16 ก.พ. 2021 เวลา 12:03 • ประวัติศาสตร์
เมื่อวานนี้กลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้ปล่อยภาพการระเบิดทำลายโบราณสถานในเมืองแพลไมรา ซึ่งพึ่งยึดได้จากการรบในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นับเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อนกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวฆ่าตัดหัวผู้อำนวยการฝ่ายโบราณสถานของเมืองแพลไมรา ซึ่งมีอายุ 83 ปี แล้วแขวนศพประจานไว้กับเสาหินต้นหนึ่ง
เมืองแพลไมราเป็นเมืองเก่าของซีเรีย และโบราณสถานที่ถูกระเบิดไปนี้ชื่อวิหารบาอัลชามิน เป็นมรดกโลกที่มีอายุถึงสองพันปี เป็นวิหารของศาสนาโบราณซึ่งไม่มีใครนับถือแล้ว
1
กลุ่มไอซิสอ้างว่าทำลายวิหารดังกล่าวเพราะเป็นของนอกรีต แต่ผมเห็นว่าเหตุผลที่แท้จริงก็เหมือนเหตุผลของกลุ่มก่อการร้ายทั่วๆไป คือจะต้องโจมตีจุดที่ละเอียดอ่อนที่สุด ทำเรื่องที่สร้างความเกลียดชังระหว่าง "พวกตัวเอง" กับ "คนนอก" ให้ได้มากที่สุดเพื่อกระจายความขัดแย้ง บีบบังคับให้คนที่เป็นกลางต้องเลือกข้าง และเสริมความแข็งแกร่งของพวกตนมากขึ้น
1
สิ่งที่ผู้นำไอซิสต้องการก็เหมือนกับที่ผู้มีอำนาจทั้งหลายต้องการ นั่นคือของหอมหวานที่เรียกว่า "ความเป็นใหญ่"
แต่ไหนแต่ไรมาในประวัติศาสตร์ ผู้ปกครองซึ่งเปลี่ยนมือกันมายึดพื้นที่หนึ่งๆ ล้วนล้มหายตายจาก ไม่มีใครคงอำนาจหรือแนวคิดของตนไว้ได้ตลอดกาลสักคนเดียว
แต่วัตถุโบราณทั้งหลายนั้นเป็นเครื่องเชื่อมโยงเรากับอดีต เป็นข้อมูลความรู้ให้เราได้ศึกษา เพื่อให้ได้รู้เห็นกว้างขวาง ลดทิฐิมานะ มีเข้าใจตนเองและคนอื่น นับเป็นสมบัติอันล้ำค่าของมนุษยชาติ
1
การรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ให้ลูกหลานนั้นยากเย็นนัก การทำลายมันลงกลับง่ายนิดเดียว เพียงอาศัยความอยากเด่น อยากใหญ่ของผู้มีอำนาจไม่กี่คนก็ทำได้แล้ว
หมายเหตุ : ลงครั้งแรก 26 สิงหาคม 2015 ใน facebook
::: ::: :::
สนใจอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา