18 ก.พ. 2021 เวลา 16:28 • ธุรกิจ
Breaking!ตอนนี้ไม่ใช่แค่ Bitcoin เท่านั้นที่ทำ All time high ทะลุ 50,000 ดอลลาร์ แต่ Ethereum สกุลเงิน digital ที่มี Market Cap ในตลาด cryptocurrency ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกนั้นก็ได้ทำ New All time high ทะลุ 1,900 ดอลลาร์แล้ว!
1
ราคาจะไปในทางไหนต่อสำหรับ Ethereum? และเหล่านักวิเคราะห์นั้นมีความเห็นอย่างไร? วันนี้ชีวิตนักลงทุนจะมาเล่าให้ฟัง
ถือว่ามาแรงไม่แพ้ Bitcoin เลยจริงๆสำหรับสกุลเงิน digital อย่าง Ethereum เพราะหลังจากการเปิดตัว Ether future กับทาง CME ก็ทำให้ราคาของเหรียญ Ether นั้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ราคาของเหรียญ Ether ได้เพิ่มมาแล้วถึง 160% ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมาสูงมากเมื่อเทียบกับ Bitcoin ตอนที่เพิ่งเปิดตัว futures กับทาง CMEในปี 2017 โดย ณ ตอนนั้น Bitcoin มีราคาพุ่งขึ้นมา 78% เลยทีเดียว ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าที่ราคาของ Ether พุ่งขึ้นนั้นส่วนนึงก็เป็นเพราะว่าราคาของ Bitcoin นั้นได้ทำการพุ่งทะลุ 50,000 ดอลลาร์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อีกทั้งการที่ทั้งทางธนาคารและบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Tesla, Twitter, Apple และ Amazon ได้หันตัวมาสนใจลงทุนในสกุลเงิน digital ทำให้ตลาด cryptocurrency นั้นมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
2
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทางนักลงทุน หรือ นักวิเคราะห์ต่างมองว่า Ether นั้นยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะ Ether นั้นนอกจากจะเป็นเหรียญ crypto ที่มี Market Cap ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก Ether นั้นยังเป็นหนึ่งใน
เหรียญ crypto ที่ได้รับการสนับสนุนด้านกฎระเบียบ เนื่องจากรูปแบบแจกจ่ายเหรียญในช่วงแรกที่ทำให้มั่นใจได้ว่านักลงทุนจะได้รับการกระจายอำนาจที่เพียงพอ อีกทั้ง Ether นั้นไม่ใช่แค่เหรียญ crypto สำหรับการซื้อ-ขาย เท่านั้น แต่มันยังเป็น Open Source ที่สามารถให้ผู้ใช้งานหรือนักลงทุนเข้ามาพัฒนา หรือ เขียนข้อมูลบนเหรียญได้ อีกทั้งในเดือนธันวาคม ปี 2020 ทาง Ether นั้นยังได้พัฒนา ระบบ Ethereum 2.0 ซึ่งจะทำให้ระบบเหรียญ Ether นั้นมีความปลอดภัยมากขึ้น และสามารถทำการซื้อ-ขายได้มากขึ้น และรวดเร็วขึ้นอีกด้วย ซึ่งในจุดนี้นั้น นักลงทุนหลายคนมีความเห็นเดียวกันว่าราคาของ Ether นั้นน่าจะเพิ่มขึ้นสูงและรวดเร็วกว่า Bitcoin ในปี 2017 อย่างแน่นอน
2
อีกทั้งผู้ก่อตั้ง Ether อย่าง Vitalik Buterin นั้นมีความเห็นว่าตลาด cryptocurrency นั้นสามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาสงครามเย็นระหว่างจีน กับ สหรัฐอเมริกาได้ เพราะการต่อสู้ระหว่างทั้งสองประเทศมหาอำนาจกำลังเกิดขึ้นในรูปแบบสงครามเทคโนโลยีและเงื่อนไขการให้บริการของแอปบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตัวเขานั้นเชื่อว่า จีนและสหรัฐอเมริกาจะสามารถสำรวจความเคลื่อนไหวของพลเมืองของกันและกันได้ผ่านดาวเทียมในอนาคต ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบกระจายอำนาจที่ดำเนินการโดยไม่ขึ้นอยู่กับคนกลางอย่างรัฐบาลหรือบริษัท...ซึ่งถ้า Buterin นั้นมองถูกละก็ ตลาด Cryptocurrency อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้โลกเราเปลี่ยนไปเหมือนอย่าง Internet ก็เป็นได้
2
ทางแอดหวังว่านี้จะเป็นอีกบทความนึงที่ ผู้อ่านทุกคนจะชอบกันนะค่ะ ถ้าชอบบทความของเพจแล้วละก็ ช่วยกดไลค์ กดแชร์​ ให้ด้วยนะค่ะ แล้วเดี๋ยวแอดจะมาแชร์ ข่าว สาระ บทความ ที่น่าสนใจให้อีกเยอะๆเลยคะ
โฆษณา