15 ก.พ. 2021 เวลา 00:01 • ไลฟ์สไตล์
โลกเปลี่ยนไป เมื่อเธอเปลี่ยนแปลง...
พ่อบ้านหลายคนอาจกำลังคิดถึง... 'เมีย' 555... เรื่อง 'เมีย' เป็นแค่ subset ของเรื่องนี้ และมีเรื่องต้องคุยกันอีกยาวเพราะเมียอยู่เหนือตรรกะและกฎเกณฑ์ใดๆ... อิอิ
(วันก่อนมีคนส่งคลิปมา... เริ่มต้นกล่าวเหมือนปรัชญาว่า...
ผู้ชายที่พูดคำว่า 'ขอโทษ' เมื่อทำผิด คือ คนที่ซื่อสัตย์...
ผู้ชายที่พูดคำว่า 'ขอโทษ' เมื่อไม่แน่ใจว่าทำผิดหรือเปล่า คือ 'คนฉลาด'
และผู้ชายที่พูดคำว่า 'ขอโทษ' แม้ทำถูก คือ 'สามี')
เรากำลังจะมาพูดกันว่า เราจะเปลี่ยนโลกได้ยังไง...
เวลาพูดถึงนักการเมือง... บางคนคิดถึง การคอรัปชั่น
เวลาพูดถึงการผิดจริยธรรมหรือจรรยาบรรณ... หลายคนคิดถึง ครู หมอ...
เวลาพูดถึง การไร้จิตใจบริการ (service mind) หลายคนคิดถึงองค์กรที่ให้บริการประชาชน เช่น โรงพยาบาล สถานที่ราชการ...
เรามักมองเห็นข้อบกพร่องของเจ้านายเมื่อเราเป็นลูกน้อง...
แต่มักเห็นความบกพร่องของลูกน้อง เมื่อเราเป็นนาย...
เรามักหงุดหงิดกับเพื่อนร่วมงานที่คิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง...
เรามักรำคาญรถคันที่ขับอยู่ข้างหน้าว่า ขับยังไงกันวะ...
เรามักรำคาญเพื่อนบ้านหรือห้องข้างๆ ที่คอนโดที่ทำเสียงรบกวน...
คนเดียวที่เราไม่ค่อยถาม สงสัย หรือ หงุดหงิดเลยคือ ตัวเราเอง...
เราไม่เคยคิดว่า การหยิบฉวยของต่างๆ จากที่ทำงานมาใช้ส่วนตัว เป็นการคอรัปชั่นหรือเปล่า (เพราะมันนิดเดียวเอง)
เราไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราทำผิดจริยธรรมหรือจรรยาบรรณทั้งด้านอาชีพหรือสังคมหรือเปล่า...
เราไม่ค่อยถามตัวเองว่า เราได้ให้บริการคนอื่นๆ ได้สมกับหน้าที่ของเราหรือไม่... เพราะเจอแต่ลูกค้าที่มีปัญหา?
เราไม่ค่อยถามตัวเองว่า เราเป็นเจ้านายที่โอเคไหม เป็นลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานที่ได้เรื่องรึเปล่า...
เราไม่เคยสงสัยว่า รถคันที่ขับตามหลังเรา รู้สึกกับเรายังไง..
เราไม่เคยคิดสักนิดว่า เราได้สร้างปัญหาหรือความรำคาญให้เพื่อนบ้านหรือคนข้างห้องที่คอนโดบ้างมั้ย...
เพราะถ้าเป็นเรา... เรามักจะมีเหตุผลที่ตนเองยอมรับได้ว่า ทำไมเราถึงทำแบบนั้น และคนอื่นก็น่าจะเข้าใจได้...
เคยมีองค์กรนึงที่มีห้องสำหรับให้ลูกค้าได้เข้ามาบ่น ต่อว่าต่อขาน หรือสะท้อนกลับการบริการที่ได้รับ... ห้องนั้นทำกำแพงให้เป็นกระจกไว้รอบด้าน... พอลูกค้าเดินเข้ามาในห้องก็จะเห็นหน้าตัวเองก่อน... แล้วตกใจว่า โอ้โฮ หน้าเราขุ่นขนาดนั้นเลยเหรอ... พอเห็นหน้าและท่าทีของตนเอง ก็ได้สติและเบาลง..
เมื่อหลายเดือนก่อน เพิ่งมีคลิปส่งต่อกันในโซเชี่ยว ที่ครูบางคนที่ดูแลเด็กเล็ก ทำรุนแรงกับเด็กที่ไม่เชื่อฟัง... เมื่อพ่อแม่หรือใครต่อใครเห็นคลิป ก็โกรธมาก กระแสสังคมประณามโรงเรียนอย่างรุนแรง...
โดยส่วนตัวเชื่อว่า แม้แต่ตัวครูเอง เมื่อได้มาเห็นคลิปที่ตนเองกระทำต่อเด็กนักเรียน ก็ตกใจเหมือนกัน เพราะมันดูรุนแรง และก็เสียใจกับการกระทำของตนเอง...
ในการเตรียม present งานที่สำคัญๆ โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัย อาจารย์จะให้ผู้เรียนได้ซ้อมการนำเสนอและให้ feedback เพื่อปรับการนำเสนอให้ดีขึ้น บางทีต้องซ้อมกันสี่ห้ารอบ ก็ยังปรับไม่ค่อยจะได้... แต่พออัดวิดิโอให้ผู้นำเสนอได้เห็นตัวเองเท่านั้นแหละ... สามารถนำเสนอได้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา...
เช่นเดียวกัน เคยมีคนที่เห็นรูปถ่ายหรือวิดิโอคลิปของตนเองในบางอิริยาบท ถึงกับตกใจว่า เฮ้ย... ฉันทำหน้าดุขนาดนั้นเลยเหรอ... ท่าทางเอาเรื่องแบบนั้นเลยเหรอ... ชั้นเป็นอะไรไปเนี่ย (ในใจก็คิดว่า อ๋อ... เป็นปกติของเธอนั่นแหละ... 555)
เรื่องของเรื่องก็คือ... วันทั้งวันเรามองเห็นแต่คนอื่น มองเห็นข้อบกพร่อง นิสัย พฤติกรรม ท่าที น้ำเสียง... ของคนอื่นๆ แต่ไม่ค่อยได้เห็นตนเอง...
เสียงของตัวเองที่ได้ยิน ก็ไม่เหมือนที่คนอื่นได้ยิน... เพราะเวลาเราฟังเสียงตัวเองจากเครื่องบันทึกเสียง เรามักจะรู้สึกแปลกๆ ไม่คุ้น... บางทีก็ไม่ชอบ... (อาราย... เสียงฉันเป็นแบบนี้เหรอ...)
ถ้าเรามีวิธีที่ทำให้เห็นตัวเอง ได้ยินตัวเอง... เวลาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน ประชุม อภิปราย ดุด่าว่ากล่าว อารมณ์เสียใส่คนอื่น... ได้เห็นสีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง... ของตัวเอง เราคงจะสามารถปรับปรุงตัวเองได้อย่างรวดเร็วทีเดียว... บางที อาจทำให้เราเปลี่ยนการมองโลกและวิธีการตอบสนองต่อผู้อื่นได้ดีขึ้น...
เมื่อเราสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ทุกวัน โลกที่เราเห็นจึงอาจเปลี่ยนไปจากที่เราคิด...
แล้วจะทำไงถึงจะเห็นตัวเองทุกวัน?
คงไม่มีปัญญามานั่งอัดคลิป ดู CCTV ตัวเองทุกวัน...
จริงๆ ส่วนหนึ่งก็สามารถดูได้จากอากัปกิริยาของผู้คนรอบข้างที่สามารถสะท้อนตัวเราได้ทุกวันว่าเขารู้สึกกับเราอย่างไร...
คนส่วนใหญ่อยากอยู่ใกล้คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เป็นตัวของตัวเองได้ อยู่แล้วเย็นใจไม่ร้อนลน ไม่ต้องเขย่งอยู่ตลอดเวลา ไม่คอยถูกจับผิด อยู่แล้วไม่เหนื่อยเหมือนโดนดูดพลังออกไปตลอดเวลา... สามารถผ่อนคลาย รู้สึกปลอดภัยที่จะแสดงความรู้สึกได้ ได้รับความเข้าใจหรือโอกาสที่จะให้แก้ไขเมื่อทำผิดพลาด... ขอความช่วยเหลือได้ เปิดใจได้ ไม่ต้องแบกความรู้สึกของอีกฝ่ายหรือของตนเองไว้ตลอดเวลา...
อีกวิธีที่จะช่วยให้เราเห็นตนเองได้คือ ฝึกให้เห็นความคิด ความรู้สึก หรือ ได้ยินสิ่งที่ตนเองพูดบ่อยๆ...
เรื่องแบบนี้ก็เหมือนเล่นกีฬาแหละ ต้องฝึกถึงจะคล่องจนเป็นอัตโนมัติ... มีคนบอกว่า เวลาลงแข่งกีฬา... ต้องเล่นเป็นอัตโนมัติเลย เช่น จับลูกบาสได้ก็ส่งหรือชู้ตเลย ห้ามคิด ถ้าต้องคิดเมื่อไหร่ก็แพ้เมื่อนั้น...
การฝึกให้เห็นตัวเองก็เช่นกัน ต้องฝึกจนเป็น automatic คือพออารมณ์ขุ่นก็รู้สึกตัวทันทีว่า กำลังขุ่นอยู่นะ... พูดจารุนแรงเกรี้ยวกราด ก็รู้ตัวได้เร็ว... เพราะเมื่อเรารู้ตัว อารมณ์ขุ่นหรือความเกรี้ยวกราดก็จะหยุด...
ลองฝึกบ่อยๆ จะรู้ว่า โอ้โฮ เราเป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอ... ก็ไม่ต้องแปลกใจนะ เพราะยิ่งรู้ตัวบ่อยๆ นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่า เรากำลังดีขึ้น... โลกกำลังจะเปลี่ยนไป เพราะเราเริ่มเปลี่ยนแปลง...
#ChillChatAtWork
อย่าลืมกด Like & กด Follow (และตั้งค่าเป็น see first) เพื่อจะไม่พลาดเรื่องราวดีๆที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
โฆษณา