15 ก.พ. 2021 เวลา 16:54 • บันเทิง
ผลงานการออกแบบของ อ.Katsushi Murakami ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการซูเปอร์ฮีโร่ของญี่ปุ่นมาตั้งแต่วัยหนุ่ม ในปี 1975 ถึงปัจจุบันเป็นที่จดจำของแฟนๆหลายต่อหลายรุ่น
เขาทำงานกับ Bandai มาตั้งแต่แรกเริ่มและมักจะมีส่วนร่วมในการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ให้กับโปรดัคชั่นของงานฮีโร่ดังๆหลายต่อหลายตัว ตั้งแต่ออกแบบคาแรคเตอร์ ยานพาหนะ อาวุธ และอื่นๆ ไปจนถึงขั้นตอนทำของเล่น
ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของการ์ตูนฮีโร่ยุคโชวะนั้นจะต้องรู้จักหุ่นเหล็ก (die-cast) Chogokin ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทPopyซึ่งต่อมากลายเป็นบริษัทลูกของ Bandai ในยุค60ที่การ์ตูน Super Robot กำลังรุ่งเรืองบริษัทPopyได้ลิขสิทธิ์สร้างของเล่นอย่างถูกต้องจากหลายบริษัทผู้สร้าง
Katsushi Murakami เรียกได้ว่าเป็นรุ่นบุกเบิกของช่างทำหุ่นเหล็ก Shogokin หรือหุ่น diecast นี่เอง เขาคิดค้นการประกอบหุ่นเหล็กขึ้นมาตามแบบของการ์ตูนยอดฮิตที่สามารถขยับแขนขยับขาและทำอย่างอื่นได้อีกมากมายจัดได้ว่าเป็นนวัตกรรมของเล่นหุ่นยนต์ในยุคนั้นเลยทีเดียว
ในยุคของการเปลี่ยนผ่านของ culture ปลายยุค 80 งานออกแบบคาแรคเตอร์ดีไซน์ของแต่ละงานในสมัยนี้จะไม่ได้เริ่มจากนักเขียนการ์ตูนนั่งวาดออกมาจนจบเล่ม ตีพิมพ์ แล้วถึงมีโปรดักส์อื่นๆต่อมาอีกต่อไปแล้วนะครับ จะต้องมีการวางแผนหลายๆด้าน แม้แต่รายละเอียดในรูปแบบของตัวละคร ขอยกตัวอย่างงานออกแบบ Kamen Riders Black ในยุค 80 ที่ไอ้มดแดงยุคเก่าขายไม่ได้กับเด็กรุ่นใหม่ ทีมงานจึงต้องมานั่งรวมหัวกันคิดในหลายๆมิติ ทั้งรูปแบบของตัวละคร ลวดลาย สีสัน แม้กระทั่งตัดผ้าพันคอสัญลักษณ์ของไอ้มดแดงออกไป ลองดูจากผลงานการสเก็ตภาพของ อ.Murakami จะเห็นการพัฒนาการจากแบบแรกที่นักเขียน Shotaro Ishinomori ร่างแบบออกมามาก
การพัฒนาแบบ Kamen Riders Black
งานของ อ.Murakami มีตั้งแต่หุ่นเหล็กหมายเลข 28, ขบวนการโกเรนเจอร์ (และขบวนการมนุษย์ไฟฟ้าต่อมาอีกหลายรุ่น), ตํารวจอวกาศเกียร์บัน, มาครอส ปราการเหล็ก, คาเม็นไรเดอร์แบล็ค, และอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน...แน่นอนว่าวัยรุ่นยุคโชวะอย่างเราไม่น่าจะพลาด😄
ผลงานของอาจารย์มีการเปลี่ยนผ่านมาหลายยุคสมัยตั้งแต่ปี 70-80-จนถึงปี 2000+ นับว่าเขามีความสามารถปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้คงดึงดูดตั้งแต่ เด็ก, วัยรุ่น, จนถึงวัยคนหนุ่มสาวได้ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ทั้งนี้เป็นที่ทราบดีว่าสังคมชาวญี่ปุ่นมีปริมาณการเพิ่มประชากรที่ลดน้อยลง นั้นก็หมายความว่าแนะชากรเด็กก็ลดน้อยลงขึ้นด้วย บริษัทโปรดักส์ชั่นอย่างBandaiก็ตระหนักในปัญหาใหญ่ข้อนี้ด้วย โปรดักส์และเนื้อเรื่องก็ต้องเติบโตตามวัย มีความซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม การออกแบบลายเส้น,สีสัน ต่างๆก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้ถูกจริตของคนGenใหม่ๆเช่นกัน
แต่ขณะเดียวกันดีไซน์ของ อ.Murakami ก็จัดใด้ว่ายังคงความเรียบง่ายชัดเจน แต่สวยงาม ไม่หวือหวาฟู่ฟ่า(over-design)เหมือนงานออกแบบรุ่นใหม่บางคน
Legend never dies..😊👍
ขอจบท้ายด้วยงานออกแบบของอาจารย์เล็กๆที่ผมชอบคือนาฬิกาที่แปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ได้ เริ่มรุ่นแรกทำจากพลาสติกทั้งตัวตั้งแต่ปี 88 ที่เรียกว่า Tokima Digirobo จนพัฒนามาจนเป็นรุ่นสำหรับผู้ใหญ่ที่ขนาดใหญ่และหนักขึ้น น่ารักน่าเอ็นดูนะครับ 😍😊
โฆษณา