18 ก.พ. 2021 เวลา 15:46 • ปรัชญา
ว่าด้วยเรื่องของพ่อ 3
ผมยังนึกไปถึงวันแรกที่บ้านเราเดินทางไปถึงอาคารเย็นศิระซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตของวัดโคกนาว หลังจากตรวจวัดอุณหภูมิและจ่ายค่าที่พักเรียบร้อย ( 5บาท ต่อคนต่อคืน ) เจ้าหน้าที่ก็แนะนำกฏระเบียบอีกนิดหน่อยแล้วจึงบอกให้พวกเราขึ้นไปพักที่ชั้นสองของตัวตึก ซึ่งจัดเอาไว้เป็นล็อกๆ หนึ่งล็อกนอนสำหรับสองคน
ผมมองเห็นคนชราหญิงชายสองสามคนที่นอนอยู่ก่อนแล้ว สายตาของทุกคนเฉยชาและไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรมากนักกับการมาถึงของพวกเรา แน่ล่ะทุกคนย่อมรู้ดีว่าการมาที่นี่ไม่ใช่มาเที่ยว และผมก็เชื่อว่าถ้าไม่จำเป็นก็คงไม่มีใครอยากจะมา ผมเอนตัวลงนอนทับกระเป๋าเดินทางในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนพลางหยิบห่อขนมที่เจ้าหน้าที่แจกให้ขึ้นมาแกะกินอย่างเนือยๆ สายตาก็จับจ้องไปที่พ่อและแม่ที่กำลังจัดแจงหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าแล้วเตรียมที่จะอาบน้ำพักผ่อน ก่อนจะไปโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ต้องเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาตลอดระยะเวลา6ชั่วโมง
ผมรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อมีมือของนางพยาบาลมาสกิดที่แขนเพื่อให้ขยับตัวเนื่องจากข้างๆที่ผมนอนมีคนไข้คนใหม่ย้ายเข้ามา ผมลุกขึ้นนั่งสลึมสลือมือก็ควานหาโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อดูเวลา ตายล่ะหว่า เกือบจะห้าทุ่มเข้าไปแล้วนี่เราคิดอะไรเพลินๆจนเผลอหลังไปเลยเหรอเนื่ย ผมอุทานในใจ เหลือบขึ้นไปดูพ่อบนเตียงเห็นท่านกำลังหลับสนิทอยู่ก็รู้สึกโล่งใจ
ผมหันกลับไปมองเตียงข้างๆที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ เห็นเป็นชายชราอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับพ่อมีลูกสาวที่คงจะมานอนเฝ้าเช่นเดียวกับผม เห็นหล่อนมีสีหน้าเครียดๆก็เลยไม่กล้าทักทายออกไป ผมล้มตัวลงนอนที่พื้นข้างเตียงอีกครั้ง พยายามข่มตาให้หลับ แต่คราวนี้คงหลับไม่ลงอีกแล้ว ผมคิดอะไรออกไปเรื่อยเปื่อยอีกจนกระทั่งเรื่องราวในอดีตของพ่อค่อยๆปรากฎขึ้นมาในหัวของผมอีกครั้ง
ว่าด้วยเรื่องของพ่อ
โฆษณา