14 ก.พ. 2021 เวลา 04:51 • การ์ตูน
โอฮารา เกาะที่ถูกทำให้หายไปเพราะไปรู้ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงเข้า
เมื่อ 22 ปีก่อนที่ทะเลเวสต์บลู มีเกาะแห่งหนึ่งชื่อว่า โอฮารา เป็นบ้านเกิดของนิโค โรบินแห่งกลุ่มหมวกฟาง
แต่ในปัจจุบันเกาะนั้นเหลือเพียงแต่ชื่อ ไม่มีใครอาศัยอยู่บนเกาะโอฮาราอีกแล้ว
ในอดีต สมัยที่เกาะโอฮาราเต็มไปด้วยนักโบราณคดีเก่งๆ จากทั่วโลก ที่ต่างมารวมตัวกันเพื่อศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้
สรรพหนังสือทั่วโลกถูกขนย้ายมาไว้ที่ "ต้นไม้แห่งปัญญา" ที่มีอายุกว่า 5000 ปี
ภายในต้นไม้แห่งปัญญาจะมีห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความรู้มากมายจากทั่วทุกมุมโลกมาเก็บไว้ที่นี่ และรวมถึง "โพเนกลีฟ" ที่ถูกเก็บไว้ที่ห้องใต้ดินด้วย
ทำให้เหล่านักโบราณคดีและนักวิชาการบนเกาะนี้ล่วงรู้ถึงปริศนาของประวัติศาสตร์ในอดีต รวมไปถึง "100 ปีแห่งความว่างเปล่า" ที่ถูกรัฐบาลโลกสั่งห้ามให้ศึกษานั้นด้วย
แฮควาล D เซาโร เป็นทหารเรือเผ่าคนยักษ์ที่ลอยมาเกยตื้นที่เกาะโอฮารา ด้วยสภาพที่สะบักสะบอม และเขาได้พบกับโรบินจังในวัย 8 ขวบ
การเจอกันของทั้งสองคนเป็นโชคชะตาที่ทำให้เซาโรรู้ว่าโรบินเป็นลูกของนิโค โอลิเวีย นักโบราณคดีที่เซาโรและลูกน้องได้จับกุมเธอไว้ ในระหว่างที่โอลิเวียเดินทางออกไปตามหาโพเนกลีฟ
1
ทหารเรือที่เป็นลูกน้องของเซาโรได้ยิงปืนใหญ่ใส่เรือของทีมนักโบราณคดีของโอลิเวียจนเสียชีวิตยกลำ มีเพียงแค่นิโค โอลิเวียเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิต
โดยที่นักโบราณคดีพวกนี้ไม่ใช่โจรสลัด บนเรือมีแต่หนังสือและอุปกรณ์ไว้สำหรับศึกษาประวัติศาสตร์ แต่ทหารเรือที่เป็นลูกน้องของเซาโรใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ยิงปืนใหญ่ใส่เรือสำรวจจนทำให้พวกเขาเสียชีวิต
ทหารเรือพวกนี้ถูกเซาโรต่อว่าว่า พวกนายอ่อนแอจนกำราบนักโบราณคดีไม่อยู่เลยหรือไง หรือแปลเป็นไทยง่ายๆ ก็คือกากจนต้องใช้ปืนใหญ่ยิงคนไม่มีทางสู้นั่นเองครับ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ "เจตนารมณ์ของ D" ที่เซาโรเองก็เป็นคนที่มี D อยู่ในชื่อหรือเพราะอะไร เซาโรได้ค้านหัวชนฝากับเซ็นโงคุในตอนนั้นประมาณว่า
ไม่เห็นว่านักโบราณคดีพวกนี้จะมีพิษมีภัยอะไรเลย ไหนขอดูหลักฐานที่พวกนั้นเป็นคนเลวจริงๆ หน่อยสิ
เซ็นโงคุตอบกลับมาว่า "คิดสงสัยรัฐบาลโลกรึ หุบปากแล้วทำตามไปเฉยๆ เหอะ"
เซาโรที่ได้ยินดังนั้นจึงไปนั่งคุยกับโอลิเวียในที่คุมขัง และได้พาโอลิเวียหนีออกจากที่คุมขัง เพราะเซาโรคิดว่าโอลิเวียไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไร
เพียงแค่เธออยากค้นคว้า "ความจริงของประวัติศาสตร์" เพียงเท่านั้น
2
และมันขัดต่อคุณธรรมของเซาโร ที่กองทัพเรือใช้กำลังกับพวกนักโบราณคดีเกินกว่าเหตุ เขาเลยหนีออกจากกองทัพเรือ พร้อมกับปล่อยให้โอลิเวียหนีไป และถ่วงเวลาพวกกองทัพเรือที่ตามมาให้อีกด้วย
ด็อกเตอร์โคลเวอร์ นักโบราณคดีและหัวหน้าบรรณารักษ์ของห้องสมุดโอฮารา ได้เผชิญหน้ากับสแปนไดน์ สุนัขรับใช้ของรัฐบาลโลกที่มายังเกาะโอฮารา
โดยด็อกเตอร์ขอให้สแปนไดน์ติดต่อผู้เฒ่าทั้งห้า เพื่อขอรายงานสมมติฐานที่เขาได้ค้นคว้าประวัติศาสตร์ที่หายไปในช่วง 100 ปีแห่งความว่างเปล่า
สมมติฐานของด็อกเตอร์โคลเวอร์ทำให้ผู้เฒ่าทั้งห้าถึงกับอกสั่นขวัญแขวน
เพราะ ความจริงที่เขาค้นพบ เรื่องของอาณาจักรที่รุ่งเรืองในอดีตที่มีพลานุภาพยิ่งใหญ่ ที่เป็นคนแกะสลักโพเนกลีฟ เพราะพวกเขารู้ตัวว่าต้องพ่ายแพ้ให้กับองค์กรที่มีนามว่ารัฐบาลโลก
ในปัจจุบันมีการเปิดเผยมาแล้วว่าคนที่แกะสลักโพเนกลีฟ คือบรรพบุรุษของตระกูลโคสึกิ
อาณาจักรที่รุ่งเรืองในอดีต เลยอยากทิ้งความจริงและเจตนารมณ์บางอย่างให้กับคนรุ่นหลังในอนาคต ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาเมื่อ 900-800 ปีก่อน (100 ปีที่ประวัติศาสตร์ถูกทำให้หายไป หรือก็คือ 100 ปีแห่งความว่างเปล่านั่นเอง)
1
และในช่วง 800 ปีก่อนนั้นก็ช่างบังเอิญเหลือเกินที่รัฐบาลโลกได้ก่อตัวขึ้นพอดิบพอดี
1
ทำให้ประวัติศาสตร์ในช่วง 100 ปีนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลโลกอย่างจะลบมันทิ้งไป เพราะ มันคงจะไม่ส่งผลดีเท่าไหร่ ถ้าองค์กรที่ชื่อว่ารัฐบาลโลกที่คอยดูแลความเป็นไปของโลกเพื่อให้โลกสงบสุข เคยทำเรื่องระยำๆ เอาไว้ในอดีต
และชื่อของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในอดีตนั้นมีชื่อว่า...
..ปัง!
เสียงปืนได้ดังขึ้นก่อนที่ด็อกเตอร์โคลเวอร์จะเอ่ยชื่อของอาณาจักรนั้น ผู้เฒ่าทั้งห้าได้สั่งการให้สแปนไดน์จัดการยิงด็อกเตอร์โคลเวอร์ และสั่งให้โจมตีโอฮาราด้วย "บัสเตอร์คอล" เพียงเพราะว่าโอฮารารู้ความจริงนั้นมากเกินไป
บัสเตอร์คอล เรือรบ 10 ลำที่สั่งการโดยพลเรือโท 5 นาย ระดมยิงใส่เกาะโฮฮารา รวมไปถึงต้นไม้แห่งปัญญา เพื่อหวังดับลมหายใจของนักโบราณคดีและวิชาการทุกคนบนเกาะ รวมไปถึงต้องการกำจัดความจริงของประวัติศาสตร์นั้น
แต่นักโบราณคดีของโอฮาราไม่ยอมง่ายๆ พวกเขาได้เข้าไปในต้นไม้แห่งปัญญาที่เต็มไปด้วยหนังสือความรู้และประวัติศาสตร์ที่กำลังถูกเพลิงไหม้ เพราะการโจมตีจากปืนใหญ่และระเบิด
นักโบราณคดีเหล่านั้นช่วยกันโยนหนังสือลงไปในทะเลสาบ เพื่อไม่ให้หนังสือพวกนั้นถูกไฟเผา โดยพวกเขาหวังว่าจะเหลือหนังสือที่ส่งต่อไปยังอนาคตได้บ้าง
เหล่านักโบราณคดีได้โยนหนังสือลงไปในทะเลสาบเยอะมากจนแทบถมทะเลสาบนั้นได้เลย แต่ด้วยการโจมตีจากบัสเตอร์คอล ทำให้ต้นไม้แห่งปัญญาได้โค่นลงและส่งผลให้ไม่มีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
ประชาชนธรรมดาที่อาศัยอยู่บนเกาะโอฮารา ได้ถูกอพยพให้ขึ้นเรืออพยพ เพื่อหนีจากการโจมตีของบัสเตอร์คอล แต่ว่าอาคาอินุที่เป็น 1 ในพลเรือโทที่มาปฏิบัติการบัสเตอร์คอลด้วยในตอนนั้น ได้ยิงเรืออพยพนั้นทิ้งทำให้แม้แต่ประชาชนธรรมดาก็ไม่สามารถรอดชีวิตออกจากเกาะไปได้
โดยอาคาอินุให้เหตุผลว่า เราต้องเผื่อไว้ ถ้าหากมีนักโบราณคดีแอบขึ้นเรืออพยพมาด้วย ไม่งั้นที่กองทัพเรือทำไปทุกอย่างจะศูนย์เปล่า
สมชื่อหมาแดงแห่งกองทัพเรือ
คนที่รอดชีวิตจากบัสเตอร์คอลที่เกาะโอฮาร่าได้ มีเพียงนิโค โรบิน ในวัย 8 ขวบที่เป็นนักโบราณคดีและสามารถอ่านโพเนกลีฟออก
โรบินจังได้ความช่วยจากแฮควาล D เซาโร ที่ได้สู้กับคุซันที่เป็นพลเรือโทในตอนนั้น โดยเซาโรยอมตายเพื่อให้โรบินหนี ซึ่งในตอนท้ายคุซันเองนั่นแหละ ที่ช่วยเปิดทางให้โรบินหนีรอดจากโอฮาราที่กำลังลุกเป็นไฟไปได้
เซาโรคิดว่า การมีชีวิตอยู่ตัวคนเดียวบนโลกนี้มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ในอนาคตโรบินจะได้พบกับ "พรรคพวก" ที่รอเธออยู่ที่ไหนสักแห่งในทะเล
เผ่าคนยักษ์ที่มี D อยู่ในชื่อคนนี้คิดว่าโรบินจะต้องได้เจอกับกลุ่มคนที่พร้อมจะอ้าแขนรับโรบินเป็นพวกพ้องอยู่แน่นอน
ซึ่งเซาโรคิดไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว จาก D สู่ D แฮควาล D เซาโรสู่มังกี้ D ลูฟี่
ลูฟี่และกลุ่มหมวกฟาง คือ กลุ่มคนหรือพรรคพวกที่เซาโรได้พูดเอาไว้เมื่อ 22 ปีก่อน เป็นกลุ่มคนที่โรบินจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยได้
และแน่นอนว่า กลุ่มหมวกฟางจะช่วยนำพาโรบิน เพื่อไปไขความจริงของประวัติศาสตร์ในช่วง 100 ปีแห่งความว่างเปล่า ที่ปลายทางของการผจญภัยนั่นเอง
ช่องทางในการติดตาม
Youtube : One Piece Story
Instagram : @onepiecestoryth
Blockdit : One Piece Story
Facebook : One Piece Story TH
คลิปล่าสุดจากทางยูทูบของเราครับ :
โฆษณา