13 ก.พ. 2021 เวลา 15:34 • หนังสือ
รีวิวหนังสือ : Norwegian wood (ด้วยรัก ความตายและหัวใจสลาย)
มูราคามิ เคยให้สัมภาษณ์ว่า เป็นคนที่ชอบเขียนนวนิยายในสไตล์ที่เหนือจริง แต่ไม่ใช่กับ Norwegian wood ซึ่งเขาเขียนได้เรียลมาก กลายมาเป็นเล่มที่ผมชอบที่สุดในบรรดางานเขียนของเขา
วาตานาเบะ และนาโอโกะ เติบโตในโกเบ พร้อมกับคิซึกิแฟนหนุ่มของนาโอโกะ พวกเขามักจะอยู่ร่วมกันสามคนเสมอจนกระทั่ง คิซึกิตายในวัย 17 ปี
วาตานาเบะ ก็ไปศึกษาต่อที่โตเกียว ระหว่างนี้เขายังออกเดตกับนาโอโกะอยู่เสมอ ในวันเกิดของนาโอโกะ อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ทั้งสองคนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน
หลังจากวันนั้น นาโอโกะก็หายตัวไป…..
ในช่วงที่วาตานาเบะเหงามากๆ มิโดริเพื่อนร่วมชั้นวรรณคดีของเขา ก็เข้ามาในชีวิต
แต่แล้ว จดหมายจากนาโอโกะก็ส่งมายังโทรุ แจ้งว่า เธออยู่ที่ Ami Hostel อันเป็นสถานบำบัดปัญหาทางจิตใจของเธอ
วาตานาเบะ จึงไปเยี่ยมนาโอโกะ และได้พบกับ เรโกะ รูมเมทของนาโอโกะ
ในสถานบำบัดแห่งนั้น วาตานาเบะก็ได้คุยเปิดใจในทุกเรื่องกับนาโอโกะ
ภายหลังจากกลับมายังโตเกียวแล้ว วาตานาเบะติดต่อกับมิโดริอีกครั้ง ไปดื่มที่บาร์ และมิโดริก็แนะนำให้วาตานาเบะรู้จักกับพ่อของเธอซึ่งป่วยรักษาตัวที่โรงพยาบาล
วาตานาเบะกลับไปเยี่ยมนาโอโกะอีกครั้ง เขาบอกว่าเธอว่าจะรอให้เธอหายดี และไปใช้ชีวิตร่วมกัน หลังจากนั้น เขาก็ย้ายไปอยู่บ้านเช่าเล็กๆ โดยไม่บอกให้มิโดริทราบ ในช่วงนั้นนาโอโกะก็อาการแย่ลง
มิโดริก็โกรธวาตานาเบะที่ไม่ยอมบอกว่าเขาย้ายไปไหน จึงหายตัวไป ไม่ยอมพบกับเขา
เรื่องราวต่อจากนี้ลองไปอ่านดูในเล่มนะครับ…
ชื่อเรื่อง Norwegian Wood นั้น นอกจากจะเป็นชื่อเพลงของ the beatles ที่ นาโอโกะ และเรโกะชอบ ในญี่ปุ่น ใช้ชื่อเรื่องว่า Noruwei no Mori ซึ่ง คำว่า “Mori” นั้น ไม่ได้แปลว่าไม้ แต่หมายถึง ป่าไม้ซึ่งพื้นที่เหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักรที่หนาแน่นและมืดมิด อันอาจหมายถึงความเจ็บป่วยทางจิต สับสนในใจ และ คำว่า “Mori” ยังผันคำกริยาภาษาละติน morior หมายถึง "to die" ด้วย
จิตใจ สับสน ความตาย จึงเป็นใจความหลักของเรื่อง
• ความเจ็บป่วยทางจิต
นาโอโกะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคิซึกิมาตั้งแต่เด็ก ชีวิตเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความทรงจำระหว่างตัวเธอกับคิซึกิ เมื่อคิซึกิฆ่าตัวตาย รวมถึงนาโอโกะเคยเห็นภาพที่พี่สาวของเธอผูกคอตายด้วย ส่งผลให้สภาวะจิตใจของเธอไม่ปกติ กลายมาเป็นโรคซึมเศร้า กระทั่งอาการหูแว่วได้ยินเสียงของพี่สาว และคึซึกิ
นาโอโกะ เผชิญสภาวะสับสนทางจิตใจที่ต้องเลือกระหว่างมีชีวิตอยู่ หรือเดินทางไปยังดินแดนแห่งความตาย
• ความสับสน
ส่วนของ โทรุ วาตานาเบะ แม้เขาจะรักนาโอโกะสุดหัวใจ แต่ก็รู้ดีว่า นาโอโกะ เพียงแต่เชื่อมโยงตัวเขาเอง ไปสู่ความคิดถึงต่อคิซึกิ เมื่อมิโดริเข้ามาในชีวิต เธอเป็นผู้หญิงที่เรียบง่าย สดใส และเปิดเผย สามารถพูดในเรื่องที่ดูจะกระทบใจของเธอได้ในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบจน เขาเริ่มรู้สึกรักเธอทีละน้อย
แต่เมื่อไม่อาจทิ้งนาโอโกะ ให้ต้องต่อสู้กับภาวะจิตใจที่ไม่ปกติเพียงลำพัง วาตานาเบะสับสนอยู่ในสภาวะที่เรียกได้ว่า กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
• ความตาย
ความตายในเรื่อง ส่งผลกระทบต่อตัวละคร แต่ละตัวไม่เหมือนกัน การที่คิซึกิ ฆ่าตัวตายส่งผลต่อจิตใจนาโอโกะเป็นอย่างมาก ส่วนวาตานาเบะ ทำใจยอมรับ เขาเขียนวลีออกมาว่า
“ความตายดำรงอยู่, มิใช่ภาคตรงข้าม, หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต” (หน้า 36)
แต่ความตายที่เกี่ยวพันกับครอบครัวมิโดรินั้น เป็นความตายตามธรรมชาติ เธอสามารถยอมรับมันและก้าวต่อไปได้
“แม่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลปีครึ่ง แม่เจ็บปวดทรมานตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้าย ... ตอนที่แม่สิ้นลมฉันอดดีใจไม่ได้ที่แม่พ้นความเจ็บปวดทรมาน”(หน้า 94)
เธอเล่าให้โทรุฟังถึงงานศพพ่อ ว่า “งานศพกลายเป็นงานปิกนิก เราสองคนพี่สาวกับฉัน เหนื่อยกันแทบขาดใจแล้ว เราสองคนไม่ร้องไห้ด้วยซ้ำไป” (หน้า 292)
ประเด็นอื่นๆ ที่เชื่อมโยงตัวผมได้มากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องความเหงา
มูราคามิแอบใส่มันเข้ามาอย่างแนบเนียน ความเหงาจะปรากฏในตอนที่วาตานาเบะเหมือนจะสมหวัง แต่กลับกลายเป็นว่าต้องผิดหวัง มันทำให้เหงายิ่งกว่าเดิม ดังในตอนที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนาโอโกะ แล้วนาโอโกะก็หนีวาตานาเบะไป ในช่วงนั้นรูมเมทของเขา คือ สตอร์มทรูปเปอร์ก็หายไปด้วย หรือจะเป็นตอนที่นาโอโกะต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนมิโดริก็โกรธที่โทรุย้ายที่อยู่ไป โทรุต้องรอจดหมายจากนาโอโกะ มิโดริก็ติดต่อไม่ได้ เป็นช่วงเวลาเหงามากๆ
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ ในช่วงที่ญี่ปุ่น ฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ ด้วยความสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาและชาติอื่นๆ ญี่ปุ่นได้เข้าเป็นสมาชิกขององค์การระหว่างประเทศหลายแห่ง ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการค้าเสรีหลายฝ่ายระหว่างประเทศ
จึงมีการกล่าวถึง ลักษณะพฤติกรรมการกินดื่ม ขอวาตานาเบะและมิโดริเสมอ
อีกคนที่ชีวิตวนเวียนในระบบทุนนิยม ก็ คือ นางาซาวะ เพื่อนอีกคนของ วาตานาเบะ
เขาเป็นคนเรียนเก่งมาก แต่เขามักจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงมากหน้าหลายตาบางครั้งก็พึ่งรู้จัก กระทำเป็นไปอย่างไร้จุดหมาย ในบางครั้งไม่ได้ต้องการโดยสัญชาตญาณ ทำเพียงเพื่อต้องทำ คล้ายกับเป็นการตอบสนองความต้องการบริโภคมากกว่าความจำเป็นจริงๆ
ย้อนกลับมาเรื่องความสับสนในใจ หากผมเป็นวาตานาเบะแล้ว ผมจะเลือกทำตามหัวใจตัวเอง ไม่ให้กรอบใด มาปิดกั้นในเรื่องความรู้สึก จะบอกความจริงแก่นาโอโกะ แต่ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องทิ้งเธอให้อยู่ลำพัง ก็ยังดูแลกันได้ ซึ่งในจุดนี้มิโดริย่อมเข้าใจได้แน่นอน เพราะหากเราจัดการกับความไม่ชัดเจนไม่ได้ อาจเสียมิโดริไป...
ข้อควรระวังของเล่มนี้
มูราคามิ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเล่มนี้ว่า “เป็นนวนิยายส่วนตัวของผม ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาได้ เพราะเป็นความประทับใจส่วนตัว เหมือนเช่นที่ผู้อ่านบางคนไม่ชอบผม บางคนก็ชอบผม ผู้อ่านบางคนอาจไม่ชอบนิยายเล่มนี้ บางคนก็คงชอบ ผมเลยคิดไปว่า นิยายเล่มนี้น่าจะมีคุณภาพมากกว่าคุณสมบัติส่วนตัวของผมในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม หากไม่อ่าน เราไม่มีทางรู้ได้เลย ว่าจะชอบ หรือไม่ชอบเล่มนี้...
ลองมาพิสูจน์ด้วยตัวเองน่าจะดีกว่า
หากต้องการเล่มนี้ กดได้ที่ตรงนี้เลย https://shop.line.me/@readitout/product/319762815 เดือนนี้ลด 10% เลยนะ
สนใจเล่มนี้สั่งซื้อได้ที่
@Nwolf
HARUKI MURAKAMI : เขียน
นพดล เวชสวัสดิ์ : แปล
สำนักพิมพ์กำมะหยี่
#รีวิวหนังสือ
#แนะนำหนังสือ
#อ่านแหลก
6
โฆษณา