23 ก.พ. 2021 เวลา 23:22 • การเมือง
เขาว่ากันว่าบุรุษผู้นี้ Crown Prince Mohammed Bin Salman สั่งฆ่า
เมื่อเอ่ยถึงกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะเป็นภาพคุ้นตากับเรื่องรบราฆ่าฟันกันเป็นส่วนใหญ่ จนบางครั้งก็ไม่เข้าใจว่า ประเทศแถบนั้น ล้วนแต่ร่ำรวยไปด้วยน้ำมัน ทำไมจึงชอบทำสงครามกันอยู่เป็นนิจ
และด้วยความที่เป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ จึงมักจะดูข่าวทางทีวี แค่รู้คร่าวๆ ผ่านๆไป รู้แค่ว่า เขามีระเบิดเมืองโน้น เมืองนี้เท่านั้น แล้วก็ไม่สนใจในเชิงลึก
แต่เมื่อปี 2019 มีข่าวดัง ข่าวใหญ่ ถึงการฆ่านักข่าวคนหนึ่ง ของสำนักข่าววอชิงตันโพสต์ เห็นว่าฆ่าอย่างโหดเหี้ยม และเนื้อข่าว ก็เอ่ยนามถึงผู้สั่งการฆ่า ว่าเขาคือเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่ง ซาอุดีอาระเบีย
ดังนั้นจึงสนใจใคร่รู้ ว่าเหตุใดเจ้าชายจึงทำเช่นนั้น จริงหรือไม่ และเจ้าชายคนนั้น เป็นใคร ทำไมจึงถูกระบุว่าพระองค์ทรงสั่งการ จึงเริ่มค้นหาข้อมูล จาก internet อยู่หลายวัน เพื่อจะได้รู้จักเจ้าชายองค์นี้ให้มากขึ้น
จากการค้นประวัติส่วนพระองค์ ยิ่งน่าสนใจมากขึ้น เพราะพระชนม์มายุ ของพระองค์ ยังไม่มากมายเลย ทำไมจึงมีความแกร่งกล้า เด็ดขาด และมีวิสัยทัศน์ได้เช่นนี้ ทั้งๆที่ พระองค์เป็นรัชทายาท ที่ไม่ได้มีโอกาส ออกไปเล่าเรียนในมหาวิทยาลัย นอกประเทศ เหมือนเจ้าชายองค์อื่นๆ ในเมืองที่แสนร่ำรวยแห่งนี้
จากการค้นหาอ่านประวัติ เพื่อทำความรู้จัก ก็รู้สึกหลงรักผู้ชายคนนี้ เนื่องจาก พระองค์ ทรงมีหลายบทบาท ที่ต้องจัดการไปพร้อมๆกัน
🌀ในบทบาทที่พระองค์เป็นลูกชาย ก็อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ พระบิดา เพื่อช่วยบริหารประเทศได้อย่างดี จนพระบิดาทรงไว้พระทัย ถึงพระองค์จะยังอยู่ในตำแหน่ง มกุฎราชกุมาร แต่พฤตินัยแล้ว พระองค์ปฎิบัติภาระกิจเป็นผู้นำของประเทศแล้ว
🌀ในบทบาท ที่เป็นผู้บริหารเศรษฐกิจ พระองค์เป็นนักปฎิวัติ ที่มีวิสัยทัศน์ กล้าที่จะฝ่าเสียงคัดค้านจากคนส่วนใหญ่ ที่ยังยึดขนบธรรมเนียมประเพณี ที่เคร่งครัด เรียกว่าแทบจะไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แต่พระองค์ ดูเหมือนจะดื้อดึง และค่อยๆจัดการปรับเปลี่ยน ให้บ้านเมืองค่อยๆมีความทันสมัยอาทิเช่น
- อนุญาติให้สตรีสามารถขับรถได้ เนื่องจากพระองค์มองว่า ประเพณีเดิม จะต้องมีการจ้างคนขับรถทุกบ้าน เพื่อคอยรับส่งผู้หญิง เวลาออกไปทำธุระนอกบ้าน เพราะประเพณี จะไม่อนุญาติให้ผู้หญิง ไปกับชายอื่นๆ ดังนั้น หากผู้หญิง ขับรถเองได้ ก็จะลดการจ้างคนขับรถ ไปได้เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
- สร้างแผนปฎิรูปประเทศ และตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะลดรายได้ของประเทศ ที่มาจาก การขายน้ำมันอย่างเดียว โดยเพิ่มการพัฒนาประเทศ ให้มุ่งเน้นด้านการผลิตยา ผลิตแพทย์ เพื่อเป็นศูนย์กลางการรักษาที่ทันสมัยของตะวันออกกลาง และพระองค์ทรงสนพระทัย ในเรื่องเทคโนโลยี สมัยใหม่ มากมาย จนวางแผนสร้างเมืองให้เป็นเมือง smart city เพื่อให้ประชาชน ทันสมัย และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งพระองค์ทรงเล็งเห็นว่าในอนาคตอันใกล้นี้ พลังงาน อาจจะไม่ใช่น้ำมัน ให้พึ่งพาเหมือนอย่างเคยแล้ว
- สตรี ขาวซาอุดีอาระเบีย ส่วนใหญ่ มีการศึกษาดี แต่ด้วยประเพณี เพศชายเป็นใหญ่ จึงปิดกั้น ทำให้สตรี ไม่สามารถ นำศักยภาพของเธอ ออกมาทำงานได้ พระองค์ทรงค่อยๆ ปรับกฎเหล็ก ให้ยืดหยุ่น สำหรับสตรีเพศมากขึ้น ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมในประเทศ
- เมืองซาอุดีอาระเบีย มีปัญหาการคอรัปชั่น และใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย กัดกินภาษีของประเทศ และบุคคลที่ก่อปัญหาดังกล่าว ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มพระญาติ และเชื้อพระวงศ์นั่นเอง และในคืนวันหนึ่ง พระองค์ทรงปฏิวัติและเชิญเชื้อพระวงศ์จำนวนมากไปกุมขังที่โรงแรมหรู เพื่อสังคยนา ทำให้ได้เงินโกงเหล่านั้นกลับคืนสู่ประเทศ จำนวนไม่น้อย
🌀 ในบทบาทแม่ทัพ พระองค์ก็ไม่ทรงย่อหย่อน ทรงออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่ กับทหารหาญของพระองศ์ และทรงบัญชาการรบ ที่เด็ดขาด ซึ่งคนทั่วไปอาจจะเรียกว่าโหดเหี้ยม แต่เป็นเรื่องปกติ ของการรบ หากผู้นำขาดความเด็ดขาด ก็ดูจะอันตรายสำหรับกองทัพ ดังนั้นไม่แปลก หากการรบจะมีการตัดสินใจอย่างโหดเหี้ยม ตามกฎของสงคราม
🌀 ในด้านการทูต พระองค์ทรงมีพระชนม์มายุ เพียง 34 พรรษาเท่านั้น แต่ทรงสามารถ มีพระสหายเป็นคนดังๆ เช่นโดนัลทรัมป์ (อาจเพราะเป็นลูกค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ ของอเมริกา)สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซียเป็นต้น
🌀 ในบทบาทหัวหน้าครอบครัว พระองค์ทรงแต่งงานแล้วและมีบุตรธิดา รวม 4 พระองค์และทรงไม่ยินยอมให้ครอบครัว ต้องออกสื่อใดๆ เพราะเหตุผลที่พระองค์เคยให้ไว้ว่า “ข้าพเจ้าต้องการให้ลูกๆ ใช้ชีวิตธรรมดาที่สุด ห่างจากจุดสนใจของผู้คน แรงกดดันและความสนใจทางการเมือง ภรรยาของข้าพเจ้าก็ต้องการแบบนี้เช่นกัน” นี่คือแฟมิลี่แมนตัวจริง ถึงแม้ว่าจะได้มีข่าวเล่าลือว่า พระองค์มีชายาอีก 4 คน ซึ่งไม่มีการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
🌀 ในบทบาทมหาเศรษฐี พระองค์ทรงเป็นเจ้าของคฤหาสน์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกในราคา 9,820 ล้านบาท มีเรือยอชต์ ราคา 16,255 ล้านบาท มีรถหรูอีกนับไม่ถ้วน รวมถึงมีภาพวาดลีโอนาร์โด ดาวินชี จิตรกรเอกของโลกชาวอิตาเลียนด้วยราคาประมาณ 14,540 ล้านบาท นอกเหนือจากนี้ยังทรงเคยคิดจะซื้อ ทีมฟุตบอลชื่อดัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกด้วย
และจากที่ทรงงาน มากมายหลายบทบาท ในเวลาเดียวกันเช่นนี้ นักข่าวเคยสัมภาษณ์พระองค์ไว้ ว่าทำไมจึงพระองค์ ดำเนินการเหมือนกับเวลาใกล้จะหมดลงแล้ว เจ้าชาย กล่าวตอบว่า “ผมเกรงว่า หากเกิดตายขึ้นมา ผมคงจะตายไปโดยไม่บรรลุความสำเร็จในสิ่งที่ผมมีอยู่ในใจ ชีวิตนั้นสั้นมาก และหลายอย่างอาจเกิดขึ้นได้ ผมต้องการเห็นสิ่งนี้ด้วยตาตัวเอง สิ่งนี้คือทำไมผมจึงต้องรีบดำเนินการ”
จากหลายๆบทบาท ของชายหนุ่มวัย 30 ต้นๆ ที่ทำอะไรมากมายเหลือเกิน ท่านดูจะร้าย ในสายตาโลก แต่ท่านน่าจะอบอุ่น ท่ามกลางกลุ่มคนของท่าน คนที่ไม่ได้เพียงมองดูอยู่ไกลๆ คนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการตัดสินใจที่เด็ดขาดดื้อดึงของพระองค์ ซึ่งแน่นอนที่สุด ต้องมีทั้งถูกต้อง และผิดพลาด แต่ที่สำคัญ ท่านได้พยายามทำมัน ด้วยใจของชายชาตรี คนหนึ่ง
ส่วนคดีสังหาร นักข่าววอชิงตันโพสต์ ซึ่งข่าวรายงานถึงสาเหตุการเสียชีวิต สาเหตุมาจากนักข่าวรายนั้น ชอบมาล้วงความลับ และเผยแพร่ข่าวสาร ในเชิงลึกของประเทศ และเมื่อทั่วโลก ส่องไฟไปที่พระองค์ คาดคั้นเอาคำตอบว่า ใช่พระองค์หรือเปล่า ที่เป็นบุคคลสั่งการ มกุฎราชกุมารทรงตัดสินพระทัย ออกสื่อให้สัมภาษณ์ในรายการทีวี สถานีซีบีเอส ของสหรัฐว่า “พระองค์ต้องรับผิดชอบคดีนี้อย่างเต็มที่ ในฐานะผู้นำของราชอาณาจักร แต่พระองค์ไม่ทรงรู้ว่าการปฏิบัติการดังกล่าว เกิดขึ้นอย่างไร เพราะไม่สามารถจับตาคนที่ทำงานให้พระองค์ ซึ่งมีจำนวนมากเป็นล้านๆคนได้ “ หลังจากให้สัมภาษณ์ คดีก็เริ่มคลี่คลายลง ด้วยกาลเวลา โดยไม่สามารถ สาวไปถึงพระองค์ได้ และโลกก็ยังคงไม่รู้ว่า การเสียชีวิต ของนักข่าวผู้นั้น มันจะเกี่ยวข้องกับพระองค์หรือไม่
📌 มนุษย์ มีทั้งแง่ดี และแง่ร้ายอยู่ในคนๆเดียวเสมอ ขอเพียงแต่ได้มีความคิด ที่จะลงมือทำ ลงมือตัดสินใจ ทำในสิ่งที่ประชาชนของตนมั่นคงขึ้น อย่างเป็นรูปธรรม แค่นั้นก็เรียกได้ว่า เสียสละแล้ว
📌 คำว่าลูกผู้ชายตัวจริงแน่นอน จะมีมุม bad ปะปนอยู่เสมอ แต่มุม bad มุมนั้น ต้องหาสาระได้
📌 มุมมองผู้เขียน อาจจะลาเวนเดอร์ เพราะหากมองเชิงลึกไป ก็จะทำให้บุคคลคนนั้น ไม่มีความดี เหลืออยู่เลย จึงพยายามมองภาพกว้าง และแยกแยะ ทั้งสาเหตุ และเหตุผล จึงสรุปได้ว่า บุรุษผู้นี้น่านับถือเป็นยิ่งนัก
Cr. Photo : CLIFF OWEN / ASSOCIATED PRESS
By Bradley Hope and Justin Scheck
hthttp://www.khaosod.co.th
โฆษณา