15 ก.พ. 2021 เวลา 14:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ผมเคยพูดถึง ARK Investment ไปครั้งนึงเมื่อเดือนที่แล้วว่าเป็น fund house ที่มาแรงมากในปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยผลตอบแทนที่กองเค้าทำได้ เลยยิ่งทำให้เป็น spotlight ในวงกว้างของนักลงทุนจากทั่วโลก แม้กระทั่งกองทุนของบลจ.ต่างๆเองก็ทยอยออกกองใหม่ที่เป็น feeder fund กับกอง ETF ของ ARK ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนต้นปีนี้
1
จากที่เคยเกริ่นไปรอบที่แล้วว่า โจทย์ที่ยากของ ARK ในวันนี้คือการที่ขนาดของกองโตเร็วมากเพราะมีคนเอาเงินมาให้ลงทุนเยอะมาก เค้าจะสามารถบริหารเพื่อให้ได้ performance ดีแบบปีที่แล้วได้ยังไง
เนื่องด้วยนโยบายของกอง ARK เองคือ thematic technology by sector ซึ่งเน้นหุ้นกลุ่มเทคขนาดกลางและเล็กที่เค้ามองว่ามีศักยภาพในการเติบโต
1
จุดนี้คือสิ่งที่ต่างจากกอง ETF ในตลาดที่มีขนาด fund size พอๆกัน หรือใหญ่กว่า ARK ในตอนนี้ที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น index fund คือลงในหุ้นจำนวนหลายตัวกว่า ARK มากและล้อไปกับดัชนีโดยรวม ไม่ว่าจะเป็น S&P500, NASDAQ หรือ Russell 2000 ทำให้สามารถรองรับ fund inflow ได้มากกว่า
1
นับตั้งแต่ต้นปี 2021 มา มีเงินจากทั่วโลกไหลเข้ามาในกอง U.S listed ETF ถึง $117.4 billion ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถึง 32% ตามกระแส everything rally
2
กอง ETF ของ ARK เองตอนนี้ก็ติด top 10 net inflow ในปีนี้มาถึง 3 กอง คือ ARKK, ARKW, ARKF ซึ่งทำให้ ARK มี asset under management (AUM) มากกว่ากอง ETF รายใหญ่ที่รู้จักกันมานานอย่าง VanEck, J.P. Morgan และ Proshare ซะอีก
ทีนี้ ลองเข้าไปดู % holding ในหุ้นแต่ละตัว จากทั้งหมด 160 ตัวรวมทุกกองของ ARK ณ ปัจจุบัน จะเห็นว่ามีถึง 29 ตัวที่ ARK มีสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทนั้นๆเกินกว่า 10% เรียกว่ากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไปแล้วในบริษัทเหล่านี้
1
ใครอยากดู full list ก็เข้าไปดูกันได้ที่ https://cathiesark.com/ark-funds-combined/complete-holdings
สิ่งนี้เองเปรียบเสมือนดาบสองคม โดยเฉพาะนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ copy trade หุ้นรายตัวที่ ARK ถืออยู่เพราะเชื่อว่าเค้า screen มาให้เราแล้ว มันต้องดีแน่ๆ
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า ARK เองคงไม่ไล่ซื้อหุ้นเหล่านี้เข้า port ไปเรื่อยๆจนมีสัดส่วน holding มากกว่านี้ไปอีก แต่จะหาโอกาสการสับเปลี่ยนออกไปที่หุ้นตัวใหม่ๆบ้าง แต่ก็คงไม่มากนัก เพราะการเลือกหุ้นของเค้าเองก็มีหลักการดูกิจการบริษัท ไม่ใช่จะซื้ออะไรก็ได้ตามเงินที่โอนเข้ามาให้
แต่การมีสัดส่วนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ขนาดนี้ในบริษัทเหล่านี้ เวลาที่ตลาดมีจังหวะ correction หรือปรับตัวลงแรง หากว่าคนที่ถือกองของ ARK แห่กันเทขายออก ARK เองก็ต้องเทขายหุ้นเหล่านี้ที่ตัวเองถืออยู่เช่นกัน แต่จะปล่อยออกได้เท่าที่ต้องการในเวลาอันสั้นโดยที่ไม่เสียราคาได้ยังไง
1
นั่นแปลว่าหุ้นเหล่านี้จะมีความผันผวนของราคามากกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดมากๆแน่นอนในจังหวะที่ตลาดเป็นขาลง จุดนี้คือสิ่งที่เราต้องระวัง
ขอยกตัวอย่างกอง ARKK เทียบกับ ETF ที่มีการลงทุนคล้ายๆกัน จะเห็นได้ว่า ทั้งค่าเบต้า และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) มีค่าสูงกว่า ซึ่งหมายความถึงความผันผวนมากกว่า ส่วนค่าแอลฟ่ากับ sharpe ratio เป็นตัวบอกว่า ARKK เองก็ผลตอบแทนต่อหน่วยความเสี่ยงมากกว่าเช่นกัน สรุปคือ high risk high return
ผมขออ้างอิง slide ของทาง finnomena ไว้หน่อย ว่ากองทุนในไทยตอนนี้มีกองไหนบ้างที่เป็น feeder fund ของ ARK ที่สัดส่วนเท่าไหร่ เผื่อว่าบางคนอาจจะเอาไปใช้พิจารณาในการกระจายความเสี่ยงออกไปบ้าง เผื่อใจไว้ในวันแย่ๆ เพราะตลาดหุ้นไม่ได้ขึ้นทุกวัน
1
ในทางตรงกันข้าม การคอย follow fund flow โดยหมั่นสังเกตว่ามีหุ้นใหม่ตัวไหนที่ ARK เริ่มซื้อเข้า port แล้วรีบกระโดดขึ้นรถแต่เนิ่นๆ ก็มีโอกาสจะทำกำไรได้มากจากหุ้นตัวนั้นๆเช่นกัน ลองเปิดกราฟดูของตัวเหล่านี้ดูก็ได้ครับว่ามันวิ่งกันขนาดไหนใน week ที่ผ่านมา
ลงทุนด้วยความระมัดระวังเสมอนะครับ
โฆษณา