15 ก.พ. 2021 เวลา 16:27 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Malcolm & Marie
(2021) - Directed by Sam Levinson
Malcolm & Marie เป็นหนังใหม่ใน Netflix ที่ดูจบไปล่าสุด ที่รู้สึกน่าดูเพราะถูกดึงดูดด้วยความเป็นภาพขาวดำ แล้วในใจก็จินตนาการว่าเรื่องนี้ต้องเป็นหนังแนวๆ ติสท์ๆ แบบ The Artist (2011) ที่เป็นหนังขาวดำเหมือนกัน แล้วก็พอดูพวกคำโปรย หรือเว็บที่มีรีวิวไปบ้างแล้วก็พอรู้ว่าต้องเป็นหนังที่ต้องตั้งใจดู เพราะทั้งเรื่องจะอัดแน่นไปด้วยบทสนทนาโต้ตอบที่ความพีค ความสนุกของมันจะอยู่ในทุกคำพูด ก่อนดูคือในใจนี่เก็บไปอยู่ในหมวดหมู่เดียวกันกับ Marriage Story, Before Sunrise สามภาค, Revolutionary Road แบบนั้นเลย คาดหวังไว้ค่อนข้างมากก่อนดู เพราะส่วนตัวชอบหนังแบบนี้ หนังที่พูดๆๆๆ พูดไปเยอะๆ แล้วให้มันสนุกด้วยคำพูด ความคิดของตัวละคร มันเรียลดี
Malcolm & Marie นี่ยาว 1 ชม. 46 นาที แล้วทั้งเรื่องนี่มีตัวละครสองตัวตามชื่อเรื่อง เท่านั้นเลย อ่ะว่าไปแล้ว หนังก็ยาวเนอะ ตัวละครสองตัว แล้วมันจะมีไรให้คุยกันได้ยาวขนาดนั้นว้ะ เรื่องย่อคือ Malcolm & Marie เพิ่งกลับมาถึงบ้านจากงานเปิดตัวภาพยนตร์ที่ Malcolm เป็นผู้กำกับ ซึ่งเสียงตอบรับในงานค่อนข้างดี Malcolm เลยเข้าบ้านมาด้วยความรู้สึกค่อนข้าง high and fin แล้วก็เตรียมตัวฉลองต่อกับ Marie ซึ่ง Marie นี่มู้ดไม่ไปตามผู้ชาย เข้าบ้านมาล้ะดูเงียบๆ คือสัมผัสได้ว่างอนไรบางอย่าง แต่ก็ยังทำ mac and cheese ให้ Malcolm กิน พอเริ่มคุยกัน เริ่มพูด สรุปสาเหตุที่ Marie moody ก็คือเพราะ Malcolm พูดกล่าวขอบคุณทุกคนที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ แต่คนเดียวที่ไม่ขอบคุณคือ Marie ซึ่งนางก็น้อยใจมาก จุดเริ่มต้นก็คือถูกละเลยความรู้สึก ว่า เห้ย กูเป็นแฟนมึงนี่ ไปงานเปิดตัวก็ไปด้วยกัน อยู่สนับสนุนกันมาตั้งแต่เริ่มสร้างหนัง จนสุดท้ายงานเปิดตัวประสบความสำเร็จ แต่ทำไมมึงไม่ขอบคุณกูอ่ะ แค่ Thank you คำเดียวก็ยังดี
อ่ะ ทั้งหมดเริ่มจากสาเหตุตรงนี้ เท่านี้เลย อ่าว แล้วหนังมันลากยาวไปได้ยังไงตั้งเกือบสองชั่วโมงนะ ก็ด้วยการที่ทั้งคู่ทะเลาะกันไปจ้า ทะเลาะกันไปทุกห้องที่มีอยู่ในบ้าน ตั้งแต่ตรงเตาแก๊ส และบาร์ในส่วนครัว ไปจนถึงโต๊ะกินข้าว ไปต่อที่ห้องน้ำตอนนั่งฉี่ ยาวมาถึงโซฟา ลากต่อไปถึงนอกบ้านตอนสูบบุหรี่ เสร็จแล้วเข้าไปทะเลาะกันต่อในห้องนอน ทะเลาะกันวนไปเกือบสองชั่วโมง แต่ไม่ใช่การที่ทะเลาะรุนแรง เป็นการที่แบบพอได้พูด ต่างฝ่ายเลยต่างพูดสิ่งที่ตัวเองรู้สึกออกมาจริงๆ พูดทำร้ายจิตใจกันต่างๆนาๆ แล้วผู้หญิงก็ดันอารมณ์ไม่มั่นคงอีก พอจะดีๆกัน เล้าโลมกันไปจนถึงกำลังจะมี sex กัน ผู้ชายดันปวดฉี่ หายไปฉี่แปปเดียว ออกมาผู้หญิงชวนทะเลาะต่อ เพราะว่าว่างสักสองนาที แล้วสมองดันฟุ้งซ่าน คิดมาก ชวนทะเลาะอีก ผู้ชายออกมา กำลังจะต่อ นี่ก็หดเลยคับ
แล้วก็โดยรวมคือเฉยๆ แต่ก็ยังดีที่ยังมี quotes มีบทสนทนาที่ยังโดนใจอยู่บ้าง ที่บอกว่าน่าเบื่อนี่คือ สัมผัสได้ถึงความไม่สมเหตุสมผลหลายอย่าง เช่น ตอนกลับมาจากงาน ถึงบ้านก็ตีหนึ่งแล้ว ยังจะชวนทะเลาะอะไรกันเยอะแยะ แบบต้องเอาชนะกันให้ได้ ทำไมอ่ะ ทำไมไม่ง่วงกันบ้าง แค่คิดว่าถ้าเป็นนี่ อาจจะยังไม่เคลียร์ แต่มันไม่ได้อ่ะ มันต้องนอน มันง่วง แล้วสีหน้านี่คือไม่มีใครเหนื่อย อิดโรยใดๆ ทั้งๆที่เวลาก็น่าจะผ่านไปจนตีสามแล้ว ยังคงดีเบท พูดจาเป็นเหตุเป็นผลกันอย่างเมามัน แล้วคือทะเลาะกันนี่เหนื่อยนะ ยิ่งทะเลาะกันแบบในเรื่องอ่ะ ที่ไม่ใช่อารมณ์ล้วนๆ แต่แบบกลั่นมาเป็นเหตุผลแล้วขั้นนึง ก็อยากให้เค้าทะเลาะกันที่ห้องเดียวพอ ห้องนั่งเล่นก็ได้ ดูจบนี่คือเห็น interior ทุกห้องครบ จบ เอาหนังเรื่องนี้ไปเป็นโฆษณาขายบ้านได้ อีกนิดตรงที่รู้สึกว่าผู้ชาย แกคบกับเค้ามา เค้าทำให้แกขนาดนี้ จนถึงวันที่สำเร็จ หนังเปิดตัว การลืมขอบคุณแฟน มันไม่ใช่อ่ะ มันไม่ควรลืมสิ มันดูตั้งใจจะไม่ขอบคุณเพราะ ego ตัวเองต่างหาก
Marie: All I wanted tonight was a “thank you”, Malcolm. That is it. That’s all. “Thank you, Marie. Thank you for loving me. Thank you for making my life better.”
Malcolm: I’m sorry. Thank you.
Marie: You’re welcome.
สรุปแล้วนั่นคือความเห็นส่วนตัว แต่ตอนดูคือชอบนะ ชอบคำพูดตอนเค้าเถียงกัน คือถ้าตัดเรื่องไม่สมเหตุสมผลพวกนั้นไป ก็ถือว่าไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่มีแอบคิดว่ามันไม่แนวพอ คือหนังดูดีขึ้น ด้วยการที่ภาพเป็นขาวดำ แต่ด้วยบทพูด ด้วยเรื่อง ถ้าเป็นสีปกติ จะดรอปลงกว่านี้เยอะมาก เหมือนกับว่าพยายามเอาความขาวดำ และบทสนทนาเยอะๆมาเป็นจุดเด่น แต่เทียบไม่ได้กับ Marriage Story หรือ Before Sunrise เลย
นี่ก็แนะนำสำหรับคนที่อยากลองดูหนังแนวนี้ ที่ต้องตั้งใจดู ดูจบใน one sitting ก็น่าสนใจ เหมาะกับคนที่อยากเข้าใจความสัมพันธ์มากขึ้นด้วย
Marie: But what it also makes me realize, the reason you don’t get jealous is because you don’t value that mystery, do you? The reason you don’t value it, the reason why you never wonder if you’re the best f*** I’ve ever had, or the most talented person I’ve ever been with, or the kindest, or the smartest, it’s because it is inconceivable to you that there is anybody on this planet that is more interesting than you are. Your lack of curiosity is merely an extension of your narcissism, your megalomania, your egotistical view of the world. And as a result of never doubting yourself, you never stopped to ask yourself, “How can I be a better partner?” You’re good. You are set. The man I’m looking at right now is as good as he’s going to get.
โฆษณา