16 ก.พ. 2021 เวลา 06:08 • ปรัชญา
ว่าด้วยเรื่องของพ่อ 1
ชีวิตนี้เกิดมาก็เพิ่งเคยนอนเฝ้าคนป่วย บวชก็ได้บวชมาแล้ว มีโอกาสได้เห็นคนเจ็บคนตายมาก็มาก แต่ก็ไม่เคยรู้สึกหดหู่ใจเท่าครั้งนี้มาก่อน หรือเป็นเพราะว่าคนที่นอนป่วยอยู่ตอนนี้เป็นพ่อของเราเอง ผมนอนคิดอะไรต่ออะไรอยู่ตรงพื้นที่ข้างเตียงนอนของพ่อ พลางเอาท่อนแขนเกยหน้าผากอันเป็นท่าทางของคนที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
หรือว่านี่เป็นเรื่องปกติของโรงพยาบาล ที่จะมีแต่บรรยากาศอันชวนให้น่าอึดอัดอยู่เสมอ ทุกครั้งที่มองไปเห็นชายชราที่นั่งอยู่บนรถเข็น ก็ทำให้อดคิดถึงพ่อตัวเองไม่ได้ เราจะทำใจได้ไหมหากว่าวันหนึ่งคนต้องนั่งอยู่บนรถเข็นคือพ่อของเราเอง จะทำใจได้ไหมหากว่าคนที่เราเคารพรักต้องมานอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียง ความคิดแง่ลบต่างๆมากมายค่อยๆเรียงเข้ามาในหัวทีละลำดับๆ ขณะเดียวกันภาพเรื่องราวในอดีตก็ค่อยๆปรากฏขึ้นมาในหัวของผมเช่นกัน
เท่าที่จำความได้ก่อนที่พ่อจะป่วย ผมไม่เคยเห็นท่านเข้าโรงพยาบาลมาก่อน จำได้ในตอนที่ผมยังเด็กๆท่านเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์พ่วงพลิกคว่ำ ทำให้เจ็บที่หลังด้านขวาบน ทั้งที่ปวดจนทนแทบไม่ไหวก็ยังไม่ยอมไปโรงพยาบาล ใช้วิธีรักษาโดยการนอนบนเตียงยกสูงที่ปูทับด้วยใบหนาด แล้วก่อไฟไว้ข้างล่าง (คล้ายกับการอยู่ไฟของคนที่เพิ่งคลอดบุตร) ส่วนผมก็ทำหน้าที่ก่อไฟต้มน้ำร้อน เป็นอย่างนั้นอยู่หลายวันจนกระทั้งท่านหายดี นี่แหละความรั้นของพ่อ
ปกติแล้วพ่อเป็นคนรูปร่างเล็กแต่ทว่าปราดเปรียวและแข็งแรง ไม่ชอบการอยู่เฉยๆมักจะหานู้นนี่ทำอยู่ตลอดเวลา เช่นการตกแต่งต่อเติมบ้านหรือการทำเครื่องใช้ไม้สอยอะไรต่างๆในบ้านและก็ทำได้ดีเสียด้วยเพราะท่านเคยเป็นช่างไม้มาก่อน พ่อเป็นคนภาคอีสานที่มาแสวงหาโชคอยู่ทางใต้ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม เริ่มต้นด้วยการเป็นลูกเรือประมง ต่อมาก็ได้เป็นจุมโพ่ (พ่อครัวประจำเรือ) จนกระทั่งได้เปลื่ยนอาชีพมาเป็นคนงานประจำเรือดูดแร่ ในยุคที่การทำแร่ดีบุกยังคงรุ่งเรือง
ว่าด้วยเรื่องของพ่อ 1
โฆษณา