14 ก.พ. 2021 เวลา 07:53 • ดนตรี เพลง
🌹 ตำนานรักดอกกุหลาบ 🌷
ก่อนอื่นต้อง Happy Valentine day นะคะ
หลังจากที่ลงบทความ ตำนานรักดอกทานตะวัน และตำนานรักดอกบัว มาแล้ว คราวนี้จะเป็นดอกไม้ในตำนานแห่งความรักที่เลื่องชื่อที่สุด คือ
🌹ตำนานรักดอกกุหลาบ🌷
วันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ พอดี เชื่อว่าคงมีบทความเกี่ยวกับความรักและเรื่องราวของดอกกุหลาบ ซึ่งชาวโรมัน-กรีกโบราณ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและโรแมนติก ลงมากพอสมควรใน BD
สาว(เหลือ)น้อย ขอนำตำนานดอกกุหลาบของ
ชาวโรมันมาเล่าอีกครั้งพอสังเขป นะคะ
ตำนานเขาว่า ดอกกุหลาบเป็นตัวแทนกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงามและความรัก เทพธิดาวีนัส มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า อโฟร์ไดท์ ซึ่งได้หลั่งน้ำตาให้ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าขวิดตาย
อคอนิส นี่เป็นหนุ่มหล่อขั้นเทพเลยค่ะ แต่ตายง่ายแท้ดันพ่ายแพ้แก่น้องหมูเสียได้ เสียด๊ายเสียดายความหล่อ เลือดและน้ำตาของเทพธิดาวีนัสที่หยาดหยดลงสู่พื้นปฐพีได้กลายมาเป็นดอกไม้สีแดงเข้ม หรือ
ดอกกุหลาบ...นั่นเอง
🥀 ตำนานรักดอกกุหลาบของไทย นั้นเกิดจาก
พระราชนิพนธ์ บทละครพูดที่เป็นคำฉันท์ เรื่องเยี่ยมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 บทละครคำฉันท์ เรื่องนี้ก็ คือ เรื่อง " มัทนะพาธา "
👼 ภาคสวรรค์ :ในอดีตสุเทษณ์เทพบุตร เป็นกษัตริย์ครองแคว้นปัญจาล ได้ไปสู่ขอพระธิดามัทนาแห่งแคว้นสุราษฎร์ แต่ท้าวสุราษฎร์ พระบิดาของนางไม่ยอมยกให้ สุเทษณ์จึงยกทัพไปทำลายบ้านเมืองของท้าวสุราษฎร์เสียสิ้น และจะประหารท้าวสุราษฎร์ แต่นางมัทนาของชีวิตพระบิดาไว้ โดยยอมตนเป็นบาทบริจาริกาของสุเทษณ์ (ตัวโกงชัดๆ) เมื่อพระบิดารอดชีวิต นางกลับชิงฆ่าตัวตาย แล้วไปเกิดเป็นเทพธิดาบนสวรรค์ สุเทษณ์ก็ฆ่าตัวตายตาม ไปเกิดบนสวรรค์ด้วย แต่กระนั้น นางมัทนาก็ยังไม่มีใจรักสุเทษณ์เทพบุตร เช่นเดิม
เมื่อไม่ได้รับรักตอบสุเทษณ์ก็สาปมัทนาไปเกิดยังโลกมนุษย์ โดยให้นางเลือกว่าจะเกิดเป็นอะไร นางจึงขอไปเกิดเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและมีประโยชน์ นั่นก็คือ ดอกกุพุชะกะ หรือดอกกุหลาบ นั่นเอง โดยนางจะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้เพียงคืนเพ็ญเท่านั้น
🌍 ภาคโลกมนุษย์ : นางมัทนา ได้มาเกิดเป็นดอกกุหลาบในป่าหิมาวัน พระฤาษีได้นำนางมาปลูกไว้ใกล้อาศรม คืนวันเพ็ญนางได้กลายร่างเป็นมนุษย์และคอยรับใช้ท่านฤาษี วันหนึ่งท้าวชัยเสนแห่งนครหัสดิน ได้เสด็จประพาสมาถึงอาศรมตรงกับคืนเพ็ญ พบนางมัทนาในร่างมนุษย์สุดโสภา ก็หลงรักมัทนาในทันใด
พระฤาษีไซร้ ไม่รอช้าจัดงานวิวาห์ให้ท้าวชัยเสนและมัทนา แล้วจึงพากันกลับหัสดินนคร
🕌 ณ หัสดินนคร ที่นั่นมัทนากลับพบว่า ท้าวชัยเสนมีพระมเหสี นามนางจัณฑี อยู่ก่อนแล้ว และนางจัณฑี ก็ทั้งหึงหวง และอิจฉาริษยา นางมัทนาอย่างมาก ทำอุบายให้ท้าวชัยเสนเข้าใจผิดคิดว่า นางมัทนาเป็นชู้กับทหารเอก ท้าวชัยเสนจึงสั่งประหารมัทนา (พระเอกของไทยทำไมหูเบาเกือบทุกเรื่อง) แต่ทหารสงสารจึงปล่อยนางไป
💔 นางมัทนากลับมายังอาศรม และวิงวอนให้สุเทษณ์เทพบุตรช่วย สุเทษณ์ได้ขอความรักนางอีกครั้ง เฮ้อ! ท่านสุเทษณ์ คงคิดว่า " ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก" แต่นางมัทนา ก็ยังรักมั่นคงต่อองค์ชัยเสนไม่เปลี่ยนแปลง จึงตอบไปว่า "I don't agree" อีกครั้ง ไม่ว่าภาคสวรรค์หรือ ภาคพื้นดิน สุเทษณ์ก็ไม่เคยได้รักจากนาง ฉะนั้นเจ้ามัทนาข้าขอสาปเจ้าให้เป็นดอกกุหลาบไป
ตลอดกาล 💔 🥀
คำฉันท์บทหนึ่งจากบทละครมัทนะพาธาที่นิยมนำมาเปรียบเปรยความรัก คือ
ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล อุปะสัคคะใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
มาถึงตรงนี้พลันให้นึกถึงเพลง "บุพเพสันนิวาส" แต่หาใช่เวอร์ชั่น ท่านหมื่นเดช แม่การะเกด นะเจ้าคะ เป็นบุพเพสันนิวาส ยุคสุนทราภรณ์ค่ะ มีเนื้อร้องตอนนึงว่า
...รักเหมือนโคถึก ที่คึกพิโรธ
ความรักเช่นนั้นให้โทษ
จะไปโกรธ โทษรักไม่ได้
...ไม่ใช่บุพเพสันนิวาส แน่ไซร้
รักจึงได้แรมรา
แต่บทเพลงประกอบบทความตำนานรักดอกกุหลาบ เรื่องมัทนะพาธา คือ เพลงกุหลาบสีแดง ซึ่งเป็นคนละเพลงกับกุหลาบแดง ที่คุณไก่ พรรณนิภา ร้องและสาว(เหลือ)น้อย เคยทำวิดิโอประกอบไปแล้วนะคะ
🎵 เพลง กุหลาบสีแดง เพลงนี้เป็นเพลงยุค 90 ที่ร้องโดยนักร้องชาย ค่าย RS ที่ว่าเสียงร้องเหมือนอมลูกอมฮอลล์ไว้ แฮ่ ! สาว(เหลือ)น้อย ขอข้ามชื่อนักร้องนะคะ...คริคริ...เด่ว...เป็นประเด็นการเมือง...เนื้อเพลงกับทำนองไพเราะ นะคะ ท่านที่เกิดยุค 90 คงเคยได้ยิน
บทสรุป 🌹 ก่อนฟังเพลงประกอบ ตำนานดอกกุหลาบ
เรื่องมัทนะพาธา คือ เรื่องราวความเจ็บปวด ความเดือดร้อนเพราะความรัก แต่อย่างไร วันนี้สาว(เหลือ)น้อยก็ขอให้ท่านมีความรักดีดีเข้ามาในชีวิต นะคะ Happy Valentine Day ค่ะ
โฆษณา