20 ก.พ. 2021 เวลา 08:28 • ท่องเที่ยว
"วิ่งเล่นริมแม่น้ำฮานยามเช้า ณ เมืองดานัง เวียดนาม"
สวัสดีค่ะทุกคน บทความนี้ถูกเขียนขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2562 ในเวปไซต์พันทิปนะคะ เป็นทริปที่เราเดินทางไปเที่ยวประเทศเวียดนาม (สมัยยังไม่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19)
เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชมวิวริมฝั่งแม่น้ำฮาน ณ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ยามเช้า โดยการวิ่งด้วยสองขา ชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆเหมือนเดินนะคะ ตามคอนเซ็ป #วิ่งไปเที่ยวไป เคยมีความฝันนานแล้วว่า ถ้าได้ไปเที่ยว ตปท. ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน ถ้ามีโอกาสและไม่เหนื่อยจากการเดินเที่ยวจนเกินไปนัก ก็อยากจะ city run วิ่งเล่นชมเมืองประเทศนั้นๆซะหน่อย โดยเฉพาะวิ่งเล่นริมแม่น้ำชมวิวในประเทศญี่ปุ่น แต่ยังไม่มีโอกาสไปญี่ปุ่นเลย ปีนี้ได้มาเที่ยวเวียดนามกลางกับเพื่อน เลยถือโอกาสวันสุดท้ายก่อนกลับเมืองไทย ซึ่งเป็นวันที่เรากับเพื่อนไม่มีโปรแกรมเที่ยวอะไรแล้วนอกจากรอเช็คเอ้าท์จากที่พัก ไปสนามบินอย่างเดียว เลยตั้งใจปลุกนาฬิกาแต่เช้าออกมาวิ่งเล่นชมเมืองดานังกันค่ะ
เริ่มจากที่พักที่อยากแนะนำและรีวิว เราพักที่ Christina's Da Nang - Seahorse Hostel ตอนแรกเราจองโฮสเทลที่ชื่อว่า Memory Hostel Danang ไว้ผ่านทาง Hostelworld โดยรีวิวดูแล้วว่ามันอยู่ในเมืองดานัง อยู่ใกล้ตลาด ใกล้ริมแม่น้ำฮาน และเดินทางสะดวก ไปไหนมาไหนในเมืองหาของกินใกล้ตลาดได้ง่ายๆโดยการเดิน แต่พอไปถึงที่พัก กลับพบว่าโฮสเทลอยู่ในระหว่างปรับปรุง และเรากะเพื่อนโดนโอนย้ายที่พักไปยังอีกสาขาหนึ่งของ memory hostel แต่เป็นสาขาที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำฮาน ไกลจากใจกลางเมืองออกไปทางทะเล ที่พักใหม่น่ารักนะคะ แต่มันไกลจากตัวเมืองไปมากๆ การเดินทางต้องใช้ grab หรือ taxi เท่านั้น เดินไปไม่ได้เลย ไกลมาก เราจึงเจรจาขอเงินค่าที่พักคืน เพื่อไปหาที่พักใหม่ ที่พักเดิมก็ใจดีค่ะ เค้ายอมคืนค่าที่พักให้ เราเลยเรียก grab กลับเข้ามาหาที่พักในตัวเมือง โดยอาศัยแอป hostelworld เหมือนเดิม แต่เป็นการหาที่พักแบบกระทันหันมากๆ เป้าหมายพวกเราคือ การประหยัดเงินค่าที่พักใน 2 คืนสุดท้ายในดานัง เราเลยเลือกที่พักแบบโฮสเทลที่เป็นห้องพักแบบ dorm โดยเลือกแบบ female dorm เพื่อความปลอดภัยนิดนึงค่ะ โชคดีทียังมีที่พักที่ตรงกับความต้องการของเรา คือเป็นลักษณะหอพักหญิง ห้องน้ำรวม และอยู่ใกล้ตลาด นั่นก็คือ Christina's Da Nang - Seahorse Hostel นั่นเองค่ะ ที่พักน่ารักมากๆ ข้ามถนนไปนิดเดียวก็เจอตลาดฮาน (Han Market) เลย
ที่พักเป็นลักษณะตึกแถวเล็กๆ 5-6 ชั้น (ไม่แน่ใจ จำไม่ค่อยได้ค่ะ) ตกแต่งแบบโมเดิร์น ชั้นล่างสุดเป็นเคาเตอร์ร้านกาแฟค่ะ ชั้นสองเป็นส่วนเคาเตอร์เช็คอินและที่นั่งของร้านกาแฟ เราไปจองแบบลักษณะ walk in เลยค่ะ เพราะดูจากแอปไปแล้วรู้ว่าห้องพักว่าง เค้าคิดราคา walk in ตามอัตราในเวป hostelworld เลย ชั้น3-4 ถึงเป็นที่พักที่เป็นลักษณะ dorm ชั้น 5-6 เป็นห้อง private และชั้นบนสุดตอนกลางคืนจะเป็นบาร์ชมวิวแม่น้ำฮานซึ่งเรากะเพื่อนไม่ได้ขึ้นไปเลย รูปที่พักสามารถ search ดูได้เลยนะคะ เราลืมถ่ายรูปโฮสเทลมา
อันนี้เป็นพิกัดที่พักจาก google map ค่ะ จะเห็นว่าที่พักอยู่ริมแม่น้ำฮานเลย มองไปก็จะเห็นสะพานมังกร (dragon bridge) อยู่ไม่ไกลมาก
สำหรับเส้นทางวิ่งที่เราจะไปวิ่งในเช้าก่อนวันเดินทางกลับไทย เราก็อาศัย app ของนาฬิกาวิ่งซุนโต้ค่ะ เปิดหน้าที่เป็น heat map ที่แสดงเส้นทางวิ่งที่มีคนใช้งานมากๆ ก็จะมีเส้นสีส้มเรืองแสงออกมา และเราก็เห็นว่าเส้นทางวิ่งที่น่าสนใจ และวิวน่าจะสวย มีอยู่ 2 เส้นทาง และก็เป็นเส้นทางที่คนนิยมวิ่งกันเยอะๆ (ดูจากความเข้มของสีส้มก็แปลว่าคนใช้งานเส้นทางนี้เยอะมาก) ก็คือเส้นทางเลียบริมแม่น้ำฮาน และเส้นทางเลียบทะเลที่เป็นชายหาดหมีเคว (My Khe Beach) ที่อยู่ทางทิศตะวันออกค่ะ
ใจจริงเราอยากไปวิ่งเส้นทางเลียบชายหาดหมีเคว แต่เราลองลากระยะทางจากที่พัก ไปและกลับ จะพบว่า ใช้ระยะทางค่อนข้างมาก และด้วยอัตราการวิ่งที่ช้ามากของเรา ดูระยะทางแล้วถ้าวิ่งไปทางชายหาดหมีเคว มันต้องข้ามเมืองไปค่อนข้างไกล กลัวจะกลับมาอาบน้ำ เช็คเอาท์และไปสนามบินไม่ทัน แต่อีกใจเราก็อยากจะวิ่งไปดูชายหาดของเวียดนามด้วย เราเลยเลือกวิ่งเส้นทางริมแม่น้ำฮานแทนค่ะ เพราะดูจากแผนที่ (ตามรูปในแผนที่ก็คือเส้นสีม่วงที่เราลากเลยค่ะ) จะพบว่า ถ้าเราวิ่งไปจนสุดปากแม่น้ำฮาน จะมีทางออกสู่ทะเล โดยที่จะมีถนนโค้งไปทางซ้าย และถนนจะพาไปพบกับชายหาดอีกฝั่งหนึ่งของเมืองดานัง เป็นชายฝั่งทางทิศเหนือค่ะ ดูน่าสนใจใช่มั๊ย ได้เห็นวิวแม่น้ำ และจะได้เห็นวิวทะเลด้วย ดูระยะทางไปกลับแล้วน่าจะประมาณ 15-16 km คิดว่าพอไหวๆ เลยตัดสินใจว่าเช้านี้เราจะวิ่งเส้นนี้ทั้งไปและกลับ
มาดูแผนที่ใน heat map ของแอปซุนโต้กันบ้าง ลองลากเส้นทางเพื่อดูระยะทางที่คิดว่าจะวิ่ง ระยะทางขาไป ประมาณ 8 km เราก็จะได้เห็นวิวแม่น้ำและวิวทะเล ถ้าวิ่งด้วยอัตราเร็ว 5km/h (คิดเป็นเพซก็ประมาณ เพซ 12 เดินๆ วิ่งๆ หยุดๆถ่ายรูปเล่นไปด้วย ก็จะใช้เวลาวิ่ง 1 ชม. 36 นาที) จัดเส้นทางนี้เลยละกัน เดี๋ยวขากลับค่อยว่ากันอีกที ถ้าเหนื่อยจนวิ่งหรือเดินกลับไม่ไหวก็มีแผนสองสำรองไว้คือกะว่าจะเรียก grab bike กลับโฮสเทลแทน
เริ่มจากที่พักเลย ที่พักของเราอยู่แถวๆจุด A ในรูปบนค่ะ เดินออกมาหน้าที่พัก เลี้ยวขวา ข้ามถนนมานิดเดียวก็เจอถนนเลียบริมแม่น้ำฮานแล้ว ที่เวียดนาม พระอาทิตย์ขึ้นเร็วกว่าเมืองไทยมากๆ ตีห้าฟ้าก็เริ่มสว่างแล้วค่ะ เราออกจากโฮสเทลตีห้าครึ่งนี่พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ยังตกใจนึกว่าออกมาสาย ถ้าเป็นที่บ้านเราตีห้าครึ่งยังมืดอยู่เลย ตอนที่เพิ่งตื่นเราได้ยินเสียงลำโพง มีเพลงดังมาแว่วๆ ไกลๆตั้งแต่เช้า ออกมาจากโฮสเทลถึงได้เห็นว่า ริมแม่น้ำฮาน มีชาวเวียดนามตื่นเช้ามาออกกำลังกายกันมากมาย มีทั้งวิ่ง และจับกลุ่มออกกำลังกายกัน เช่น เต้นแอโรบิค หรือออกกำลังกายแบบผู้สูงอายุเค้าเล่นกัน เราไม่รู้เรียกว่าอะไร รำไทเก๊กหรือเปล่า ไม่แน่ใจ แต่มีหลายกลุ่มมาก และแต่ละกลุ่มก็จะมีลำโพงเครื่องเสียงเล็กๆเป็นของตัวเองเอาไว้เปิดเพลงในกลุ่มค่ะ คนที่นี่ดูสุขภาพดีกันมาก มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนแก่มาออกกำลังกันตั้งแต่เช้า และไม่ค่อยเห็นคนอ้วนเท่าไหร่เลยค่ะ
ต่อไปนี้ก็จะเป็นภาพวิวระหว่างเส้นทางวิ่งของเราวันนี้ค่ะ ช่วงนี้คือเพิ่งออกมาจากที่พักเลย เห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้นที่อีกฝั่งนึงของแม่น้ำฮาน แสงยามเช้าสวยมาก ก็จะเจอกับชาวเวียดนามต่างวัย มาออกกำลังกายกัน
เห็นสะพานข้ามแม่น้ำฮาน (Cầu Sông Hàn) อยู่ด้านหน้า เราจะวิ่งผ่านสะพานนี้ไปกันค่ะ
มองไปที่วิวฝั่งตรงข้ามแม่น้ำฮาน พระอาทิตย์ขึ้นเต็มที่ อากาศเริ่มร้อนแล้วค่ะ
เราวิ่งเลียบริมแม่น้ำฮานไปเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงปากแม่น้ำ ออกสู่ทะเล เราก็จะเจอกันสะพานสุดท้าย ชื่อว่าสะพานถ่วนเฟื้อก (Cầu Thuận Phước) เป็นสะพานแขวนข้ามแม่น้ำฮานตอนล่าง
บริเวณปากแม้น้ำนี้ก็จะมีเรือประมง มาจอดเทียบท่า และมีชาวประมงเอาของทะเลสดๆ เช่น ปู ปลา มาขายกันแถวนี้ค่ะ มีชาวบ้านมาซื้อกันเต็มเลย แอบไปมุงดูกะเค้าด้วยว่ามีอะไรขายบ้าง
เมื่อเราวิ่งเลียบริมแม่น้ำฮาน ตรงไปเรื่อยๆจนสุดทาง มันจะเป็นส่วนที่เป็นปากแม่น้ำเพื่อออกสู่ทะเลแล้วค่ะ ถนนและทางเท้าจะพาเราเลี้ยวซ้ายไปเรื่อยๆ เราก็วิ่งไปต่อค่ะ จุดหมายต่อไปคือต้องไปเห็นชายหาดฝั่งทิศเหนือตามแผนที่ตั้งใจไว้
เมื่อเลี้ยวซ้ายช่วงแรกจะยังไม่เจอทะเล จะมีอาคารส่วนที่กำลังก่อสร้างปิดสังกะสีไว้ เราก็วิ่งเลาะไปเรื่อยๆนะคะ ตาก็ดูตามแผนที่ในซุนโต้ไปว่า เมื่อไหร่จะถึงทะเล วิ่งไปเรื่อยๆ เย้! เจอทะเลแล้วค่ะ ทะเลอยู่ฝั่งขวามือนะคะ ไปถึงชายหาด แดดร้อนแรงพอดี
ชายหาดบ้านเค้าไม่ค่อยสวยมากเหมือนทะเลใต้บ้านเราแฮ่ะ แต่เจอเรือประมงที่เป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม ทรงครึ่งวงกลม ไม่รู้เรียกเรืออะไร เราไปที่ฮอยอัน เห็นคนไทยเรียกเรือกระด้ง หรือเรือตะกร้า เก๋และเป็นเอกลักษณ์แปลกตาดีค่ะ
ถึงจุดนี้ เราร้อนและเหนื่อยมากๆแล้ว คิดว่าควรหาทางกลับได้แล้ว และต้องมองหาน้ำกินแก้ร้อนก่อนค่ะ ฝั่งชายหาดไม่มีร้านค้าขายของ ขายน้ำ ขนม มาตั้งเหมือนบ้านเราแฮ่ะ เราเลยต้องข้ามถนนมาฝั่งตรงกันข้าม เพื่อเดินย้อนกลับและมองหาร้านน้ำกินประทังชีวิต ฮ่าๆ เดินๆไป เจอร้านขาย "บั่นหมี่" หรือบาร์แกต ขนมปังฝรั่งเศษใส่ไส้ต่างๆ เช่น ไข่ หมูยอ กุนเชียง แตงกวา ผักต่างๆ แล้วมีซอสราด แต่ละร้านก็อร่อยรสชาติแตกต่างกันไป ด้วยความหิว เราก็เลยแวะนั่งพักและสั่งบั่นหมี่ กับน้ำส้ม กินเป็นอาหารเช้า ท่ามกลางสภากาแฟและน้ำส้มคั้นของหนุ่มๆชาวเวียดนามค่ะ
ที่เวียดนามนี้เอกสักษณ์ของร้านขายอาหารข้างถนนอย่างหนึ่งก็คือการนั่งเก้าอี้ตัวเตี้ยๆ ริมถนน แล้วสังสรรค์กันเหมือนสภากาแฟบ้านเรา ประมาณนั้นเลยค่ะ แต่เก้าอี้เค้าจะเตี้ยๆหน่อย แปลกกว่าบ้านเรามากอยู่ และท่ามกลาสภากาแฟ เราก็สังเกตว่า ส่วนมากที่ออกมานั่งกันจะเป็นผู้ชายเวียดนาม มากกว่าผู้หญิงค่ะ ^^
ระหว่างนักพักกินบั่นหมี่และน้ำส้ม เราก็คิดว่าจะกลับไงดี ฮ่าๆ เพราะถ้าวิ่งกลับทางเดิมคือต้องกลับไปไกลมาก จะเรียก grab รึก็เสียดายเงิน (จริงๆละใช้ grab ยังไม่เป็นเพราะทุกทีให้เพื่อนเรียกให้ -_-" ) เราเลยตัดสินใจว่าจะเดินกลับ แต่จะไม่กลับทางเดิม และจะหาทางลัดที่สั้นที่สุดไปค่ะ คือการต้องเดินผ่านเมืองนั่นเอง ระหว่างขากลับเราก็ได้รู้จักเมืองดานังของจริง เพราะต้องผ่านชุมชน และรถมอเตอร์ไซค์เยอะมาก เดินไปต้องระวังไป วิ่งก็ไม่ได้ค่ะ เพราะต้องคอยระมัดระวังมอเตอร์ไซค์เวลาจะข้ามถนน เราเลยไม่ได้ถ่ายรูประหว่างทางกลับมานะคะ มีรูปนิดหน่อยตอนใกล้จะถึงโฮสเทลแล้ว
สุดท้ายเราวิ่งมาถึงโฮสเทลได้อย่างปลอดภัย แวะกินกาแฟมะพร้าว ที่เค้าว่าเป็นเมนูเด่นของคาเฟ่ที่อยู่ชั้นหนึ่งของที่พักก่อนขึ้นไปอาบน้ำเก็บของเตรียมเช็คเอาท์
ระยะทางรวมของการ #วิ่งไปเที่ยวไป วันนี้ ขาไปได้ระยะทาง 7.61 km ค่ะ ใช้เวล 1 ชม. 10 นาที แล้วเราก็กดหยุดนาฬิกา เพื่อนั่งพักกินน้ำส้มและบาร์แกต
ส่วนขากลับเป็นการเดินกลับทางลัดผ่านเมืองดานังค่ะ ไม่ได้เลียบทะเลและแม่น้ำกลับทางเดิม ระยะทางเลยหดสั้นเหลือประมาณ 4 km ใช้เวลาไป 48 นาที
สำหรับวันนี้ก็ขอจบการรีวิวการวิ่งไปเที่ยวไปในดานังไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ^^
#TheWanderlustRunner #วิ่งไปเที่ยวไป
โฆษณา