VAR : Onside or Offside
ลูกนี้ล้ำหน้า / ไม่ล้ำหน้า ?
วันนี้ขอนอกเรื่อง Tactic ไปพูดถึงประเด็น Video Assistant Referee หรือ VAR กันซะหน่อยนะครับ
สืบเนื่องจากฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษตั้งแต่เปิดซีซั่นมาจนครึ่งค่อนฤดูกาลแล้ว ปัญหาการใช้ VAR มีให้ถกเถียงกันแทบจะทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินให้จุดโทษที่ง่ายเกินไป หรือการลากเส้นล้ำหน้าที่ตัดสินกันเพียงแค่ไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า VAR ไม่สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ โดย VAR จะใช้แค่ 4 กรณีเท่านั้นคือ
1. ได้ประตู หรือ ไม่ได้ประตู (ดูว่ามีการทำฟาวล์ก่อนมั๊ย / ฝ่ายรุกแฮนด์บอลมั๊ย / ล้ำหน้าก่อนมั๊ย)
2. ให้จุดโทษ หรือ ไม่ให้จุดโทษ
3. ใบแดงโดยตรง
4. เช็กว่าให้ใบเหลืองหรือใบแดงผิดคนหรือไม่
ข้อที่ 3 กับข้อที่ 4 ไม่ค่อยมีปัญหาให้ถกเถียงมากนัก ส่วนข้อที่ 2 จะมีปัญหาถกเถียงกันในเรื่องที่ว่า การสัมผัสมันรุนแรงถึงขั้นต้องให้จุดโทษหรือไม่ เพราะปัญหาที่เสียจุดโทษและเป็นประเด็น คือ แค่สะกิดเบาๆ ก็โดนแล้ว มองด้วยตาอาจไม่เห็น แต่พอเช็ก VAR แล้ว กลายเป็นจุดโทษทันที
กรณีที่เป็นประเด็นมากที่สุด คือ ข้อที่ 1 ที่เช็กว่าลูกที่ยิงเข้าไปนั้น สมควรได้ประตูหรือไม่ ซึ่งปัญหาส่วนมากมักจะเกี่ยวข้องกับการล้ำหน้าหรือไม่ล้ำหน้าของผู้เล่นฝ่ายรุก ผลการตัดสินที่ออกมา ไม่ว่าจะออกทางไหน ก็มักจะกลายเป็นที่วิพากย์วิจารณ์อยู่เสมอ
การตรวจสอบการล้ำหน้าของ VAR จะเริ่มจากการหยุดภาพจังหวะที่กำลังจะจ่ายบอลไปที่ตัวรุก (จังหวะแอสซิสต์) ก็จะทำการลากเส้นขึ้นมา 2 เส้น ระหว่างฝ่ายรับกับฝ่ายรุก เพื่อเช็กว่าล้ำหรือไม่ บางกรณีเส้นห่างกันเพียงไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น สร้างความหงุดหงิดใจให้กับโค้ช นักเตะ และแฟนบอลเป็นอย่างยิ่ง
เกิดเป็นคำถามถึงการลากเส้นของผู้ตัดสิน VAR นั้นลากตรงหรือไม่ ระยะห่างระหว่างล้ำหน้ากับไม่ล้ำหน้า ที่ต่างกันเพียงไม่กี่มิลลิเมตรนั้น ก็สร้างประเด็นให้ถกเถียงได้เสมอ ไม่ว่าสุดท้ายแล้วจะตัดสินให้ล้ำหรือไม่ล้ำก็ตาม
ต่อให้เราเชื่อได้ว่าผู้ตัดสินลากเส้นได้ตรงแล้วก็ตาม ก็จะเกิดคำถามตามมาอีกว่า แล้วจังหวะที่หยุดภาพเพื่อเช็กล้ำหน้านั้น หยุดจังหวะที่แม่นยำหรือไม่ ??? หยุดภาพตรงกับจังหวะที่บอลกำลังจะออกจากเท้าคนแอสซิสต์เป๊ะเลยมั๊ย ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางที่เราจะหยุดภาพได้พอดีขนาดนั้น ยังไงก็ต้องมีความคลาดเคลื่อนไม่มากก็น้อย
แม้ว่าจะหยุดภาพคลาดเคลื่อนไปไม่ถึงหลักวินาทีก็ตาม แต่ช่วงเสี้ยววินาทีนั้น ก็ส่งผลให้การตีเส้นเพื่อเช็กล้ำหน้าอาจมีความแตกต่างกันได้ ลองหลับตานึกภาพตามอีกทีนะครับ กรณีที่เส้นล้ำหน้าห่างกันเพียงไม่กี่มิลลิเมตรนั้น มันเกิดจากความคลาดเคลื่อนในการหยุดภาพหรือไม่ ถ้าหยุดเร็วกว่านี้สัก 0.5 วินาที ฝ่ายรุกก็อาจไม่ล้ำก็ได้
ปัญหานี้ทางลีกสูงสุดของประเทศเนเธอร์แลนด์ หรือที่เรียกว่า “เอเรอดีวีซี” ก็ได้มีการปรับวิธีการตีเส้นเพื่อเช็กล้ำหน้าใหม่ เพื่อให้การตัดสินลูกล้ำหน้าเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายมากขึ้น โดยเริ่มจากการยอมรับว่า มีความคลาดเคลื่อนในจังหวะการหยุดภาพ
เพื่อเช็กล้ำหน้า แม้ความคลาดเคลื่อนนั้นจะไม่ถึงวินาทีก็ตาม
จากนั้นจึงกำหนดขนาดของเส้น 2 เส้นที่จะตีลากเพื่อเปรียบเทียบว่าล้ำหรือไม่ล้ำ โดยให้แต่ละเส้นนั้นมีขนาด 5 เซนติเมตร หาก 2 เส้นของทั้งฝ่ายรุกและฝ่ายรับสัมผัสหรือซ้อนทับกัน ซึ่งหมายความว่าความคลาดเคลื่อนมันจะอยู่ที่ 10 เซนติเมตร VAR จะไม่ทำการแทรกแซงกับตัดสินของผู้ช่วยผู้ตัดสิน (ไลน์แมน)
หมายความว่า ถ้าเส้น 2 เส้นสัมผัสกันเมื่อไร ไม่ว่าจะเหลื่อมไปในทางล้ำหรือไม่ล้ำก็ไม่สนใจ ยึดตามธงของไลน์แมนว่ายกขึ้นมาหรือไม่ แต่ถ้าเส้นไม่สัมผัสกัน ก็ดูตามข้อเท็จจริง ถึงจะหักล้างผลการตัดสินของไลน์แมนได้
Source : https://www.sportbible.com/football/football-news-how-the-premier-league-could-use-eredivisie-system-to-solve-var-20201129
จะเห็นได้ว่าวิธีการของทาง “เอเรอดีวีซี” นั้น เริ่มจากการยอมรับในความคาดเคลื่อนนั้นก่อน จากนั้นระยะที่คลาดเคลื่อนที่เทคโนโลยีอย่าง VAR ตัดสินไม่ได้ ก็ให้ยึดตามสายตาของไลน์แมน จังหวะนั้นไลน์แมนเห็นว่าล้ำก็ยกธง ไม่เห็นว่าล้ำก็ไม่ยกธรง VAR ก็มาเช็กว่าเส้น 2 เส้นสัมผัสกันมั๊ย ถ้าสัมผัสก็ตัดสินตามนั้น ถ้าเส้นเกิดไม่สัมผัสกัน ก็ค่อยมาดูข้อเท็จจริง วิธีการนี้จะช่วยลดประเด็นการล้ำหน้าที่ตัดสินกันด้วยระยะไม่กี่มิลลิเมตรลงได้อย่างแน่นอน ไม่มากก็น้อยครับ
Source : https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-8876027/A-offside-solution-neednt-VAR-away-Premier-League-bid-change-controversial-line-system.html
ก็ต้องมาลุ้นดูว่าทางพรีเมียร์ลีกอังกฤษจะยอมรับวิธีการนี้หรือไม่ รวมทั้งทางฟีฟ่าเองด้วย ว่าจะปรับเปลี่ยนตรงนี้อย่างไร เพราะถ้าขืนยังใช้วิธีการเดิมๆ แบบนี้อีก รับรองได้เลยว่า VAR ที่ฟีฟ่าเคยวาดฝันว่าจะช่วยให้การตัดสินเป็นที่ยอมรับมากขึ้น จะกลับกลายเป็นว่า VAR เป็นตัวสร้างปัญหาเสียเอง ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว VAR อาจไม่ได้ผิดอะไร แต่อาจจะผิดที่วิธีการใช้งานของมัน ???
#tacticmania #วีเออาร์ #VAR #พรีเมียร์ลีก #tactic
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
