..บางทีในสงครามก็มีความรัก...
มุสตาฟาได้พบกับโรโซลในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งและรู้สึกตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ เขาพยายามตามดูเธอทุกวันขณะเธอกำลังเดินทางไปโรงเรียน จนในที่สุดจึงรวบรวมความกล้าฝากเบอร์โทรศัพท์ให้เธอผ่านเพื่อนของทั้งสอง
มุสตาฟาดีใจมากเมื่อโรโซลโทรหาเขา แม้ตอนแรกเธอจะโทรมาเพื่อบอกว่าให้หยุดตามจ้องเธอได้แล้ว แต่มุสตาฟาก็สามารถใช้วาทศิลป์ และความเป็นนักกวีเข้าทำให้เธอประทับใจ
ทั้งสองจึงเริ่มทำความรู้จักกันทางโทรศัพท์จนรักกัน (ในสังคมอนุรักษ์นิยมของชาวอาหรับนั้น การจีบทำได้ประมาณนี้) กระทั่งพ่อแม่ของโรโซลมาพบว่าเธอคุยกับผู้ชาย จึงห้ามไม่ให้ติดต่อกันอีก
มุสตาฟาไม่ยอมแพ้ ได้พาแม่ของตนเองไปบ้านโรโซลเพื่อขอเชื่อมความสัมพันธ์ตามประเพณีอาหรับ แต่กลับถูกพ่อของโรโซลปฏิเสธทุกครั้ง เพราะเหตุผลว่าเขาบ้านจน
...ครั้นถึงปี 2014 เมืองโมซูลที่มุสตาฟากับโรโซลอาศัยอยู่ถูกพวก ISIS บุกยึด ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป...
สถานการณ์สงครามกลางเมืองที่ชีวิตคนปลิดปลิวราวใบไม้ร่วง ทำให้พ่อของโรโซลรู้สึกสิ้นหวัง และกลับคิดว่าหากลูกสาวจะต้องพบกับความไม่แน่นอนเพียงนี้ อย่างน้อยก็ขอให้เธอได้อยู่กับคนที่เธอรักดีกว่า คิดดังนั้นเขาจึงอนุญาตให้มุสตาฟากับโรโซลคบหากันได้
แม้มุสตาฟากับโรโซลจะสมหวังกัน แต่ชีวิตของทั้งคู่ก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ตามสภาพสงคราม ทำให้ตัดสินใจเลื่อนการแต่งงานออกไปเรื่อยๆ
พ่อของมุสตาฟาซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่ต้องสูญเสียอาชีพ และได้งานใหม่เป็นยามในมหาวิทยาลัยโมซูล เมื่อมหาวิทยาลัยถูกระเบิด เขาก็ไม่มีงานอีก ต้องขายสมบัติเก่าประทังชีวิตอย่างสิ้นหวัง
ทางด้านครอบครัวโรโซลนั้น โรโซลต้องสูญเสียพี่สาวไปเพราะเจ็บป่วย แต่ไม่สามารถรับการรักษาที่ดีได้ เพราะโรงพยาบาลถูกระเบิดไปมาก โรงพยาบาลที่เหลือก็ถูกจำกัดไว้สำหรับนักรบ ISIS ได้รักษาก่อน
ในที่สุดพ่อของโรโซลสามารถติดสินบนนักรบ ISIS ให้พาตนหลบหนีไปยังเมืองเคอร์คุกซึ่งอยู่ในการปกครองของพวกเคิร์ด โรโซลหัวใจแตกสลายแต่ก็จำต้องตามครอบครัวออกจากเมืองโดยหลบใต้รถขนเฟอร์นิเจอร์
ตอนแรกมุสตาฟายังสามารถติดต่อกับโรโซลทางโทรศัพท์ แต่เมื่อโทรศัพท์ถูก ISIS แบน ก็ต้องติดต่อกันทาง Facebook Chat และเมื่อสิ่งนั้นถูกตัดอีก ทั้งสองจึงติดต่อกันไม่ได้ สร้างความอนาทรร้อนใจเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้เห็นได้จากบันทึกของมุสตาฟา เมื่อเดือน ก.ค. 2016 ที่ว่า "ผมรู้สึกว่าความรักได้ฉีกผมเป็นเสี่ยงๆ เมื่อคิดถึงเธอ หัวใจผมก็เต้นแรง และชีวิตของผมก็จมลงสู่ความโศกเศร้าและน้ำตา ขอพระเจ้าโปรดช่วยผมด้วย..."
กระทั่งต้นปี 2017 โมซูลฝั่งตะวันออกซึ่งมุสตาฟาอาศัยอยู่ได้รับการปลดปล่อยโดยทหารอิรัก โทรศัพท์มือถือจึงกลับมาใช้ได้อีก
การติดต่อกันครั้งแรกในรอบเจ็ดเดือน ทำให้มุสตาฟากับโรโซลทราบว่าอีกฝ่ายปลอดภัย ยังความปลื้มปิติอย่างใหญ่หลวง
ตอนแรกมุสตาฟาพยายามเดินทางไปหาโรโซลผ่านเมืองเออร์บิลของเคิร์ด แต่ขออนุญาตไม่สำเร็จเพราะพวกเคิร์ดไม่ไว้ใจชาวอาหรับจากเมืองโมซูล ทำให้เขาต้องเดินทางอ้อมไปยังแบกแดก และต้องขออนุญาตในขั้นตอนที่ลำบากมากมายแต่ก็สามารถเข้าเมืองเคอร์คุกสำเร็จในที่สุด
ความพยายามของมุสตาฟาได้รับผลตอบแทนที่ดี ทั้งสองร้องไห้ทันทีเมื่อได้พบกันอีกครั้ง ต่างปฏิเสธที่จะพรากจากกันอีก
"ผมจะหางานทำ และสร้างครอบครัวขึ้นมาใหม่ ผมจะให้งานแต่งงานในฝันกับโรโซล" มุสตาฟากล่าว "มันจะต้องมีหนทาง เรารอดจาก ISIS มาแล้ว ไม่มีอะไรที่เราจะผ่านไปไม่ได้..."
หมายเหตุ : ลงครั้งแรก 9 กุมภาพันธ์ 2017 ใน facebook
::: ::: :::
สนใจอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat
และ youtube https://youtube.com/user/Apotalai
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
