18 ก.พ. 2021 เวลา 01:15 • ประวัติศาสตร์
*** ชีวิตพังเพราะ ISIS (2) ***
ต่อจากตอนที่แล้ว หลัง อิสลาม มิตัด ถูกสามีหลอกพามายังรัฐกาหลิบของ ISIS แล้ว สามีเธอได้ออกไปรบกับพวกเคิร์ด และถูกฆ่าตายตั้งแต่วันแรก ทิ้งให้มิตัดซึ่งกำลังตั้งครรภ์ต้องเผชิญกับอนาคตอันมืดมน
1
หลังสามีตายมิตัดได้ย้ายไปอยู่กับน้องชายสามีซึ่งมาสวามิภักดิ์ ISIS เหมือนกัน หากไม่นานน้องสามีก็ถูกฆ่าอีกคน คราวนี้พวก ISIS จึงส่งเธอไปอยู่บ้านพักแห่งหนึ่งจนเธอคลอดลูกชายชื่ออับดุลลาห์
2
ครั้นทัพเคิร์ดบุกเข้าใกล้เมืองที่มิตัดอยู่ พวก ISIS จึงแจ้งว่าเธอจะต้องแต่งงานกับนักรบ ISIS คนใดคนหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยของลูก และตัวเธอเอง และให้รีบหนีออกจากเมืองได้แล้ว
1
มิตัดจึงจำต้องแต่งงานกับเพื่อนชาวเยอรมันของสามี...
เธอกับสามีใหม่และลูกหนีไปเมืองมันบิจ แต่อย่างที่เรารู้ว่าเมืองมันบิจก็ถูกเคิร์ดตีแตกในเวลาต่อมา มิตัดจึงต้องหนีต่อไปยังเมืองรักกา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของพวก ISIS
เมื่อเป็นที่แน่ชัดแล้วว่ารัฐกาหลิบแห่งนี้ท่าจะสถาพรลำบาก ชาวต่างชาติหลายคนที่เคยลุ่มหลงมาสวามิภักดิ์ จับเนื้อจับตัวยังอุ่นๆ ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยอยากตายไปขึ้นสวรรค์แล้ว ต่างจึงพากันคิดหนี
พวก ISIS ป้องกันการหลบหนีดังกล่าว โดยพยายามไม่ให้ชาวต่างชาติมีโอกาสติดต่อกับชาวซีเรียท้องถิ่น เพราะชาวซีเรียสามารถเข้าถึงเครือข่ายลอบพาคนข้ามแดน มิตัดแจ้งว่าค่าใช้จ่ายในการหลบหนีนั้นอาจแพงถึง 150,000 บาทต่อหัว
1
มิตัดไม่กล้าหลบหนีในทันที เพราะฟังว่าคนที่คิดหนีจะถูกพรากลูก และต้องเข้าโรงเรียนสอนศาสนาหลักสูตรเคร่งครัดเป็นเวลานาน ขณะที่ชาวซีเรียก็ไม่ค่อยอยากช่วยเธอ เพราะหากถูกจับได้ว่าช่วยชาวต่างชาติหนี จะต้องโทษประหาร (ISIS ปฏิบัติต่อชาวต่างชาติดีกว่าคนทั้งถิ่น โดยให้เงิน และสิทธิพิเศษมากกว่า เพื่อดึงดูดให้ชาวต่างชาติมาสวามิภักดิ์ อย่างไรก็ตามนี่เป็นเหตุให้สมาชิก ISIS ฝ่ายซีเรีย และฝ่ายต่างชาติเกลียดกัน ถึงแก่รบกันเองเนืองๆ)
ด้านชีวิตครอบครัว มิตัดไม่ชอบสามีใหม่เพราะเขาไม่ยอมให้เธอออกจากบ้านเลย เธอจึงขอหย่ากับเขา
พวก ISIS ยังคงบังคับให้เธอแต่งงานครั้งที่สามกับนักรบสัญชาติอินเดีย คราวนี้มิตัดบอกว่าเขามีนิสัยสุภาพอ่อนโยน เธอจึงสามารถมอบความรักแก่เขาได้ และมีลูกสาวกันชื่อมัรยัม
แม้จะได้ครอบครัวที่ดีขึ้น แต่มิตัดก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว ทุกวันได้ยินแต่เสียงกระสุนของเคิร์ด และเสียงระเบิดของเครื่องบินอเมริกา มีคนบาดเจ็บล้มตาย ไฟฟ้าประปาก็ถูกตัดคราวละนานๆ มิตัดกล่าวว่าแม้ ISIS จะชอบโฆษณาชวนเชื่อถึงชีวิตในรักกาที่สนุกสนานดังสวนสวรรค์ แต่เธอคอนเฟิร์มว่าตอนนั้นรู้สึกเหมือนตกนรก
2
ในที่สุด ISIS ก็บังคับให้สามีคนที่สามของมิตัดไปป้องกันเมืองทับกาจากพวกเคิร์ด
1
...อย่างที่ผมเขียนเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองว่าทับกาถูกเคิร์ดตีแตกอย่างไร ก็นั่นแหละครับ สามีคนที่สามของมิตัด ไปป้องกันเมืองทับกาแป๊บเดียวก็ถูกเคิร์ดฆ่า...
การตายของสามีคนที่สามทำให้มิตัดตัดสินใจเด็ดเดี่ยวขายทรัพย์สินทั้งหมด ทุ่มเทจ้างชาวซีเรียให้พาเธอหนี
โชคดีที่พวก ISIS วุ่นวายไม่อาจป้องกันแน่นหนา ทำให้มิตัดและลูกสามารถหลบไปถึงเขตแดนของพวกเคิร์ดสำเร็จ
ที่นั่นทหารเคิร์ดซึ่งเคยสังหารสามีเธอตายไปสองคน ...ก็ช่วยเธอ...
มิตัดและลูกถูกส่งไปยังบ้านพักที่ปลอดภัย พวกเคิร์ดยังติดต่อสถานทูตโมร๊อกโกในเมืองเบรุตให้หาทางพาเธอกลับบ้าน (แต่ขณะที่เรื่องนี้เป็นข่าวสถานทูตยังมิได้ตอบมาอย่างไร)
มี CNN ไปทำข่าวของมิตัดทำให้เธอมีชื่อเสียงขึ้น บิดาของเธอพยายามวิ่งเต้นเอาเธอกลับประเทศ มิตัดก็อยากกลับ แต่กังวลว่าเพื่อนร่วมชาติจะไม่ไว้วางใจที่เธอไปมีลูกกับ พวก ISIS
ปัจจุบันอิสลาม มิตัดอายุเพียง 23 ปี เมื่อสามปีก่อนเธอยังเป็นหญิงสาวที่มีความฝันอยากเป็นแฟร์ชันดีไซเนอร์ แต่บัดนี้เธอต้องกลายเป็นแม่ม่าย มีลูกสองคน มีสามีมาแล้วสามคน บอบช้ำทั้งกายใจ ตกอยู่ในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่ทราบจะไปไหน ไม่ทราบอนาคต และมีตราบาปความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย ISIS ติดตัวไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
1
...บทเรียนของเรื่องนี้คือสิ่งใดกัน...
ภาพแนบ: มิตัด ในบ้านที่พวกเคิร์ดจัดหาให้
หมายเหตุ : ลงครั้งแรก 9 มิถุนายน 2017 ใน facebook
:: ::: :::
สนใจอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา