20 ก.พ. 2021 เวลา 04:45 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เมื่อ CEO อเมริกามาคุยกับเด็กจีนเตรียมเรียนจบ ถึงเรื่อง การสร้างสรรค์, การใช้ชีวิต, อนาคต เป็นอะไรที่สุดยอดมาก
1
ช่วงตรุษจีนมีคลิปไวรัลตัวนึง จากเวยป๋อ 老师好我叫何同学(แปลไทย “สวัสดีครับอาจารย์ ผมเหอนะครับ”) เป็น Exclusive Interview ของ Content Creator หนุ่มจีนที่ชื่อ เหอสื้อเจี๋ย 何世杰 (ต่อไปนี้เรียก “เหอ”) โดยเหอได้สัมภาษณ์ Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิ้ลโดยตรงผ่านทาง VDO Call
1
คลิปดังกล่าวโพสต์บนเวยป๋อเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา มียอดวิวแล้วกว่า 25 ล้านครั้ง ยอดแชร์กว่า 1.5 แสนครั้ง!!!
คลิปไวรัล 18 นาทีเต็ม
1
“Apple ทำยังไงถึงสร้างสรรรค์สิ่งใหม่ๆได้ตลอด?” [นาที 01.27 – 03.04]
เหอ – การที่ Apple ต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆทุกปีต้องเป็นเรื่องที่เครียดและกดดันมากแน่ๆสำหรับพวกคุณ Apple ทำยังไงถึงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้ตลอด? (How Apple prepare for all new things every year?)
Tim – จริงๆ นวัตกรรม ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับ สิ่งที่เราทำคือ เรามีวัฒนธรรมในการรวมเอาความคิดสร้างสรรค์และความร่วมมือไว้ด้วยกัน เมื่อนำ 2 สิ่งมาไว้ด้วยกันและตกผลึกแล้ว คุณจะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆได้ นั่นก็คือ คุณรวมเอาผู้คนที่อาจจะแตกต่างกันทั้ง ความสามารถ มุมมองต่อโลก พื้นเพ ภูมิหลัง บางคนอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟท์แวร์ บางคนเชี่ยวชาญด้วยฮาร์ดแวร์ บางคนเชี่ยวชาญด้านอื่นอย่าง งานบริการ ดนตรี หรือศิลปะ ซึ่งคุณก็รวมคนเหล่านี้ไว้เพื่อเป้าหมายร่วมกันคือ เพื่อผลิตสินค้าที่ยอดเยี่ยม แล้วมันจะมหัศจรรย์มากเมื่อคุณดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
6
(There’s no one formula for Innovation. But what we do is we have a culture of creativity and a culture of collaboration. And these two things together, when they intersect, create enormous innovation. You put people together that have different skills, that look at the world differently. Maybe they’re from different places, they have different backgrouds. Some are software experts, some are hardware, some are services, some may be musicians and artists. But you put them all together on a common purpose, to design an incredible product. And it is amazing what can come out of it.)
1
เหอ – คือคุณจะบอกว่า นวัตกรรม คือการที่เรารวมคนมาไว้ด้วยกัน ใส่ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละบุคคลเข้าไปด้วยกันอย่างงั้นเหรอ?
Tim – การรวมคนที่มีความแตกต่าหลายด้านไว้ด้วยกันคือเพื่อสร้าง “สภาพแวดล้อม” แห่งการสร้างสรรค์ขึ้นครับ เพราะผู้คนจะได้แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดพลังบวกให้แก่กัน และเมื่อคุณ “เลือก” ผู้คนที่เค้าเห็นความสำคัญ(แคร์ต่อสิ่งนั้นๆ)พอ พวกเขาก็จะอยากพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกให้เกิดขึ้น พวกเขาเหล่านั้นจะแคร์พอที่จะโทรหาใครสักคนกลางดึกเมื่อเขามีไอเดียบางอย่างที่สุดยอดเกิดขึ้น เพราะพวกเขารู้ว่า ถ้าพวกเขาได้แชร์ไอเดียของเขาออกไปให้เพื่อนร่วมทีม พวกเขาจะนำพาไอเดียนั้นให้ไปไกลกว่าที่คิด ที่ Apple ของเรา หนึ่งบวกหนึ่งมากกว่าสองเสมอครับ
2
Putting people together that are diverse is an inclusive kind of environment, when people can feed off one another feed off the energy. And you pick people that are care enough, that really want to develop the best products in the world. And they care enough to call somebody up at the midnight when they’ve just had a great idea. Because they know that if they’d share the idea that they can make that idea go further. One plus one has always been more than two at Apple.
“Apple จะช่วยผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการใช้อุปกรณ์ IT ให้ง่ายขึ้นอย่างไร?”[นาที 05.09 - 06.09]
เหอ – คุณย่าของผมเป็นคนนึงที่อยากจะเรียนรู้การใช้ iPhone เพื่อจะได้ติดตามดูคลิปที่ผมทำหรือ Face Time กับผมได้ แต่เธอก็พบว่ามันยากมากเลยสำหรับผู้สูงอายุที่จะใช้ iPhone คุณคิดว่า Apple จะทำยังไงให้ช่วยผู้สูงอายุเหล่านี้ใช้อุปกรณ์ IT เป็นและเข้าสู้โลกดิจิตอลได้? (What can Apple do to give wings to the elderly into the digital world?)
2
Tim – เราพยายามอย่างมากเลยที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงทุกๆคน สิ่งหนึ่งที่เราพยายามอยากมากในการออกแบบผลิตภัณฑ์ก็คือ ออกแบบระบบของมันให้เหมือนกับการคิดของสมองเรา ที่คุณไม่จำเป็นต้องอาศัยคู่มือการใช้งาน ก็สามารถหยิบผลิตภัณฑ์ขึ้นมาแล้วเข้าใจว่ามันใช้ยังไง แล้วมันก็ใช้งานได้แบบที่คุณคิดจริงๆ (สำหรับผู้ที่มีปัญหาการใช้งานผลิตภัณฑ์) เราก็จะมีคลาสสอนการใช้งานผลิตภัณฑ์ใน Apple Retail ซึ่งเราก็อยากจะชวนคุณย่าของคุณมาฝึกการใช้งาน iPhone ในคลาสของเรา แล้วเรายังมีสายด่วนให้ผู้ใช้ที่ต้องการการช่วยเหลือโทรสอบถามด้วย แต่ความหวังและความปรารถนาของเราก็คือ สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทำงานเหมือนที่ใจเราคิด เพื่อว่าผู้ใช้งานจะไม่ต้องอาศัยคู่มือใดๆ
2
We try really hard to design our products for everyone. And we try really hard to design the product like the mind works so you don’t have to have an instruction manual. You can pick it up and it works that you would think it would work. We have classes in Apple Retail, where we love to train your grandmother on using iPhone right there in the class. And we have Telephone Support and so forth for people that need that. But our hope is and our desire is always to design the product in such a way that it works as you would expect it to do, so that no instruction is needed.
เหอ - ใช่ครับ นั่นจะประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเลย คือเมื่อคุณมีมันในมือ แล้วคุณก็รู้วิธีการใช้มันเองโดยธรรมชาติ ไม่ต้องอาศัยคู่มืออะไร
Tim – ถูกต้องครับ นั่นแหละเป้าหมายของเรา
Exactly, that’s our objective.
นอกจากประเด็นเรื่อง Apple ทำยังไงถึงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้ตลอดแล้ว ยังมีการพูดคุยถึงประเด็นอื่นๆที่น่าสนใจอีก เช่น แนวคิดการพัฒนาสินค้า, การดูแลลูกค้าหลังการขาย, การได้พูดคุยกับลูกค้าจริงๆเพื่อรับ Feedback, ลดช่องว่างทางการศึกษาในเขตชนบทห่างไกลผ่านเทคโนโลยี,
และท้ายๆคลิปยังมีการพูดถึงทักษะในโลกอนาคตที่สำคัญ 2 อย่างคือ Coding(การเขียนโค้ด) กับ Creativity(ความคิดสร้างสรรค์) ซึ่งมีหลายแนวคิดจาก CEO Apple คนนี้ที่ดีมากๆเลย
ป.ล. พีคมากคือ Tim Cook เล่าว่าเคยได้รับ email จากเด็กชายวัย 7 ขวบที่เซี่ยงไฮ้ ที่เมล์มาถามเกี่ยวกับเรื่องการเขียนโค้ด เพราะน้องต้องไปสอนผู้ใหญ่เขียนโค้ดผ่าน Swift, XCode อีกที!!! ซึ่งน่าจะเป็นนักเขียนโค้ดอายุน้อยที่สุดที่ Tim เคยได้ยินแล้ว
1
ในคลิปทีประโยคนึงที่ผมชอบมาก Tim แกเล่าถึงประสบการณ์ที่ไปเยือนจีนแล้วได้พูดคุยกับ Developer และลูกค้าหน้าร้าน แล้ว Tim ทิ้งท้ายว่า “รางวัลใหญ่ที่สุดที่เราได้จากงานของเรา คือการได้เห็นว่าผู้อื่นใช้ผลิตผลของงานเราอย่างไร” The largest reward we get for our work is seeing what other people do with it.
1
กับอีกพาร์ทนึงในคลิปที่ชอบ คือเหอแกเล่าประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ Apple เพื่อตัดต่องานวีดีโอของแกเอง แกพบว่า ซอฟท์แวร์ที่มีประโยชน์และดีมากๆของ Apple ไม่ได้เป็นซอฟท์แวร์ที่วิลิศมาหราอะไร แต่คือ Note App ที่พื้นฐานมากๆแต่ใช้งานง่าย พอขีดเขียนบน Macbook แล้วก็จะไปปรากฏบนอุปกรณ์อื่นอย่าง iPhone, iPad หรือแม้แต่ปอยู่บน iCloud ซึ่งเหอสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่ง Tim ก็เห็นด้วย เพราะ Note App ก็เป็นซอฟท์แวร์พื้นฐานที่แกใช้บ่อยที่สุดแล้วในซอฟท์แวร์ทั้งหมดของ Apple บ่อยยิ่งกว่าการเช็คอ่าน email อีก และเป็นตัวช่วยให้ Apple และผู้คนทั่วโลกสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้อีกมากมายจากเพียงซอฟท์แวร์พื้นฐานตัวนี้
Stay Basic. Work for it!...
ตอนท้าย Tim Cook ยังแชร์เคล็ดลับการทำยังไงให้เค้ามี Passion ตลอดเวลาด้วย อยากให้ไปดูด้วยตัวเอง ได้พลังบวกเต็มที่ [นาที 12.45 – 16.44] (มีพูดถึงบอสเก่าผู้เป็นตำนาน Steve Job ด้วย!!!)
Cr. Weibo – 老师好我叫何同学
#เกี่ยวกับหนุ่มจีนในคลิป #เหอ
เหอ ชื่อจริงว่า เหอสื้อเจี๋ย 何世杰 เกิดปี 1999 ปัจจุบัน อายุ 22 ปี และเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชิงหัว 清华大学 เหอถือเป็น Content Creator ชั้นแนวหน้าของจีนด้าน IT ซึ่งใช้ชื่อในวงการว่า老师好我叫和同学(แปลไทย “สวัสดีครับอาจารย์ ผมเหอนะครับ”) โดยเหอทำคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียจีน เวยป๋อ มีผู้ติดตาม 2.3 ล้าน และมีช่องวีดีโอใน Bilibili ผู้ติดตาม 6.8 ล้านคน ซึ่งคอนเทนต์ของเหอจะเน้นเสนอมุมมองด้านการเรียน+การใช้ชีวิตด้วยอุปกรณ์ IT รวมถึงการแก้ปัญหา/ตั้งคำถามต่างๆในชีวิตประจำวันว่า IT ช่วยทำให้ชีวิตง่ายขึ้นได้อย่างไร?
*เวยป๋อของเหอ https://weibo.com/u/6529876887
*ช่อง Bilibili ของเหอ https://space.bilibili.com/163637592
2
โฆษณา