EP.95 “The Wichita Massacre”
Nature Vs. Nurture เป็นคำที่ใช้ถกเถียงกัน เวลาเราพูดถึงความชั่วร้ายของพวกฆาตกรทั้งหลาย
Nature คือเขาเกิดมาแล้วชั่วเลย? เหมือนกับความเลวร้ายและความโหดเหี้ยมนั้นมันมากับสายเลือด อยู่ในยีนส์ ในพันธุกรรม และมันหลีกเลี่ยงไม่ได้
หรือว่า Nurture คือการที่สภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู และการอบรมบ่มนิสัยจากครอบครัว ผู้คนรอบข้างต่างหากที่ทำให้เขากลายมาเป็นคนแบบนั้น?
หรือจริงๆแล้ว คนบางคน เมื่อ Nature ไม่ดีแล้ว Nurture ก็ไม่ดีตาม ทำให้ยิ่งชั่วช้าสารเลวเพิ่มทวีคูณมากกว่าเดิมกันแน่นะ?
**คำเตือน: เรื่องนี้มีคำบรรยายที่เกี่ยวกับความรุนแรง และการล่วงละเมิดทางเพศหนักมาก ขอให้ผู้อ่านพิจารณา (และความชั่วของอิคนก่อเหตุยังทำให้เราอยากกระโดดถีบขาคู่ใส่อีกด้วย)
Nature and Nurture:
เมือง Dodge City รัฐ Kansas สหรัฐอเมริกา Reginald Carr แต่งงานกับ Janice เมื่อตอนที่ทั้งคู่อายุได้แค่ 18 ปี Janice คลอดลูกคนแรก Reginald Junior, คนที่สอง Regina และคนที่สามชื่อว่า Jonathan โดยมีติดๆกันเลยทีเดียว
Reginald Senior ผู้เป็นพ่อกับ Janice ถึงแม้จะอายุยังน้อยแต่ก็พยายามทำงานอย่างหนักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวจนทำให้ฐานะของครอบครัวนั้นลืมตาอ้าปากได้พอสมควร
หากแต่ไม่นานก็เกิดโศกนาฎกรรมที่ทำให้ครอบครัวนี้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เมื่อ Regina ลูกคนที่สองนั้นอายุได้แค่ 2 ขวบก็เป็นโรคมะเร็งและเสียชีวิตลงในเวลาไม่นาน เมื่อ Regina เสียชีวิตลง ทำให้ทั้ง Reginald Senior และ Janice เสียใจมาก จนหันไปพึ่งยาเสพติด (เฮ้อออ) พอติดยา ชีวิตครอบครัวก็เริ่มระหองระแหง ทั้ง Reginald Senior กับ Janice นั้นหย่าขาดจากกันในที่สุด และ Janice พาลูกๆทั้งสองย้ายกลับไปอยู่กับแม่ของตัวเอง ส่วน Reginald Senior ก็ย้ายไปอยู่ที่เมืองอื่นและมีครอบครัวใหม่ ทิ้ง Regional Junior กับ Jonathan ไปเลย
Janice นั้นพอย้ายมาอยู่กับแม่และลูกๆก็ยังใช้ยาเหมือนเดิม Reginald Junior (ต่อไปนี้ขอเรียกว่า Reginald เพราะคนเป็นพ่อหายไปแล้ว) กลายมาเป็น father figure ของ Jonathan แม้จะอายุห่างกันแค่ 3 ปี และทั้งสองคนสนิทกันมาก เพราะมีกันแค่สองคนพี่น้อง ทั้งสองคนเมื่อไม่มีใครคอยดูแลก็เริ่มต้นดื่มเหล้ากันตั้งแต่อายุยังน้อย น้อยมากๆ ในช่วงประถมเลยทีเดียว Reginald นั้นเริ่มทำการล่วงละเมิดเด็กที่ Janice รับเลี้ยงที่บ้านในตอนที่ Reginald มีอายุแค่เพียง 6 ขวบ (Janice น่าจะรับงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก โดยรับดูแลเด็กๆที่บ้าน) Jonathan นั้นก็มีพฤติกรรมพยายามจะแขวนคอฆ่าตัวตายตั้งแต่มีอายุแค่ 7 ปี (โอ้ยจะเป็นลม)
เมื่อมีอายุได้แค่ 11 ปี Reginald เริ่มเป็นคนเก็บพวกยาเสพติดให้แม่ พออายุได้แค่เพียง 13 ปี ก็เป็นคนเดินยา คอยไปซื้อยาเสพติดให้กับ Janice ผู้เป็นแม่แล้ว ในช่วงอายุ 13-14 ปี Reginald เข้าเป็นสมาชิกแก๊งค์ ล่วงละเมิดทางเพศเด็กคนอื่นที่โรงเรียน และพยายามจะล่วงละเมิดทางเพศครูอีกด้วย ทั้ง Reginald และ Jonathan นั้นชอบถือปืน BB gun ไปเดินหาสัตว์ตามที่ต่างๆเพื่อที่จะยิงทิ้งด้วยความสนุก (อิเด็ก *****) และหากหาสัตว์ที่จะยิงไม่เจอ Reginald กับ Jonathan ก็จะหันมาไล่ยิงกันเอง (เออ ดี)
ไม่นาน Reginald ก็ถูกส่งเข้าคุกข้อหาทำร้ายร่างกาย เมื่อพ้นคุกออกมาก็ออกมาเจอกับ Jonathan น้องชายที่รออยู่แล้ว ทั้งคู่ไปพบเข้ากับผู้หญิงคนนึงที่ผับ พอพูดคุยกันถูกคอก็ตกลงจะย้ายมาที่เมือง Wichita ตามผู้หญิงคนนั้นทันที ในตอนนี้ Reginald มีอายุ 22 ปี และ Jonathan มีอายุเพียง 20 ปี เท่านั้น
พอมาถึงที่เมือง Wichita ทั้งคู่ก็เอาปืนที่นำมาด้วย ออกมาจี้ปล้นผู้คนที่อยู่ในเขตย่านที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างจะดีแถวในเมือง เพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย
Reginald และ Jonathan Carr ขณะถูกนำตัวขึ้นศาล Cr:https://criminalminds.fandom.com/.../Reginald_and...
เหยื่อรายที่ 1 และเหยื่อรายที่ 2:
วันที่ 8 ธันวาคม ปี 2000 หลังจากที่ย้ายมาที่ Wichita ได้ไม่นาน Reginald กับ Jonathan ก็ไปพบเข้ากับ Andrew Schreiber ผู้ช่วยโค้ชฟุตบอลวัย 23 ปี ในตอนที่เกิดเหตุนั้น Andrew แวะที่ปั้มน้ำมันเพื่อเติมน้ำมันรถ เมื่อ Reginald กับ Jonathan เห็นว่า Andrew ขับรถ SUV ที่ใหม่เอี่ยม ทั้งคู่ก็คิดว่า นี่แหละเป้าหมายแรกมีเงินแน่ๆ Reginald บังคับ Andrew ขึ้นรถ SUV ของตัวเองแล้วขับออกไป โดยมี Jonathan ขับรถตามมาด้วย
Reginald ขับรถพา Andrew ไปกดเงินหลายต่อหลายครั้งที่หลายตู้ ATM ด้วยกัน (เพราะน่าจะมี limit แต่ละตู้ กดได้ไม่เกินวงเงินเท่าไหร่ ประมาณนั้นค่ะ) เมื่อกดเสร็จแล้วทั้งคู่พา Andrew มาที่ทุ่งร้างแห่งนึง ก่อนจะเอาปืนฟาด Andrew และบังคับให้ Andrew คุกเข่าลงที่พื้น หลังจากนั้น Andrew ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด และมีเสียงรถขับออกไป เมื่อ Andrew รู้ว่าตัวเขาเองนั้นไม่ได้ถูกยิงก็พบว่าเสียงปืน 4 นัดนั้น ถูกยิงไปที่ยางรถทั้งสี่ล้อของเขานั้นเอง
หลังจากนั้นเพียงแค่ 4 วัน ทั้ง Reginald กับ Jonathan ก็ใช้เงินที่ปล้นมาจาก Andrew หมดไปกับการเที่ยวเล่น เมื่อเงินหมดแล้วจะทำไง? เหมือนเดิม วางแผนต่อว่าจะปล้นใครดี จนไปเจอเข้ากับ Ann Walenta ผู้หญิงอายุ 55 ปี ที่ทำงานเป็นบรรณารักษ์
ในตอนที่ Reginald กับ Jonathan ขับรถตาม Ann นั้น Ann สงสัยว่ามีคนขับรถตาม แต่ไม่แน่ใจ เมื่อ Ann ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านตัวเอง เธอได้ยินเสียงเหมือนคนร้องให้ช่วยเพื่อขอความช่วยเหลือ Ann ตัดสินใจลดกระจกลง แง้มลงนิดเดียวเพื่อจะฟังว่าเกิดอะไรขึ้น กลับกลายเป็นว่า มีคนสอดปืนเข้ามาในช่องกระจกที่ Ann ลดลงแล้วเริ่มยิงใส่ในรถ Ann พยายามจะถอยรถหนีแต่ไม่ทัน หลังจากที่โดนยิง Ann ฟุบลงตรงพวงมาลัยและไปโดนแตรพอดี เมื่อเกิดเสียงดัง Reginald กับ Jonathan ก็รีบหนีไป
เพื่อนบ้านพอได้ยินเสียงก็โทรเรียกตำรวจและพา Ann ส่งโรงพยาบาล ในตอนนั้น Ann เป็นอัมพาตครึ่งล่างลงไป เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ถูกยิง Ann สามารถบอกรายละเอียดชายคนที่แอบตาม และทำร้ายเธอได้หมด แต่อนิจจา อีก 3 วันต่อมา Ann ก็เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บดังกล่าว
เหยื่อรายต่อไป…..:
วันที่ 14 ธันวาคม ปี 2000 ไม่กี่วันหลังจากที่ทำร้าย Ann ทั้ง Reginald และ Jonathan ก็เริ่มหาเหยื่อรายใหม่ คราวนี้เขาขับรถตามผู้หญิงคนนึง ที่รู้ตัวอีก ว่ามีคนกำลังขับรถตาม ผู้หญิงคนนี้โทรกลับไปบ้านให้ลูกสาวเตรียมเปิดประตูโรงรถรอ และพอเธอขับเข้าบ้าน ให้รีบปิดประตู เพราะไม่อยากให้คนที่ขับรถตามนั้นรู้ว่าเธออยู่บ้านหลังไหน
**ผู้หญิงคนนี้อาศัยอยู่ในบ้านที่เป็นลักษณะ triplex บ้านลักษณะนี้จะเหมือนกับบ้านแบบ duplex ที่เป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ แต่จริงๆแล้วมันเป็นบ้านขนาดเล็กหลายหลังติดกัน และมีประตูโรงรถเหมือนๆกัน ลองดูรูปตัวอย่างที่เราแนบมานะคะ
บ้าน triplex หลังที่เกิดเหตุ Cr:https://tntcrimes.com/the-wichita-massacre/
ในตอนนี้ Reginald กับ Jonathan ไม่แน่ใจว่า รถที่ผู้หญิงคนนี้ขับเข้ามานั้น ขับเข้าไปในบ้านหลังไหนกันแน่ แต่นั้นก็ไม่เป็นปัญหา เพราะ Reginald กับ Jonathan ก็เลือกเอาแบบเดาสุ่มแหละ ว่าจะเข้าไปในบ้านหลังไหน
หนึ่งในบ้านที่ตั้งอยู่ใน triplex แห่งนี้ มีชายหนุ่มสามคนเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน ชายหนุ่มทั้งสามนั้นประกอบไปด้วย Jason Befort ครูหนุ่มอายุ 26 ปี Bradley Heyka นักวิเคราะห์ทางการเงินวัย 27 ปี และ Aaron Sanders วัย 29 ปี ผู้ที่กำลังเรียนเพื่อเตรียมตัวจะบวชเป็นพระ (พระในที่นี้คือพระในศาสนาคริสต์นะคะ)
เมื่อเวลา 20.30 น แฟนสาวของ Jason (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “Heidi”) มาถึงที่บ้านพร้อมกับสุนัขพันธ์ schnauzer ของเธอที่มีชื่อว่า Nikki เมื่อมาถึงที่บ้าน Jason นั้นยังไม่กลับมาบ้าน แต่ Bradley, Aaron และ Heather อดีตแฟนของ Aaron นั้นอยู่ที่บ้านแล้ว Heidi จึงลงไปตรวจการบ้านเด็ก (Heidi เป็นคุณครูค่ะ) ในห้องนอนของ Jason เพื่อรอแฟน Jason นั้นกลับบ้านมาประมาณ 21.15 น ในตอน 22.00 น. Jason ตัดสินใจตรวจดูรอบบ้านว่าไฟปิดหมดไหม เพราะทุกคนนั้นเข้านอนกันหมดแล้ว โดยต่างแยกย้ายกันไปนอนในห้องบ้าง บนโซฟาบ้าง และในชั้นใต้ดินบ้าง (Heidi กับ Heather น่าจะมาแค่ค้างคืนด้วยชั่วคราวนะคะ ไม่ได้อยู่ประจำ)
หลังจากเวลา 23.00 ไม่นาน อยู่ดีๆ ไฟหน้าบ้านก็เปิดขึ้นมา ในตอนนี้ Jason กับ Heidi ยังไม่หลับ ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ใครมา หรือใครไปเปิดไฟ ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็มีเสียงดังขึ้น จนมารู้อีกที เพื่อร่วมบ้านก็โดนชายสองคนเอาปืนจี้แล้ว คนที่เข้ามาในบ้านก็คือ Reginald กับ Jonathan นั้นเองค่ะ
เพื่อนทั้งหมด 5 คน ถูกนำตัวมาในห้องนอนของ Jason โดย Reginald กับ Jonathan บังคับให้ทุกคนถอดเสื้อผ้าออกให้หมด ก่อนจะถามหาเงิน สิ่งของมีค่า และเอาตัวทุกคนเข้าไปขังในตู้เสื้อผ้า (ตู้เสื้อผ้าที่นี้เป็นตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในผนัง บางทีก็เป็นแบบ walk in เล็กๆ เลยใหญ่พอควรค่ะ)
ทุกคนพยายามบอก Reginald กับ Jonathan ว่าเงินมีเท่าไหร่ในบ้าน หากอยากได้ให้เอาไปให้หมดเลย แต่ในตอนนี้ “เงิน” ดันไม่ใช่สิ่งที่สองพี่น้องต้องการอีกต่อไปแล้ว
*******หลังจากนี้มันค่อนข้างจะรายละเอียดรุนแรงมาก ใครไม่ชอบอ่านรายละเอียดเรื่อง sexual assualt หรือการทำร้าย ล่วงละเมิดทางเพศ ข้ามไปนะคะ เราเลือกที่จะเอามาเขียนเพราะอยากให้เข้าใจทำไมเราอยากกระโดดถีบขาคู่มากเลยค่ะ
ความชั่วช้าของอมนุษย์:
หลังจากที่รื้อค้นของในบ้านไปแล้ว ทั้ง Reginald กับ Jonathan ก็หันเหความสนใจมาที่ตัวประกันทั้ง 5 โดยเริ่มเอาตัวประกันออกมาทีละสองคน
💣เริ่มจากผู้หญิงสองคนคือ Heidi และ Heather สองพี่น้องบังคับให้ Heidi กับ Heather ทำ oral sex กับใช้อุปกรณ์อื่นต่อกัน
💣หลังจากนั้นเอา Heather ไปเก็บ แล้วเอา Bradley ออกมา ก่อนจะบังคับให้ Bradley มีเพศสัมพันธ์กับ Heidi
💣ต่อมา คือเอา Bradley ไปเก็บ แล้วเอา Jason ออกมา บังคับ Jason ให้มีเพศสัมพันธ์กับ Heidi แต่สั่งให้หยุดกลางคันเมื่อรู้ว่า Jason นั้นจริงๆแล้วเป็นแฟนของ Heidi
💣หลังจากนั้นเอา Jason ไปเก็บ แล้วเอา Aaron ออกมาเพื่อบังคับให้มี เพศสัมพันธ์กับ Heidi แต่ Aaron ไม่ยอมทำตาม จึงโดนใช้ด้ามปืนตบเข้าที่หัว ทั้งสองคนเอาตัว Heidi ไปเก็บแล้วเอาตัว Heather ออกมา
💣คนร้ายบังคับให้ Aaron มีเพศสัมพันธ์กับ Heidi พร้อมกับใช้ไม้กอล์ฟ ฟาด Aaron เพื่อบังคับให้เขาเริ่มกิจ แต่ Aaron ไม่สามารถบังคับให้อวัยวะเพศของตัวเองแข็งตัวได้ คนร้ายถึงกับนับถอยหลังก่อนจะบอก Aaron ว่า เขามีเวลาถึงแค่ 11.54 น. เพื่อจัดการตัวเอง หากทำไม่ได้ พวกมันจะฆ่า Aaron ซะ แต่เมื่อเวลาหมดลง Aaron ไม่สามารถบังคับตัวเองได้ คนร้ายเอา Aaron ไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า ก่อนจะเอาตัว Jason ออกมาเพื่อบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับ Heather ก่อนจะเอาตัว Jason ไปเก็บ แล้วเอาตัว Bradley ออกมาทำแบบเดียวกัน Heidi ผู้ซึ่งอยู่ในตู้ ได้ยิน Heather ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด (😢)
หลังจากนี้ Regional พาเพื่อนทั้งห้าคน (ทีละคน) ออกไปตระเวนกด ATM เพื่อเอาเงินทั้งหมดออกมา โดยเอารถกระบะของ Jason ออกไป และให้ Jonathan นั้นเฝ้าคนที่เหลืออยู่ที่บ้าน นรกบนดินของคนที่เหลือนั้นยังมีต่อไปเรื่อยๆตามนี้
👿 Reginald เอาตัว Bradley ออกไปคนแรก ในระหว่างที่ Reginald พา Bradley ออกไป Jonathan เอาตัว Heidi ออกมา ก่อนจะข่มขืนเธอ
👿 Reginald กลับเข้ามาก่อนเอาตัว Jason ออกไป ในระหว่างที่ เอาตัว Jason ออกไป Jonathan เอาตัว Heather ออกมาจากตู้เสื้อผ้า ข่มขืน Heather ก่อนเอาตัว Heather ใส่กลับเข้าไปในตู้เสื้อผ้า
👿 หลังจากที่ Reginald กลับมา Heidi อาสาออกไปเป็นคนต่อไป Reginald ให้ Heidi ใส่เสื้อ Sweater ตัวเดียว เพราะเขาบอกว่า เขาชอบเห็นเธอในแบบที่ไม่ใส่ชุดชั้นใน (ให้ลองนึกดูว่าจะหนาวขนาดไหนนะคะ ในตอนนั้นเป็นช่วงหน้าหนาวพอดี) ในตอนที่นั่งรถกลับกันมา ยังมีการบอก Heidi ว่า หากทั้ง Heidi และเขาได้พบกันในสถานการณ์ที่แตกต่างกว่านี้ เขากับ Heidi อาจจะได้คบกันก็ได้นะ เพราะเขาคิดว่า Heidi นั้นหน้าตาน่ารักเลยทีเดียว (อิคนสารเลว ทำกับเขาแบบนี้ยังมีหน้ามาพูด อยากจิกหัวกระแทกกับรถแทน Heidi)
👿 พอกลับเข้ามาที่บ้าน Reginald ข่มขืน Heidi ก่อนที่จะ ejaculate ในปากเธอ Jonathan ข่มขืน Heather อีกครั้ง และก็วนมาข่มขืน Heidi อีกครั้งนึงด้วย
หลังจากนั้นทั้ง Reginald กับ Jonathan ช่วยกันรื้อบ้านหาของมีค่าอีกครั้ง ก่อนจะไปเจอเข้ากับกระป๋องเก็บกาแฟเข้าใบนึง ในกระป๋องนั้นมีแหวนเพชรเม็ดงามซ่อนอยู่ 💍
“That’s for you” Jason กระซิบบอก Heidi “I was going to ask you to marry me” และนั้นเป็นครั้งแรกที่ Heidi รู้ว่า Jason แฟนของตัวเองกำลังจะขอ Heidi แต่งงานในวันศุกร์หน้า
***ปวดใจมากกกก มาถึงตอนนี้ปวดใจมากที่สุด ปวดใจมากจริงๆ
หลังจากนั้นทั้ง Reginald และ Jonathan นำตัวทั้งห้าคนออกมาจากบ้านเพื่อเดินไปขึ้นรถ โดยเอาผู้ชายสามคนใส่ในท้ายรถของรถยนต์ Honda Accord ของ Aaron Reginald บังคับให้ Heidi ไปขึ้นรถกระบะของ Jason กับเขา ก่อนที่ Jonathan จะเอา Heather นั่งในรถ Honda Accord กับเขา (ที่มีผู้ชายสามคนอยู่ท้ายรถ) ก่อนจะขับรถออกไป Heidi เห็นเวลาในขณะนั้นว่าเป็นเวลา 2.07 น.
**ดูเหมือนเรื่องทั้งหมดในบ้านจะเกิดขึ้นและกินเวลานาน แต่จริงๆแล้วทั้งหมดที่บอกมาข้างต้น เกิดขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ
เมื่อไปถึงทุ่งโล่งกว้าง Reginald และ Jonathan สั่งให้ทั้งหมดคุกเข่าลงกับพื้น…..ก่อนที่จะเริ่มยิงทั้งหมดเข้าที่หัว ทีละคน...ทีละคน จนทั้งหมดล้มลง เท่านั้นยังไม่พอ ทั้งสองพี่น้องขึ้นไปขับรถกระบะของ Jason ก่อนจะขับรถทับเหยื่อทั้งหมดแล้วขับออกไป
ซ้ายบน: Jason ขวาบน: Heather ซ้ายล่าง: Bradley ขวาล่าง: Aaron Cr:http://www.cncpunishment.com/forums/showthread.php...
The survival story:
แน่นอนค่ะ เรื่องทั้งหมด คงไม่ออกมามีรายละเอียดขนาดนี้…..หากไม่มีผู้รอดชีวิต
จากในบรรดาเพื่อนๆทั้งหมด 5 คน ที่โดนทั้งยิงหัวและขับรถกระบะทับ มีคนนึงที่รอดชีวิต คนนั้นคือ Heidi นั้นเองค่ะ
Heidi เล่าว่าในตอนนั้นเธอรู้สึกถึงกระสุนที่ยิงเข้าใส่หัวเธอ มันทำให้เธอรู้สึกเหมือน “เห็นดาว” และวิ้งๆๆๆ ก่อนที่เธอจะรู้สึกว่าโดนถีบแล้วล้มลง เธอรู้สึกถึงตอนที่โดนรถขับมาทับบนตัวเธอด้วย แต่การโดนทำร้ายขนาดนั้นกลับทำให้ Heidi เพียงแค่สลบไป
เหตุเพราะกระสุนที่ยิงใส่หัว Heidi นั้น ยิงมาโดนกิฟท์ติดผมที่หัวของ Heidi ทำให้กระสุนนั้นเจาะเข้าที่หัวแต่ไม่ฝังลึกจนทำให้เธอเสียชีวิต
เมื่อ Heidi ฟื้นขึ้นมา เธอพยายามพลิกตัว Jason แฟนหนุ่มที่นอนคว่ำอยู่ข้างๆ ขึ้นมา “เขามีเลือดออกเต็มไปหมด เลือดเขาออกเยอะมาก ที่ตาเขายังมีเลือดออก” Heidi ถอดเสื้อ sweater เสื้อผ้าชิ้นเดียวที่เธอมีอยู่ ก่อนจะเอามาพันรอบหัวของ Jason ไว้ เพื่อพยายามห้ามเลือด
Heidi เห็นแสงไฟคริสมาสต์วิบวับอยู่ไกลๆ และถึงแม้จะหนาวเหน็บ หิมะตก และทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีเสื้อผ้าซักชิ้น รองเท้าก็ไม่ได้สวม (แถมยังมีกระสุนฝังอยู่ในหัว) Heidi ก็เริ่มเดินค่ะ
เธอเดินผ่านทุ่งกว้าง ผ่านพุ่มไม้ ผ่านไซซ์งานก่อสร้าง อ้อมข้ามบึง เป็นระยะทางมากกว่า 1 ไมล์ ก่อนที่จะมาถึงบ้านหลังที่เธอเห็นแสงไฟคริสมาสต์ เธอเคาะประตูอย่างสุดแรง ร้องขอความช่วยเหลือ จนคู่สามีภรรยาหนุ่มสาวที่อยู่ในบ้านตื่น “ช่วยฉันด้วย ช่วยพวกเราด้วย พวกเราทั้งหมดถูกยิงและเพื่อนทั้งสามคนของฉันตายไปแล้ว” (ในตอนนั้น Heidi คิดว่า Jason ยังไม่ตาย)
เมื่อคู่สามีภรรยาเปิดประตูให้ Heidi เข้ามาในบ้าน เอาผ้าห่มมาห่ม Heidi ก่อนจะพยายามโทรหา 911 Heidi ห้ามพวกเขาไว้ ก่อนจะพยายามจะบอกพวกเขาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น รายละเอียดต่างๆ รวมไปถึงรูปร่าง ลักษณะต่างๆของคนร้าย เพราะเธอกลัวตัวเองนั้นจะตายก่อนที่ตำรวจจะมา พอบอกเสร็จแล้ว ถึงยอมให้สามีภรรยาคู่นี้โทรหาตำรวจ
หลังจากนั้นเธอขอร้องให้ทั้งสองคนช่วยโทรหาแม่ของเธอ (เพราะยังคิดว่าตัวเองจะตาย) “Tell her I love her” ก่อนจะขอให้โทรหาพ่อกับแม่ของ Jason ในตอนนั้น Heidi คิดถึงเด็กๆของเธอ เด็กๆที่โรงเรียน ใครจะสอนพวกเขา? ใครจะดูแลพวกเขากันนะ?
เมื่อตำรวจมาถึง และได้คุยกับ Heidi คร่าวๆก่อนที่เธอจะขึ้นรถพยาบาลไป ตำรวจสามารถเช็คตามป้ายทะเบียนรถของ Jason ได้ สิ่งที่ Heidi ไม่รู้คือหลังจากที่ Reginald กับ Jonathan ยิงและขับรถทับคนทั้ง 5 แล้ว พวกเขาทั้งสองคน ขับรถกลับไปที่ triplex เพื่อขนของมีค่าทั้งหมดเท่าที่จะขนได้ ขนใส่รถกระบะของ Jason และขับออกมา
….และก็ไม่ลืมที่จะทำความอุบาทว์ชาติชั่วแบบสุดติ่งครั้งสุดท้าย นั้นก็คือ ฆ่า Nikki สุนัขของ Heidi แล้วทิ้งไว้บนเตียง (โกรธจริงๆนะ หมาตัวเล็กขนาดนั้น ทำอะไรมันไม่ได้ ไม่มีทางสู้ มันยังทำ อยู่ใกล้ๆจะปาใส่ทั้ง หม้อ ไห กะละมัง ครกสาก)
ทั้งคืนตำรวจส่งรายละเอียดของป้ายทะเบียนและรถของ Jason ออกไป พอประมาณ 7.30 น ของวันถัดไป มีคนแจ้งเบาะแสว่าเห็นผู้ชายลักษณะที่ทุกคนกำลังตามหา กำลังขนทีวี ของชิ้นใหญ่อื่นๆ ลงจากรถกระบะตามลักษณะและป้ายทะเบียนที่ตำรวจประกาศตามหาอยู่ เมื่อตำรวจไปที่ apartment ดังกล่าว ตำรวจเคาะประตูบ้านและมีผู้หญิงที่มีชื่อว่า Stephanie Donly มาเปิดประตู Stephanie เป็นแฟนของ Reginald และตำรวจจับตัว Reginald ได้จาก apartment ดังกล่าว ในขณะที่เขากำลังพยายามจะหนี
หลังจากนั้น Stephanie ให้การกับตำรวจว่า Jonathan ผู้เป็นน้องขับรถแบบไหนอะไรยังไง จนตำรวจสามารถจับกุมตัว Jonathan ได้ที่บ้านของ “แฟน”ของ Jonathan ที่เริ่มคบกันมาไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ตำรวจจับทั้ง Reginald และ Jonathan ได้ ภายใน 12 ชั่วโมงหลังจากที่ก่อเหตุสยดสยองดังกล่าว
การพิจารณาคดีและคำพิพากษา:
เมื่อหลักฐานท่วมท้น รวมถึงมีพยานหลักในการให้ปากคำ จากเหยื่อทั้ง 3 เหตุการณ์ Reginald Carr และ Jonathan Carr ถูกศาลตัดสินประหารชีวิตในเดือนตุลาคม ปี 2002 และเจอข้อหาทั้งหมดมากกว่า 100 ข้อหาด้วยกัน
การตัดสินประหารชีวิตพี่น้องตระกูล Carr นั้นกลับไปกลับมาหลายครั้ง เพราะการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย แต่ในที่สุดแล้วศาลฎีกาสูงสุดของสหรัฐ กลับคำพิพากษาทั้งหมด และยืนยันให้มีการประหารชีวิต Reginald Carr กับ Jonathan Carr เหมือนเดิม (ค่อยยังชั่ว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ตาย ยังอยู่ในคุก กิน นอนอยู่บนเงินภาษีชาวบ้าน)
เรื่องดีๆที่นอกจากโทษประหารที่ทั้งสองคนสมควรจะได้แล้วคือ เมื่อได้ขึ้นไปเป็นพยานในศาล Heidi ได้พบกับ Andrew (เหยื่อคนแรกของพี่น้อง Carr ที่ Wichita) และคบหาดูใจกันจนแต่งงานกันในที่สุด (💖)
>>>>>ด้วยเหตุนี้ เราสนับสนุนโทษประหารค่ะ เราเชื่อว่ามีคนหลายคนเข้าคุกไปแล้วสามารถกลับตัวได้ คนบางคน ไม่สมควรได้รับโทษประหาร แต่มันก็มีคนบางคนที่นอกจากสมควรจะโดนโทษประหารแล้ว ยังสมควรโดนทรมานอย่างหนักหน่วงทุกวันและทั้งวัน เพื่อให้สาสมกับความชั่วที่มันทำ และความเจ็บปวดที่มันก่อให้กับคนอื่น (โอ้ย ยิ่งพูดยิ่งโมโห 🤬🤬🤬🤬)
พออ่านเรื่องนี้เสร็จ มีคำถามให้เราคิดเล่นๆว่า
⁉️ หากกลางดึกมีคนมาเคาะและทุบประตูบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือเราจะทำยังไง? เราจะเปิดไหม?
⁉️ หากเราต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราจะยอมสู้ตายไหม? เพราะไหนๆก็ไหนๆ เป็นตายเท่ากัน
⁉️ในชีวิตชั้นจะต้องล็อกบ้านยังไงให้ปลอดภัยจากอสูรร้ายพันธ์นี้????
EP. เก่าๆดูได้อีกทางที่นี้ค่ะ
Facebook Page:
The Investigation Room
🐝Subscribe To My Youtube Channel🐝
Blockdit:
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
