Blockdit Logo (Mobile)
เพลงเก่าเล่าอดีต
•
13 ก.พ. 2021 เวลา 14:22 • ดนตรี เพลง
EP.31: Chick Corea “Return to Forever” [R.I.P.: 1941-2021]
“ชิค คอเรีย” สุดยอดศิลปินแจ๊สระดับตำนาน
เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ด้วยวัย 79 ปี เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
สำหรับผมแล้ว...เขาเปรียบเหมือนพ่อครัวใหญ่ผู้แตกฉานในส่วนผสม
สามารถสร้างสรรค์ปรุงแต่งเสียงของแจ๊ส ได้อย่างหลากหลายเมนู
และมีรสกลมกล่อม “อร่อยหู” ...ครับ เขาคือ “อัจฉริยะทางดนตรี”
เขาเกิดในตระกูลนักดนตรี และพ่อของเขาก็เป็นนักดนตรีแจ๊ส นั่นย่อม
มีอิทธิพลสำคัญที่ส่งต่อความเป็นศิลปินให้เขา
วัยทำงานบนถนนสายแจ๊ส อิทธิพลที่เกิดจากการร่วมงานกับสุดยอด
ฝีมือทั้งหลาย นั้นก็มีส่วนอย่างสำคัญ ที่ช่วยหล่อหลอมขัดเกลาจน
กระทั่งกลายเป็น “ชิค คอเรีย” อย่างที่เราชื่นชอบกัน
เขาได้ร่วมงานกับ :
“Stan Getz” เจ้าของเสียงเทอเนอร์แซกฯ ผู้เป็นหนึ่งในแนวบอสซาโนวา
“Mongo Santamaria” ปรมาจารย์เครื่องเคาะจังหวะแนวลาติน จากคิวบา
และ “Miles Davis” ทรัมเป็ตแจ๊ส ผู้เป็นสุดยอดอัจฉริยะเบอร์หนึ่งตลอดกาล
2 คนแรกนั้น ให้แนวทางลาตินและบราซิลเลียนแจ๊สกับเขาเราจะเห็นว่ามี
อิทธิพลอยู่ในงานของเขาอยู่เสมอๆ ส่วนคนที่ 3 “ไมล์ส เดวิส” นั้นต้อง
ยอมรับว่า เป็นผู้หล่อหลอมขัดเกลาให้เขาอย่างแท้จริง
เริ่มต้นจาก "ไมล์ส เดวิส" เรียกให้เขาไปเล่น เปียโนไฟฟ้า ในบางเพลง
สลับกับ “Herbie Handcock” ระหว่างทำ อัลบั้ม “Filles De Kilimanjaro”
ซึ่งชุดนี้ถือเป็นปฐมบทของ “Jazz-Rock Fusion” เมื่อปี 1968
“Chick Corea” ได้มีส่วนสร้างตำนานกับ “Miles Davis” ในผลงานชุด
ที่ถูกบันทึกให้เป็นเสาหลักของดนตรีแนว “Jazz-Rock Fusion” นั่นคือ
“In a Silent Way” ในปี 1969 และ “Bitches Brew” ในปี 1970
“Chick Corea” ร่วมกับสุดยอดมือเบส “Stanley Clarke” ก่อตั้งวง
“Return to Forever” เมื่อปี 1972 และผลงานชุดที่ 3 ชื่อว่า
“Hymn of the Seventh Galaxy” ในปี 1973 นั้นคืออรรถรสใหม่ทาง
โสตประสาท เป็น “Jazz-Rock Fusion” ที่เจือความพริ้วไหวล่องลอย
ให้จินตนาการอย่างไร้ขอบจำกัด ซึ่งต่างจาก "Jazz-Rock" ที่เคยมี
ขอเชิญรับฟังครับ...
มือกีต้าร์ในชุดนี้ชื่อว่า “Bill Connors” จัดเป็นยอดฝีมืออีกคนหนึ่ง แต่เขา
ได้ร่วมสร้างตำนาน Jazz-Rock ในนาม “Return to Forever” เพียงชุดนี้
ชุดเดียวเท่านั้น
ผลงานของ “Return to Forever” ระหว่างปี 1972-1977 ออกมาทั้งหมด
7 อัลบั้ม ชุดที่ 6 “Romantic Warrior” ในปี 1976 ถือเป็นชุดที่ประสบ
ความสำเร็จในยอดการขายมากที่สุด
ผมชอบเพลง “Sorceress” เป็นฝีมือการประพันธ์ของมือกลอง
“Lenny White” ...เลือกเวอร์ชั่นบันทึกการแสดงสดมาให้ฟังครับ
ชุดนี้มือกีต้าร์คือ “Al Di Meola” (ผมชอบสำเนียงกีต้าร์ของเขา)
เขาได้ร่วมงานกับ “Return to Forever” อยู่ 3 อัลบั้ม และชุดนี้เป็น
การส่งท้าย ซึ่งเขาก็ทำได้อย่างเด็ดขาดทีเดียว
เมื่อพูดถึง “ชิค คอเรีย” แล้วไม่เอ่ยถึงเพลง “Spain” นั้นเป็นไปไม่ได้เลย
เพราะถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีชที่ถูกนำไปบรรเลงโดยหลายศิลปิน
ในหลากเวอร์ชั่น
ครั้งนี้ผมขอหยิบงานที่เป็นต้นฉบับ อยู่ในอัลบั้ม “Light as a Feather”
ผลงานชุดที่ 2 ในปี 1973 ของ “Return to Forever” ยุคที่ยังมีกลิ่นอาย
ของความเป็น "ลาติน-บราซิลเลียนแจ๊ส" อบอวลอยู่อย่างชัดเจน
ขอเชิญรับฟังครับ
เสียงสุภาพสตรีที่ได้ยินนั้นคือเสียงของ “Flora Purim” นักร้องแจ๊สชาวบราซิลเลี่ยน เธอร่วมงานกับ “Return to Forever” เพียง 2 ชุดแรกเท่านั้น
นอกจากตำนานของ “Chick Corea” ในยุค “Return to Forever” ช่วง 70’s
แล้วนั้น เขายังเป็นกำลังหลักขับเคลื่อน และสร้างสีสันให้กับวงการดนตรีแจ๊ส
มาอย่างต่อเนื่อง เขามีส่วนแจ้งเกิดศิลปินแจ๊สเก่งๆหลายคน ในยุค 80’s-90’s
ตัวอย่างเช่น ช่วงของ“The Chick Corea Elektric Band” หรือในนามคณะ
“Chick Corea Akoustic Band” เป็นต้น
"ชิค คอเรีย" กับโครงการ "Elektric Band" นั้นเริ่มชุดแรกเมื่อปี 1986 ร่วม
กับ 2 ยอดฝีมือ "John Patitucci" มือเบส และ "Dave Weckl" ตีกลอง
"Light Years" ไตเติ้ลแทรคจากอัลบั้มชื่อเดียวกันในปี 1987
ผลงานชุดที่สองนี้ได้ มือเป่าแซกฯ "Eric Marienthal"
กับ มือกีต้าร์ "Frank Gambale" เข้ามาเติมเต็มได้อย่างลงตัว
บันทึกการแสดงเมื่อปี 1991...ผมเลือกมาเป็นการส่งท้ายในครั้งนี้
ขอขอบคุณที่ติดตาม...แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ
โฆษณา