14 ก.พ. 2021 เวลา 16:53 • ไลฟ์สไตล์
แด่ความรักในวันวาเลนไทน์​
ช่อดอกไม้สีแดงสดหน้าร้านขายดอกไม้ ช่วยดึงดูดผู้คนที่สัญจรไปมา.. เพื่อเตือนว่าวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์
มุมมองที่มีต่อวันวาเลนไทน์​ในช่วงวัยต่างๆ... ค่อนข้างจะแตกต่างกัน.... 🥰😊
ในช่วงวัยเด็ก ตอนที่ยังไม่รู้จักดีว่า "ความรัก" คืออะไร จะหลงใหลได้ปลื้ม มองว่าความรักเป็นเหมือนละครที่สุดท้ายแล้วพระเอกต้องสมหวังได้อยู่คู่ครองกับนางเอก พระเอกต้องสมบูรณ์แบบ หน้าตาดี มีฐานะ การศึกษาดี นางเอกต้องหน้าตาสวย พูดจาดี กิริยา​มารยาทเรียบร้อย
พอช่วงวัยรุ่น... ดูเหมือนใครในรุ่นที่มีแฟนจะดูเท่ในสายตาเพื่อน ได้รับการยอมรับ แต่ในช่วงวัยรุ่นก็ยังไม่ลงตัวเรื่องความรัก คนที่เราแอบชอบ... เขาก็ไม่สนใจเรา คนที่แอบชอบเรา เราก็ไม่สนใจเขา แต่ความรักในช่วงวัยรุ่นดูช่างมีสีสัน ทุกครั้งที่มีเรื่องความรักทีไร... ก็ทำให้หัวใจชุ่มชื่น 😍❤️😁☺️ มีความสุขที่ได้นั่งนึกถึงคนที่ชอบ
พอเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน.... ได้มาเกี่ยวข้องกับผู้คนหลากหลายอาชีพ ได้พบ ได้พูดคุย บางคนน่าสนใจแต่ความสัมพันธ์​ไปได้ไม่ไกลกว่า.. แค่คนที่รู้จักกัน ถึงแม้ความชอบ ความสนใจ ที่สอดคล้องกันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาความสัมพันธ์​ที่ไปได้ไกลกว่าคนที่รู้จัก แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่สำคัญและช่วยเติมเต็มและพัฒนาความสัมพันธ์​ให้ไปได้ไกลกว่าการเป็นเพื่อนที่ดีระหว่างกัน
การพบใครซักคนอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ... แต่ความรักเป็นความตั้งใจของคนสองคน ❤️😍👩‍❤️‍👨 อันนี้เป็นความจริง
ไม่ว่าจะพยายามทำดี เอาอกเอาใจอีกฝ่ายแค่ไหน ถ้าอีกฝ่ายไม่เปิดใจก็เป็นเรื่องยากที่​ความสัมพันธ์​จะพัฒนาไปได้ไกลกว่าคนที่รู้จักหรือเพื่อนที่แสนดีระหว่างกัน
มันก็แปลกดี บางคนอยู่เป็นโสดดีๆ มาตั้งนานก็อยู่ได้ แต่พอมองเพื่อนรอบตัวที่มีแฟนกันหมด ก็เป็นทุกข์ขึ้นมาทันที รู้สึกว่าตัวเองแปลกประหลาดที่ยังหาแฟนไม่ได้ เป็นทุกข์เพราะความโสด เปล่าหรอกความจริงแล้วเป็นทุกข์เพราะเปรียบเทียบกับคนอื่นมากกว่า 👈😭😭😭
การมีแฟนหรือไม่มีแฟน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพียงแต่มีแฟนแล้วมีความสุขมากขึ้นกว่าอยู่เป็นโสด หรืออยู่เป็นโสดแล้วใช้ชีวิตมีความสุขมากกว่ามีแฟนต่างหาก ตัวคุณเองเป็นคนตัดสินเองไม่ใช่ใช้ความรู้สึกจากคนอื่นมาตัดสินความสุขในชีวิตเรา
บางคนโหยหาความรักมากเพราะเป็นคนขี้เหงา... ใครก็ได้ที่ผ่านเข้ามาตอนเหงา... คว้าไว้ก่อนเพราะตอนที่มีใครอยู่ด้วยจะรู้สึกว่าตัวเองสบายใจ ไม่ได้อยู่ตามลำพัง.... แต่บางครั้งกลายเป็นว่าการคว้าใครก็ได้แก้เหงากลับกลายเป็นจบลงแบบเจ็บปวด เพราะสิ่งที่ไขว่คว้าไม่ใช่ความรักแต่เป็นความเหงา ที่พยายามหาอะไรมากลบเกลื่อนให้คลายความเหงานั้น
ความรัก ความหลง ความใคร่ ความเหงา ต่างกันมาก หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรื่องเดียวกัน เลยทำให้ชีวิตสับสนเมื่อคิดว่านี่คือ ความรัก แต่ความจริงสิ่งเหล่านั้นคือ ความหลง ความเหงา หรือความใคร่
เมื่อก้าวข้ามและเปิดใจที่จะคบหากัน... ความรักเริ่มพัฒนาต่อยอด มีโอกาสได้ทำกิจกรรมร่วมกันบ่อยมากขึ้น ทำให้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของกันและกันมากขึ้น คำถามตามมาคือรับกับสภาพและนิสัยของอีกฝ่ายได้ไหม? ความคิดที่ว่าจะให้เปลี่ยนเพื่อความต้องการของตัวเราอันนี้ผิดมหันต์ และสุดท้ายอาจจะจบแบบไม่สวย เพราะตัวเราเองยังมีหลายๆด้านที่ยากจะเปลี่ยนแปลงแต่เราจะไปบังคับคนอื่นให้เปลี่บนแปลงเพื่อตัวเรา.... ดูจะเห็นแก่ตัวไปหน่อย แล้วถ้าฝืนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ก็ทำได้แต่คงไม่นานแล้วสุดท้ายก็ไม่มีความสุข สุดท้ายก็เลิกทำ ตรงกันข้ามถ้ายอมรับในพฤติกรรมและนิสัยของอีกฝ่าย... ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็จะเจออีกฝ่ายเป็นแบบนี้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมาตำหนิด่าทอกัน เพราะยอมรับนิสัยแบบนี้ได้ตั้งแต่ตอนที่คบกันแล้ว ถ้าต้องอยู่และใช้ชีวิตด้วยกันก็จะเจอพฤติกรรมแบบนี้ โทษใครไม่ได้นอกจากตนเองที่เลือกเอง
เมื่อก้าวข้ามจุดของการคบหาแบบแฟนเพื่อก้าวเข้าสู่จุดของการใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน คนสองคนคงต้องหารือกันรูปแบบการใช้ชีวิตคู่ ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน แล้วต่างคนต่างอยู่ มีอิสระและโลกส่วนตัวคนละใบ ถ้าเป็นแบบนั้นอยู่เป็นโสดน่าจะดีกว่าเพราะมีอิสระมากกว่าการใช้ชีวิตร่วมกัน ความผูกพัน ความห่วงใย ความช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้กันและกันที่เกิดจากการใช้ชีวิตคู่ด้วยกันผ่านวันเดือนและปีต่างหากที่ทำให้รูปแบบความรักเปลี่ยนจากหวือหวาวูบวาบแบบวัยหนุ่มสาว กลายมาเป็นความเข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกัน ดูแลซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าในชีวิตคู่จะไม่มีเรื่องโรแมนติกหวานแหววเลย บางคู่หัดเติมเรื่องโรแมนติกให้กันตลอดเวลาเลยกลายเป็นเครื่องชูรสในชีวิตคู่ มีเรื่องโรแมนติกบ้างย่อมดีกว่าไม่มีเสียเลย ไม่ใช่ว่าได้มาเป็นคู่ครองกันแล้วก็ละเลยไม่สนใจกันอีกต่อไปอยู่ด้วยกันเพราะหน้าที่ ถ้าเป็นแบบนั้นดูเหมือนคบหาสมัยแฟนดูมีชีวิตชีวามากกว่า
เมื่อก้าวเข้าสู่ชีวิตคู่และมีบุตร ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น ความรักในรูปแบบของความเป็นพ่อแม่ที่มีต่อลูกยิ่งใหญ่มาก นับตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์ ถ้าลูกเป็นผลพลอยได้ของความใคร่อย่างที่บางกลุ่มมอมเมาเยาวชนรุ่นใหม่ให้เชื่อตามเป็นจริง.... เมื่อเป็นผลพลอยได้ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ เลี้ยงตามมีตามเกิด ไม่ต้องห่วงใยดูแลสุขภาพในระหว่างตั้งครรภ์หรือทำแท้งในระหว่างทางก็ได้ แต่ความยากลำบากของมนุษย์แม่ที่พยายามอย่างเต็มที่ เสียสละ ดูแลห่วงใยบุตรในครรภ์อย่างดีที่สุดเพื่อให้คลอดออกมาเป็นมนุษย์ที่มีรูปร่างปกติสมบูรณ์ สิ่งที่ทำลงไปเป็นแค่หน้าที่หรือเป็นเพราะว่านี่คือความรักและความผูกพันที่มีต่อลูกซึ่งเป็นสายเลือดของมนุษย์แม่และมนุษย์พ่อ? อยากให้คิดและใคร่ครวญให้ดีอย่าสักแต่ว่าเชื่ออะไรกันง่ายๆ ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกยิ่งใหญ่แค่ไหน.... ลูกไม่น้อยอาจจะไม่เคยรู้ ช่วงที่เป็นทารกแบเบาะช่วยตนเองไม่ได้ ทั้งอึและฉี่เลอะไหลเรี่ยราด.... พ่อแม่รังเกียจที่จะเช็ดอึและฉี่ลูกไหม ตอนเจ็บป่วยไม่เป็นอันหลับเฝ้าดูแลลูกตลอดเวลาจนหายดี สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงทำตามหน้าที่หรือมีสามัญสำนึกและผูกพันกับลูกซึ่งเป็นสายเลือดตัวเอง ความรักในรูปแบบพ่อแม่ที่มีต่อลูกแตกต่างไปจากความรักที่เคยเกิดขึ้นในช่วงวัยก่อนหน้านั้น และความรักระหว่างพ่อแม่ลูกยังคงมีอยู่และตลอดไปนับแต่ลูกคนหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมา
วันวาเลนไทน์สำหรับหลายๆคนคือวันแสนเศร้าเพราะจะผ่านมากี่ปี ตนเองก็ยังไม่มีคู่เป็นตัวเป็นตนกับเขาเสียที ในขณะที่เพื่อนๆค่อยๆทะยอยมีคู่ ได้แต่งงานมีครอบครัวกันไปหมด ไม่อยากให้คนโสดคิดแบบนั้น.... เพราะแท้จริงชีวิตคู่หรือโสดต่างมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน มีคนเคยบอกว่าชีวิตแต่งงานคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า แปลว่า แท้จริงอาจจะไม่ได้สวยหรูเหมือนในละคร มีทั้งสุขทุกข์ระคนกัน การที่คนสองคนมาใช้ชีวิตด้วยกันไม่ง่ายเลยถ้าไม่เข้าใจกัน ตามลำพังแค่รักกันอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอสำหรับชีวิตคู่ ถ้าเข้าใจกัน.... เวลาเกิดปัญหากระทบกระทั่งกัน... จะมองข้ามเรื่องปลีกย่อยและให้อภัยกันได้ และพร้อมจะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน แต่ถ้ายึดติดกับตัวตน ไม่ยอมให้อภัยและคิดว่าตนเองถูกเสมอ สุดท้ายก็ไปไม่รอดเพราะไม่มีใครยอมเป็นฝ่ายผิดฝ่ายเดียว
ความรักในรูปแบบที่เป็นความหวังดีช่วยเหลือต่อกัน โดยไม่ต้องการครอบครอง รูปแบบนี้ไม่เป็นทุกข์ แม้จะไม่สมหวัง ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน แต่สุขใจที่ได้ช่วยเหลือ ห่วงใย แค่ได้นึกถึงเรื่องราวดีๆที่เคยเกิดขึ้นในอดีตร่วมกันและทราบข่าวดีที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขาก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย
ความรักตามนิยามของกฤษณะ มูระติ คือ การไม่โกรธ ให้อภัยได้ตลอดเวลา พร้อมยินดีจะช่วยเหลือ มีความสุขที่ได้เห็นคนที่รักมีความสุข นิยามความรักแบบนี้เข้าท่านะ เพราะรักแบบนี้... ไม่ว่าจะรักใครสักกี่คนก็ไม่เจ็บปวด เพราะเป็นรักที่ไม่ต้องการครอบครองแต่เป็นรักที่พร้อมจะเสียสละและมีความสุขเมื่อทำให้คนที่รักมีความสุขได้
สำหรับคนที่กำลังค้นหาความรักครั้งใหม่.... บทความในวันวาเลนไทน์ปีนี้อาจจะทำให้คุณเริ่มต้นความรักอย่างมีสติและไม่เป็นทุกข์กับความรัก สำหรับคนที่มีความรักอยู่แล้วขอให้สมหวังและรักกันด้วยความเข้าใจและหวังดีต่อกัน
โฆษณา