17 ก.พ. 2021 เวลา 09:30 • ประวัติศาสตร์
ในขณะนี้สมรภูมิอีกแห่งที่กำลังจะเป็นจุดแตกหักของสงครามซีเรียคือสมรภูมิเมือง "อัลบับ"
เมืองดังกล่าวตกอยู่ใต้การปกครองของกลุ่มก่อการร้าย ISIS มานานแล้ว พิจารณาจากทรัพยากร มันไม่ใช่เมืองสำคัญมาก แต่พิจารณาจากทำเล มันกลับเป็นชัยภูมิที่กองกำลังใหญ่ของสงครามนี้ถึงสามฝ่ายไม่อาจปล่อยให้ตกอยู่ในมือฝ่ายตรงข้ามอย่างเด็ดขาด
1. พวกเคิร์ดต้องการเมืองนี้ เพราะจะเชื่อมเคิร์ดซีเรียฝั่งตะวันตก ตะวันออกเข้าด้วยกัน หากเชื่อมกันสำเร็จ เคิร์ดซีเรียจะเพิ่มศักยภาพในการตั้งประเทศอิสระของตนเอง และยังมีประโยชน์ให้เคิร์ดตุรกีเข้ามาใช้เป็นเส้นทางลำเลียงแนวชายแดน สามารถต่อสู้กู้เอกราชกับตุรกีได้ง่ายขึ้น
2. ตุรกีไม่อาจยอมให้เคิร์ดตุรกีแยกตัวเป็นเอกราชได้เด็ดขาด (หากเคิร์ดประกาศเอกราชสำเร็จ พื้นที่ประเทศตุรกีจะหายไปสักหนึ่งในสาม) แต่จะรบกับเคิร์ดซีเรียให้แตกหักก็ไม่สะดวก เพราะสวามิภักดิ์อเมริกาอยู่เหมือนกัน ตุรกีจึงร่วมกับกบฏซีเรียยกทัพเข้ามาตีเมืองนี้จาก ISIS และต้องตีให้แตกก่อนเคิร์ด เพื่อเป็นการปิดทางไม่ให้เคิร์ดเชื่อมกันได้ และยังช่วยในการยกพลเข้าแทรกแซงซีเรียในส่วนอื่นๆ ต่อไป
3. สำหรับ ISIS หลังจากถูกยึดเมืองชายแดนแล้ว เมืองอัลบับก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ทางยุทธศาสตร์เท่าไร แต่ยังมีความสำคัญทางจิตใจ
กล่าวคือใกล้ๆ เมืองอัลบับนั้นมีเมืองเล็กๆ เมืองนึงชื่อว่า "ดาบิก" ตามคำทำนายวันสิ้นโลกของอิสลาม เมืองนี้จะเป็นสมรภูมิแตกหักที่นักรบมุสลิมสู้ตัดสินกับนักรบครูเสดในสุดยอดอภิมหาสงครามแห่งความดีเลว หรือพูดง่ายๆ "อมาเกดอน"
ISIS หลงไหลในคำทำนายวันสิ้นโลกมากขนาดตั้งชื่อนิตยสารชวนเชื่อหลักของตนว่า "ดาบิก" ตามชื่อเมือง แม้ศัตรูที่มาครั้งนี้จะไม่ใช่นักรบครูเสด (จริงๆทั้งเคิร์ดทั้งตุรกีก็เป็นอิสลามเหมือนกัน) แต่ ISIS ไม่อาจเสียเมืองดาบิกได้เด็ดขาด เพราะจะทำให้เสียหน้า เสียขวัญ เสียความชอบธรรมลงอย่างใหญ่หลวง พวกสมุนจะหมดความเชื่อถือหันไปสวามิภักดิ์อัลเคดาแทน
...เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตาม...
รูปแนบ สีเขียวคือเคิร์ด, สีน้ำเงินคือกบฏซีเรีย + ตุรกี, สีดำคือ ISIS, สีแดงคือรัฐบาลซีเรีย
หมายเหตุ : ลงครั้งแรก 6 ตุลาคม 2016 facebook
::: ::: :::
สนใจอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา