16 ก.พ. 2021 เวลา 07:30 • ไลฟ์สไตล์
📍อะไรบ้างที่เปลี่ยนไป?....เมื่อได้มาใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น
จากภาษา วัฒนธรรม การใช้ชีวิต และมุมมองที่เเตกต่างกัน ทำให้หลายๆอย่างในชีวิตเราเริ่มเปลี่ยนแปลง
....วันละ 7 ข้อ กับ 1 ปี 6 เดือน 🎉 (ตอนที่1)
#ตอนอยู่อยากกลับ #ตอนกลับอยากอยู่
....มันเป็นเช่นนี้แล 🤣
📍 ขอเริ่มต้นเกริ่นอีกรอบว่า การได้มาใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นของเรานั้น เกิดขึ้นมาจากการติดตาม เกาะแข้งเกาะขาสามีล้วนๆ เขาถูกส่งมาทำงานที่ญี่ปุ่น 1 ปีกับ 6 เดือน
ชีวิตเราก็เลยได้ย้ายมาปักหมุดกันอยู่ที่เมืองอิเกะดะ จังหวัดโอซาก้า ก้าก้าก้าก้า 🎉🎉🎉🎉🎉🎉
1
🙏🙏🙏 ณ โอกาสนี้ก็รวดขอขอบคุณสามี และบริษัทผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ที่ช่วยซัปพอร์ตให้เราได้ใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นกันอย่างสุขสบาย ตั้งแต่เริ่มเดินทาง แถมยังมีค่าเรียนให้ด้วย กราบบบบ 🙏🙏🙏
กลับมาเข้าเรื่องต่อ...
🏡 ณ ตอนนั้นที่เลือกบ้าน สามีก็เลือกให้ใกล้กับที่ทำงานมากที่สุด เพราะบริษัทมีกฏว่าไม่ให้ใช้รถ แม้กระทั่งรถจักรยาน สามีต้องเดินไปทำงานอย่างเดียว!!!!
ในฐานะเมียที่แสนดี แน่นอนอยู่แล้วที่เราจะต้องโอเค เดินลิ้นห้อยไปสถานีก็ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรจริงๆๆ!!!!!
แรกๆให้เดินเท่าไรก็ไม่เหนื่อยหรอก คนมันตื่นเต้นอ่ะ อยู่ไปนานๆเท่านั้นแหละ..เอออมันก็เดินไกลอยู่เนอะ 🙄
📍จบๆๆ และนี้ก็คือจุดเริ่มต้นของนิสัยที่เริ่มเปลี่ยนไปของเรา ทีละเล็กทีละน้อย จนเริ่มติดตัวมาถึงวันนี้บ้าง..
👉 การได้มาใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น ความคิดแรกๆก็แอบคิดว่าไม่เห็นจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไรเลย เราไม่ได้เป็นคนญี่ปุ่น เราก็ใช้ชีวิตตามปกติที่เราเคยทำไป วัฒนธรรมไทยกับญี่ปุ่นก็คงไม่ต่างกันมากมั้ง เขาคงเข้าใจเราได้
2
#แต่ไม่เลย!!
ทุกอย่างมันจะถูกปรับไปเองโดยอัตโนมัติ แบบที่เราไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีก็แบบ โอ้วว!! ชุดในตู้เสื้อผ้าฉันเต็มไปด้วยแนวแม่บ้านญี่ปุ่นไปหมดแล้ววว ฉันเป็นคนเดินเร็วขึ้นมากก 🤣
และแบบที่รู้ตัวว่าต้องปรับแน่ๆเลยก็มี เช่น เรื่องการแยกขยะ มารยาทในการถ่ายรูป และอื่นๆอีกมากมาย
📍จากภาษา วัฒนธรรม การใช้ชีวิต และมุมมองที่เเตกต่างกัน ทำให้หลายๆอย่างในชีวิตเราเริ่มเปลี่ยนแปลง
สิ่งที่เราได้เรียนรู้ และมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง
ไปดูกันค่ะ....
📍
1. นิสัยที่มาครั้งแรกต้องปรับเลยก็คือ "การแยกขยะ"
: เพราะถ้าเราไม่แยก ขยะเราก็จะไม่ถูกเก็บไปทิ้ง โดนแปะป้ายประจานด้วยว่าทำไมไม่แยก 🤣
ประเทศญี่ปุ่นมีกฎการทิ้งขยะที่เคร่งครัด ซึ่งแต่ละเขตเทศบาล ก็จะมีการแจกคู่มือการแยกทิ้งขยะที่ชัดเจน มีสีของถุงให้แยกทิ้ง มีวันให้แยกทิ้งตามประเภทของขยะ
อ๊ะๆ!! อย่าคิดเนียนทิ้งปนนะ เราเคยมาแล้ว นิสัยไม่ดีห้ามเลียนแบบ!! ด้วยความสงสัยเลยแอบดู เจ้าหน้าที่เขาก็มีตรวจสอบแหละ คือถ้าเขาสงสัยถุงไหนเขาก็จะเปิดดู หรือจับโยนๆ ดูว่ามีเสียงกระป๋องหรือแก้วปนมาในขยะประเภทที่วันนี้ต้องทิ้งไหม ถ้ามีก็ไม่ได้ไปต่อ👋
ทำให้เรามีนิสัยแยกขยะ ล้างขยะให้สะอาดก่อนทิ้ง ดึงแม้กระทั่งฉลากบนขวด มีวินัยทิ้งตามวันที่กำหนด และถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่สร้างขยะเลยค่าาา เพราะเด๋วลำบากชีวิต 🤣
2. นิสัยการเดินเร็ว และไม่ใส่รองเท้าแตะ
: ตั้งแต่มาอยู่ที่ญี่ปุ่น ก็ไม่เคยหยิบรองเท้าแตะออกมาใส่เดินออกนอกบ้านที่นั้นเลย อาจจะเป็นเพราะการที่ต้องเดินเยอะมากๆๆๆ จนต้องรักและถนอมเท้าให้ดีที่สุด และก็รู้สึกแปลกๆที่จะใส่ เพราะไม่เห็นมีใครใส่กัน ยิ่งถ้านั่งบนรถไฟสายที่ไม่มีนักท่องเที่ยว จะรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมาทันที ทุกคนแต่งตัวโทนเดียวกันหมด สีสุภาพ ไม่มีใครใส่รองเท้าแตะหลุดมาสักคน เราก็อาจจะโดดเด่นได้ 🤣
เรื่องการเดินเร็ว ง่ายๆเลยก็คือให้ทันรอบรถไฟ 🤣 เวลาเป็นสิ่งมีค่าสำหรับคนที่นี่มากๆค่ะ
3. นิสัยไม่เปิดเสียงโทรศัพท์ ไม่คุยโทรศัพท์บนรถไฟ
: เป็นเรื่องของมารยาท และความเป็นส่วนตัวของคนญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่นเรามักจะเจอป้ายเตือนอย่างสุภาพ เพื่อขอร้องเรื่องการพูดคุยโทรศัพท์บนรถไฟ เพราะเสียงพูดคุยของเรา อาจจะไปสร้างความรำคาญแก่ผู้อื่นได้
4. นิสัยการขออนุญาตก่อนถ่ายรูป และไม่ถ่ายติดหน้าคนอื่นแล้วโพสลงสื่อ ถ้าเขาไม่อนุญาต
และส่วนมากถ้าติดคนอื่นจริงๆก็จะเบลอหน้า
: เรื่องนี้สำคัญมากเลยนะคะ เพราะตอนอยู่ที่ไทย เราก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบถ่ายรูป และก็อาจจะมีถ่ายติดคนอื่นในที่สาธารณะบ้าง ซึ่งก็เคยคิดว่าคงไม่เป็นไร
📍 ที่นี่ผิดกฏหมายนะคะ โดนค่าปรับได้ ถ้าเขาไม่อนุญาต และเห็นเราเอาลงสื่อ เพราะญี่ปุ่นมีกฏหมายห้ามถ่ายภาพผู้อื่น ห้ามถ่ายรูปบุคคลแบบเจาะจง ที่ไม่ได้รับความยินยอม โทรศัพท์มือถือที่นี่จึงกดปิดเสียงเวลากดชัตเตอร์ไม่ได้ เพื่อป้องกันการโดนแอบถ่าย
ถ้าอยากถ่ายจริงๆ ลองขออนุญาติเขาก่อนนะคะ ด้วยประโยคที่ว่า
すみません。写真を撮ってもいいですか?
Sumimasen。Shashin o totte mo ii desu ka?
ขอโทษนะคะ/ครับ ขอถ่ายรูปได้ไหมคะ/ครับ
5. นิสัยการเช็คพยากรณ์อากาศ การแจ้งเตือนภัยพิบัติก่อนออกจากบ้าน
: พยากรณ์อากาศ และการแจ้งเตือนของประเทศญี่ปุ่น เป็นอะไรที่เป๊ะมากๆค่ะ บอกกันเป็นรายวัน รายชั่วโมง การแจ้งเตือนแผ่นดินไหว พายุ ดินถล่ม ก็เช่นกัน ถ้าสั่นเบาๆ แบบยังไม่แจ้งเตือนในโทรศัพท์ ก็ช้อปกันต่อไป..
เคยมีท้ายทายอยู่เหมือนกัน บอกว่าบ่ายโมงฝนจะตก โอ๊ยยย แดดเปรี้ยงขนาดนี้เอาที่ไหนมาตก ไม่พกหรอกร่ม หนัก!! 🤣 จบเลยจร้าาาา บ่ายโมงเป๊ะ เม็ดฝนลงมาทันที
เรื่องการดูพยากรณ์ ก็มีผลกับการแต่งตัวในแต่ละวัน ที่จะออกไปตะแล็ดแต๊ดแต๊ด้วยน้าาา
6. นิสัยการต่อคิว ไม่แซง การเดินแถวอย่างมีระเบียบ
: ไม่ว่าจะซื้อของ ขึ้นรถไฟ หรือว่าจะถามอะไรใคร ถ้ามีคนมาก่อนเรา เราก็จะต้องรอคิว สิ่งนี้คือสิ่งที่ติดมาเป็นนิสัยโดยอัตโนมัต แล้วคนญี่ปุ่นก็มีวินัยดีมาก มีความอดทนที่จะต่อกันได้อย่างมีระเบียบ
สิ่งนี้คือวัฒนธรรมในสังคมญี่ปุ่น ที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เป็นเด็กอนุบาล ว่าการแซงคิวนั้นเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ และคนที่แซงคิวคือคนที่ไม่มีคุณค่า เพราะเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ไม่รู้จักเกรงใจผู้อื่น..แล้วใครจะกล้าแซงล่ะเนอะ!🤭
7. ค้นพบทักษะการทำอาหาร หลายๆเมนูที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้ เพื่อตอบสนองตัวเองโดยเฉพาะ
#เรื่องกินเรื่องใหญ่🎉
: ก่อนที่จะมาอยู่ญี่ปุ่น เราไม่เคยทำอาหารกินเองเลย พูดได้เลยว่าทำไม่เป็น ผัก ปลา หมู เขาหั่นกันยังไงเหรอ ถึงขั้นนี้เลยทีเดียวววว!! เพื่อนบอกหนัก🤣
พอได้มาอยู่ ด้วยความที่ชอบกินอาหารไทยมากๆ จึงต้องทำกินเอง เอาว่ะ!! "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็อยู่ที่นั้น" 🤣 จนสุดท้ายก็ทำเป็นหลายเมนู ทั้งลูกชิ้น ปลากราย หมูยอ แกงสารพัด ทำมันกินเองให้หมด ประหยัด อร่อย เพราะทำเองต้องชมตัวเอง 🤭
🎉 ครบ 7 ข้อแล้ววววว ลงเยอะเด่วเบื่อเนอะ แฮร่..
รอมาติดตามด้วยกันต่อนะคะ กับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง และได้เรียนรู้เมื่อได้มาอยู่ญี่ปุ่น
🙏 ขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ได้แวะเข้ามาติดตามเรื่องราวของโบว์ ถ้าถูกใจฝากกดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ 💓
1
โฆษณา