14 ก.พ. 2021 เวลา 13:01 • คริปโทเคอร์เรนซี
อีพี.5
Top 10 Cryptocurrency
Top 10 Cryptocurrency
10 อันดับเหรียญสกุลเงินดิจิตอล บางคนพอเดาออกได้บางแล้วว่ามีเหรียญใดบ้าง ตรงใจกับที่เราถือกันอยู่ด้วยหรือเปล่านั้นมาติดตามกันครับ
อ้างอิงจาก CoinMarketCap วันที่ 14-02-2564
อันดับที่ 1 Bitcoin (BTC)
คงหนีไม่พ้นเจ้าพ่อเหรียญ อย่างบิตคอยไม่ได้แล้วครับ ด้วยราคาและปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงมากขึ้นทุกวัน
อันดับที่ 2 Ethereum (ETH)
เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัล (Cyptocurrency) ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ทำงานอยู่เบื้องหลัง เช่นเดียวกับอีกหลาย ๆ สกุลเงิน ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดย Vitalik Buterin เด็กหนุ่มอัจฉริยะชาวรัสเซีย ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยอยู่ในทีมพัฒนาของ Bitcoin ก่อนจะแยกตัวออกมาสร้าง Ethereum ในปี 2013 ช่วงที่ผ่านมา
อันดับที่ 3 USDT
USDT หรือ United States Dollar Tether เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ “ผูก” กับดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัท Tether ระบุว่า 1 USDT มีมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ Tether ถูกจัดกลุ่มเป็นคริปโตเคอเรนซี่ประเภทใหม่ เรียกว่า "Stablecoins" ซึ่ง Stablecoins ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดช่องว่างระหว่างสกุลเงิน fiat และ สกุลเงินดิจิทัล โดยการนำเสนอราคาที่คงที่ และเทียบเท่ากับเหรียญหรือโทเค็น
อันดับที่ 4 XRP
XRP เป็นเงินและสินทรัพย์ดิจิตอลสำหรับการชำระเงินแบบ Peer-to-Peer บน Open-Source Blockchain ซึ่งใช้ Public Ledger (XRP Ledger) หลายคนอาจสับสนระหว่าง XRP และ Ripple ซึ่ง Ripple คือ เครือข่าย Private/Consortium Blockchain สำหรับการชำระเงินของสถาบันการเงินที่ใช้ XRP เป็นสกุลเงินตัวกลางหรือสะพาน (Bridge Currency) ในการทำธุรกรรมข้ามสกุลเงิน (รวมถึง Bitcoin ด้วย) โดยสรุปคือ Ripple และ XRP ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน แต่ XRP ที่เทรดกันในตลาดนั้นไม่ได้ใช้ระบบเครือข่ายร่วมกับสถาบันการเงินที่ใช้หรือมี Ripple เป็นเจ้าของแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามแม้จะมีความพยายามเพิ่มจำนวน Validator เพื่อให้ XRP มีความเป็น Decentralized มากขึ้น แต่ธุรกรรมก็สามารถถูก Freeze ได้ที่ปลายทางเมื่อเงินที่โอนนั้นถูกแลกเปลี่ยนเป็นสกุลอื่นที่ไม่ใช่ XRP หากพบว่าธุรกรรมนั้นน่าสงสัย
อันดับที่ 5 Cardano (ADA)
Cardano คือ แพลตฟอร์มสมาร์ทคอนแทรคท์ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2015 เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงและพัฒนา Cryptocurrency ให้มีรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม
ทางผู้พัฒนากล่าวว่า Cardano เป็นบล็อกเชนเจเนอเรชันที่ 3 ที่ระบุและแก้ไขปัญหาหลักๆ ที่เกิดขึ้นในบล็อกเชนยุคก่อนๆ ซึ่งประกอบไปด้วย ความสามารถในการเพิ่มขยาย (Scalability), ความสามารถในการทำงานร่วมกัน (Interoperability) และ ความยั่งยืน (Sustainability) ผ่านสถาปัตยกรรมแบบเป็นลำดับชั้น (layered architecture)
อันดับที่ 6 Polkadot (DOT)
เหรียญ DOT ก็คือเหรียญคริปโตที่เป็นของเครือข่าย Polkadot ซึ่งตัวเหรียญจะมีบทบาทสำคัญกับเครือข่ายอยู่ 3 อย่างด้วยกัน
1. Governance มอบสิทธิ์ในการควบคุมเครือข่าย — ผู้ที่ถือครองเหรียญ DOT จะได้รับสิทธิ์ในการออกเสียงเพื่อกำหนดทิศทางสำหรับการพัฒนาเครือข่าย
2. Staking ปักเหรียญในระบบเพื่อร่วมเป็นผู้ตรวจสอบ — ผู้ถือครองเหรียญ DOT จะสามารถเลือกได้ว่าจะปักเหรียญ DOT จำนวนหนึ่งไว้ในระบบหรือที่เรียกว่า Staking เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลหรือ Validator ให้กับเครือข่าย ซึ่ง Validator ที่ทำหน้าที่ได้ดีก็จะได้รับเหรียญ DOT ตอบแทน ในทางกลับกันผู้ตรวจสอบที่ทุจริตหรือละเลยหน้าที่ก็อาจถูกระบบยึดเหรียญไป
3. Bonding เชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกัน — เครือข่ายบล็อกเชนที่ต้องการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย Relay Chain ผ่านระบบ Bridge จะต้องทำการฝากเหรียญ DOT เข้าไปในเครือข่ายจำนวนหนึ่งเพื่อที่จะสามารถ Bonding หรือประสานเครือข่ายเข้าด้วยกันได้
อันดับที่ 7 Binance's (BNB) Token
เหรียญ BNB นั้นเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงในในระบบของกระดานเทรดชื่อดังระดับโลก “Binance” หรืออีกนัยหนึ่ง BNB คือสกุลเงินดิจิทัลในห่วงโซ่ของ Binance นั่นเอง โดยเหรียญ BNB สามารถนำไปใช้ได้ดังนี้
• สามารถใช้เหรียญ BNB ในการจ่ายค่าธรรมเนียมบนกระดานเทรดของ Binanace
• สามารถใช้เหรียญในการแลกเปลี่ยนหรือซื้อ “โทเค็น” ที่จะมีการลิสต์ขายในกระดานเทรดของ Binance ได้
• สามารถนำไปซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าต่างๆ ที่มีการรับชำระเป็นเหรียญ BNB ซึ่งมีอยู่มากมาย
• ใช้เป็นค่าธรรมเนียมในกระดานเทรดของ Binance Decentralized Exchange
อันดับที่ 8 litecoin (LTC)
ไลท์คอยน์ (Litecoin) เป็นเหรียญทางเลือก (Alt coin) เหรียญแรกๆ ที่แตกออกมาจาก Bitcoin ในปี 2011 ไลท์คอยน์เป็นเงินดิจิตอลแบบ Peer to Peer ที่ใช้เล่มบัญชีสาธารณะ (Public Ledger) บนบล็อคเชนแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Blockchain) ซึ่งสามารถใช้ทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องอาศัยตัวกลางทางการเงินทำให้ค่าธุรกรรมต่ำมากจนแทบจะเป็นศูนย์ และทำให้มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานที่สูงเช่นเดียวกับ Bitcoin แต่มีความแตกต่างทางเทคนิคเล็กน้อยตรงที่มีการปรับเปลี่ยนอัลกอริทึมการทำงานให้รวดเร็วขึ้น ไลท์คอยน์สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ มือถือ และ Wirex VISA Card โดยมีกระเป๋าเงิน (Wallet) ทั้งแบบ Hardware, Desktop, Web Wallet และ Mobile App
อันดับที่ 9 CHAINLINK (LINK)
LINK เป็นเงินคริปโตใน ChainLink ซึ่งเป็นบริการฐานข้อมูล Oracle แบบกระจายศูนย์เจ้าแรกที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างข้อมูลธุรกิจกับ Blockchain โดยผู้ใช้งานสามารถดึงข้อมูลจาก Application Program Interfaces (APIs) บน Web หรือ Application อื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายฐานข้อมูลของ Oracle เพื่อนำเข้ามาใส่ใน Blockchain เพื่อนำไปสร้าง Smart Contract ใช้เป็นสัญญาซื้อขายหรือข้อตกลงทางธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จาก Blockchain ได้ คือ สามารถทำงานอย่างได้อย่างอัตโนมัติและปลอดภัย ไม่สามารถปลอมแปลงสัญญาหรือเบี้ยวสัญญาได้ และยังสามารถชำระเงินด้วย Cryptocurrency สกุลที่ต้องการได้
อันดับที่ 10 Bitcoin Cash (BCH)
Bitcoin Cash หรือเรียกชื่อสกุลเหรียญโดยย่อว่า BCH เป็นเหรียญสกุลดิจิทัลที่เกิดจากการ Hard Fork มาจากเหรียญ Bitcoin (BTC) โดยการ Hard Fork คือการแบ่งเครือข่าย และสร้าง Blockchain ขึ้นมาใหม่ที่แยกออกจากระบบของเหรียญ Bitcoin (BTC) นั่นเอง Blockchain ที่แยกออกมาใหม่เป็นการแยกออกมาจาก Blockchain ต้นฉบับของ Bitcoin (BTC) โดยรูปแบบของบล็อกจะมีลักษณะที่เหมือนกันต่างเพียงแค่ของ Bitcoin Cash จะมีการแยกเกิดขึ้นในภายหลังเพื่อแยกไปทั้งสองเครือข่ายที่อยู่อย่างอิสระ
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ Bitcoin Cash แตกต่างจากเหรียญ Bitcoin และแยกตัวออกมาจาก Bitcoin เนื่องจากช่วงหลังมานี้เหรียญ Bitcoin มีการทำธุรกรรมบนระบบ Blockchain ที่ค่อนข้างนานในการตรวจสอบ เนื่องมาจากขีดจำกัดของบล็อกที่มีขนาดเพียงแค่ 1 MB ในขณะที่ Bitcoin Cash ได้เพิ่มขนาดบล็อกเป็น 8 MB ทำให้สามารถประมวลผลในการตรวจสอบธุรกรรมได้เร็วกว่าเป็นหลายเท่า จึงทำให้ Bitcoin Cash (BCH) มีการชำระเงินเร็วขึ้นและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่านั่นเอง
อย่าลืมกดติดตาม กันด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา