19 ก.พ. 2021 เวลา 02:09 • ความคิดเห็น

อลาภา ปรมาโรคา

ขอปรบมือให้มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ฯ ที่แบงค์ชาติเป็นเจ้าภาพอยู่ในขณะนี้ เจ้าหนี้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เจ้าหนี้ที่เป็นคนธรรมดาๆอย่างพวกเรา หลายคนก็ทุกข์ใจไม่แพ้ลูกหนี้ การตกอยู่ในฐานะเจ้าหนี้จำยอม ไม่ใช่เรื่องสนุกเลย
เพราะเจ็บมาเยอะ จึงขอแบ่งปันข้อคิดที่กลั่นจาก #น้ำตาเจ้าหนี้ ก่อนจะให้ใครยืมเงิน โปรดจงรู้ว่า รู้อะไรไม่สู้..รู้งี้
(1) พิจารณาระดับความสัมพันธ์
ผู้ยืมจะเป็นใคร ไม่สำคัญเท่า ความสัมพันธ์ระหว่างเราและผู้ที่มาขอยืม เช่น เพื่อน-เพื่อนของเพื่อน ญาติ-ญาติของญาติ คนรู้จัก-คนเคยรู้จัก ลูกน้อง นายเก่า เพื่อนร่วมงาน
หากเป็นเพื่อนที่ขาดการติดต่อไปนาน หากเป็นญาติที่ร้อยวันพันปีไม่เคยโผล่ศีรษะมาเจอ หรือเป็นลูกน้อง-เพื่อนร่วมงานที่ไลฟ์สไตล์อู้ฟู่หรูหราหมาเห่า เหล่านี้จง SAY NO ไปเลย
แต่หากพิจารณาแล้วว่า อยากจะรักษาความสัมพันธ์ต่อกันไว้ จงไปที่ข้อ (2)
(2) พิจารณาจำนวนเงิน
ในที่นี้ไม่ใช่จำนวนเงินที่เขาเอ่ยปากขอยืม แต่คือจำนวนเงินที่เราพร้อมทำใจว่าสูญ หากฐานะทางเศรษฐกิจของเราเอื้ออำนวย "การให้เปล่า โดยไม่หวังได้คืน" เป็นทางเลือกที่ดี ให้ในจำนวนที่เราสะดวกและเต็มใจ ทั้งนี้ต้องอย่าทำให้ผู้ยืมรู้สึกต้อยต่ำ ควรพูดจาภาษาดอกไม้ เพื่อ keep look แม่พระของเราไว้ เมื่อเขาได้เงินเราไปแล้ว จะหายไปจากชีวิตเราอีกสักครั้งก็คงไม่เป็นไร ขอแค่อย่าสรรเสริญกรูลับหลังก็พอ!!
คนส่วนใหญ่เมื่อเอ่ยปากขอยืม เขามักยกเหตุผลและความจำเป็นต่างๆนานา ดังนั้นการไม่รับรู้วัตถุประสงค์ในการขอยืม คือวิธีที่ทำให้เราไม่ลำบากใจที่จะปฏิเสธ แต่ถ้าเผลอตัวนั่งฟังไปแล้ว ก็จงคิดเสียว่า มันโกหก!! ฟังดูเหมือนคนใจดำ แต่หากมารู้ภายหลังว่า มันก็โกหกจริงๆนั่นแหละ ยิ่งทำให้เราผูกใจเจ็บ​ กลายเป็นหนี้กรรมผูกพันกันไปไม่จบสิ้น​ ยอมเป็นคนใจดำในชาตินี้ ดีกว่าติดหนี้ข้ามภพข้ามชาติ
(3) พิจารณากฏแห่งกรรม ถ้าให้ยืมแล้วไม่ได้คืน จงคิดดังนี้
  • ชาติปางก่อน เราคงเคยติดหนี้เขาไว้
  • เอาไปเถอะ แค่นี้กรูไม่ลำบาก
  • โพสต์ลอยๆในเฟส "กินอยู่อย่างหรู แล้วหนี้กรูล่ะ"
  • ท่องไว้ "เงินกรูเอง เพื่อนกรูเอง กรูโง่เอง"
#HowToSayNo
➡️ ขอคิดดูก่อน" เป็นคำที่ใช้บ่อยที่สุด แต่ถ้าเจอสายตื๊อ จะยืมให้ได้ เขาอาจถามเราต่อว่า "จะให้โทรมาเมื่อไหร่" เราก็ตอบไปว่า "อืมม์ แล้วจะโทรกลับไปละกัน" (แล้วก็บล็อคแม่มเลย)
➡️ ถามกลับไปทันทีว่า "จะคืนเมื่อไหร่" เงินก้อนนี้เราต้องใช้ในอีก 2-3 วัน จะคืนทันรึ
➡️ ถ้า acting ดี feeling ได้ ให้บลัฟกลับไปอย่างไว "กำลังจะโทรไปขอยืมพอดีเลย"
➡️ แทนที่จะพูดว่า "ไม่มี" ให้พูดว่า "ไม่สะดวก" (อันนี้จิตใจต้องแข็งแกร่งมากๆ)
➡️ อย่าพูดว่า "เงินไม่พอ" ไม่งั้นเขาอาจถามกลับมาว่า "มีเท่าไหร่ล่ะ"
➡️ ทำสัญญาเงินกู้ ให้เป็นเรื่องเป็นราว ติดอากรสแตมป์ด้วย หาพยานมาเซ็นรับรู้อย่างน้อยสองคน ไปทำสัญญากู้ยืมต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยิ่งดี ให้มันยากๆเข้าไว้
➡️ ถ้าเป็นแม่บ้านหรือคนงาน อย่าให้ยืมเด็ดขาด นอกจากหนี้จะสูญแล้วยังต้องลำบากหาแม่บ้านใหม่ เดือดร้อนกว่าสูญเงินซะอีก
➡️ ถ้าเป็นร้านค้าหรือบริการ เช่น ร้านซักรีดหรือครูสอนพิเศษ ให้ตกลงเป็นการเบิกจ่ายล่วงหน้า หรือ pre-paid และตัดจบในระยะเวลาอันสั้น
➡️ คนที่มายืมมักสาธยายยืดยาว หากฟังจนจบแล้วยังคิดไม่ออกว่าจะปฏิเสธยังไง ให้พูดว่า "อะไรนะ เล่าอีกที"
คำพระท่านว่า "การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มีอีกคำที่พระท่านไม่ได้ว่า..
การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
การมีลูกหนี้ เป็นโรคอันน่ารังเกียจ
โฆษณา