียกว่า Red Terror
ซึ่งเป็นการรณรงค์การประหารชีวิตจำนวนมากต่อผู้สนับสนุนระบอบการปกครองแบบเทพเซียนชนชั้นสูงของรัสเซียและนักสังคมนิยมใด ๆ ที่ไม่จงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์ของเลนิน
จากการคาดการณ์ เซกะอาจประหารชีวิต ศัตรูชั้นสูง ได้มากถึง 100,000 คน
ในช่วง Red Terror ระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม ค.ศ.1918
เลนินสร้างสหภาพโซเวียต
เเละในที่สุดกองทัพแดงของเลนินก็ชนะสงครามกลางเมืองของรัสเซีย ในปี ค.ศ.1924
ได้เกิดสนธิสัญญาระหว่างรัสเซีย ยูเครน
เบลารุสและทรานคอเคซัส (ปัจจุบันคือจอร์เจีย
อาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน)
จัดตั้งสหภาพสาธารณรัฐโซเวียต (USSR )
เลนินกลายเป็นหัวหน้าคนแรกของสหภาพโซเวียต
แต่เมื่อถึงเวลานั้นสุขภาพของเขาก็ได้ทรุดลง
ในระหว่างปี ค.ศ.1922 เเละเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1924
จากเหตุการณ์ที่เขารอดจากการลอบสังหารส่งผลให้เลนินต้องเผชิญกับโรคหลอดเลือดสมองหลายครั้ง
ซึ่งทำให้ความสามารถในการพูดของเขาลดลง
หลังจากนั้นก็ทำให้โจเซฟสตาลินเลขาธิการคนใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์เริ่มรวมอำนาจ
เเต่เลนินไม่พอใจอำนาจทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นของสตาลินและมองว่าการขึ้นสู่ตำแหน่งของเขาเป็นภัยคุกคามต่อสหภาพโซเวียต
เลนินได้เขียนบทความเชิงทำนายจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับการทุจริตของอำนาจในพรรคคอมมิวนิสต์ในขณะที่เขาฟื้นตัวจากโรคหลอดเลือดสมองในปลายปี ค.ศ.1923
เอกสารนี้เรียกว่า 'พันธสัญญาของเลนิน' ซึ่งเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองโซเวียตและแนะนำให้ปลดสตาลินออกจากตำเเหน่ง
การเสียชีวิตและสุสานของเลนิน
เลนินเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ.1924
ในเมืองกอร์กีเลนินสกีเยใกล้มอสโกว
ขณะที่เขาอายุได้ 53 ปี
ผู้คนกว่าล้านคนได้กลั้นใจยืนต่อแถวเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่จะแสดงความเคารพต่อเลนินซึ่งนอนอยู่ในสถานะที่สภาสหภาพแรงงาน
ในมอสโกว ในอากาศที่หนาวเหน็บของฤดูหนาว
ศพของเลนินนั้นถูกย้ายหลุมฝังศพในมอสโกที่อยู่ในจัตุรัสแดงไปยังเมืองที่ห่างไกลของ Tyumen รัสเซียเพื่อความปลอดภัยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เเละย้ายศพของเขามาจัดแสดงอยู่ในสุสานของเลนินในจัตุรัสแดงอีกครั้ง
อ้างอิง
https://www.history.com/topics/russia/vladimir-lenin
1 บันทึก
3
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย